"เทเลกราฟ" สื่อดังในอังกฤษ ตีข่าว โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเชลซี โชว์ความเฮี้ยบด้วยการเฉดหัว อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ออกจากการฝึกซ้อมร่วมกับทีมเมื่อวันอาทิตย์ เนื่องจากนักเตะดันสร้างปัญหาจนเป็นเหตุให้ทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีม สุดท้ายทุกอย่างจบลงด้วยดี เมื่อ เซนเตอร์แบ็กชาวเยอรมัน ยอมขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
    
โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันของ เชลซี ไล่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เซนเตอร์แบ็กเพื่อนร่วมชาติออกจากการฝึกซ้อมร่วมกับทีม หลังจากที่มีปัญหาทะเลาะกับ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูเลือดสแปนิช เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา

ทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เพิ่งจะพังไม่เป็นท่าต่อ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-5 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์หลังจากที่ ติอาโก้ ซิลวา เซนเตอร์แบ็กชาวบราซิเลียน โดนใบแดงตั้งแต่ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ซึ่งส่งผลให้สถิติไร้พ่ายของ ทูเคิ่ล ต้องหยุดลงที่ 14 เกม

หลังจบแมตช์ดังกล่าว นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช พยายามกระตุ้นลูกทีมให้แสดงปฏิกิริยาตอบสนองด้วยท่าทีและทัศนคติที่ถูกต้อง ขณะที่ เคิร์ท ซูม่า กองหลังเห็นด้วยกับกุนซือด้วยการพยายามกระตุ้นแข้ง "สิงห์บูลส์" ให้รีบฟื้นคืนสภาพและเล่นด้วยฟอร์มที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

จากรายงานของ "เทเลกราฟ" สื่อดังในเมืองผู้ดี เผยว่า รือดิเกอร์ สร้างปัญหาในการฝึกซ้อมเมื่อวันอาทิตย์จนเป็นเหตุให้ ทูเคิ่ล ต้องไล่เขาออกไปจากการฝึกซ้อมเพื่อจะได้สงบสติอารมณ์ หลังจากที่มีการกระทบกระทั่งกับ เกปา 

แหล่งข่าวเปิดเผยว่าจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์มาจากการที่ รือดิเกอร์ เข้าเสียบหนักใส่ นายด่านเลือดกระทิงดุ ส่งให้ผลให้ เกปา ออกอาการฮึดฮัดและนำไปสู่การแสดงปฏิกิริยาด้วยการผลักกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ ทูเคิ่ล ต้องตัดสินใจแยกทั้งคู่ออกจากกัน

กระนั้นดูเหมือนว่า รือดิเกอร์ ยังคงหัวร้อนไม่ยอมจบปัญหาสุดท้ายก็เลยโดนไล่ออกจากสนามซ้อมเพื่อให้เขาเข้าไปสงบสติอารมณ์ภายในอาคารขณะที่ เกปา ยังคงได้รับอนุญาตให้ทำการฝึกซ้อมในช่วง 5 นาทีสุดท้าย จากนั้นทุกๆ อย่างค่อยคลี่คลายเมื่อ กองหลังทีมชาติเยอรมนี ยอมขอโทษ ส่วน ทูเคิ่ล ก็มีความสุขที่เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี ส่วนคู่กรณีคาดว่าคงไม่มีอะไรค้างคาใจแล้ว

ทั้งนี้มีรายงานว่า เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แบ็กขวากัปตันทีม และ รีซ เจมส์ ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษ มีปัญหาทะเลาะกันภายในห้องแต่งตัวที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจบแมตช์ที่โดน เวสต์บรอม อัดยับไม่นับญาติ ซึ่งว่ากันว่า เจมส์ ต้องมีส่วนรับผิดชอบกับจังหวะที่ทีมเสียประตูที่สอง กระนั้นเรื่องนี้ก็จบลงด้วยดีเมื่อทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันเป็นการส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว