จู้ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์อนาคตไกลของ ดอร์ทมุนด์ เปิดอก ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของกรรมการที่มองว่าตนทำฟาวล์ เอแดร์ซอน โมราเอส จนทำให้ "เสือเหลือง" ไม่ได้ประตูตามไปด้วย แต่เสริมว่าทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องยอมรับมันแต่โดยดี

จู้ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แสดงความไม่พอใจกับการตัดสินของทีมกรรมการที่ปฏิเสธจังหวะที่ควรจะเป็นประตูของเขา ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ทัพ "เสือเหลือง" ออกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอังคารที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา

ตอนที่ แมนฯ ซิตี้ นำอยู่ 1-0 นั้น มีจังหวะหนึ่งที่ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตู "เรือใบสีฟ้า" จับบอลลอยสูงไป โดยที่ เบลลิงแฮม ก็วิ่งเข้ามาจิ้มบอลได้ก่อนที่ เอแดร์ซอน จะเตะโดนบอล และหลังจากนั้น เบลลิงแฮม ก็ส่งบอลเข้าไปนอนในก้นตาข่ายได้ ส่วน เอแดร์ซอน ล้มลงไปจนเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บ

ในตอนแรกหลายคนนึกว่า ดอร์ทมุนด์ ได้ประตูตีเสมอในจังหวะนี้ แต่กลับกลายเป็นว่า โอวิดิอู ฮาเตแกน กรรมการชาวโรมาเนียเป่าว่า เบลลิงแฮม ทำฟาวล์ตั้งแต่ก่อนที่อดีตแข้ง เบอร์มิงแฮม ซิตี้ จะยิงเข้าไปแล้ว พร้อมกับตัดสินให้ แมนฯ ซิตี้ ได้ลูกฟรีคิก ซึ่งมันก็กลายเป็นว่า วีเออาร์ ไม่สามารถทำอะไรกับจังหวะนี้ได้ตามไปด้วย

Jude Bellingham got the ball fair and square, it wasn’t a foul on Ederson, the goal should’ve stood pic.twitter.com/C5OFu11ol7

— (@F1avs) April 6, 2021
เบลลิงแฮม เผยว่า "ผมคิดจริงๆ ว่าผมแย่งบอลมาได้แบบยุติธรรม มันน่าหงุดหงิดนิดๆ ที่พวกเขามีกล้องตั้งมากมาย และมีจอทีวีให้ดูตั้งหลายเครื่อง แต่พวกเขากลับไม่รอให้ผมส่งบอลเข้าประตูไปก่อนถึงจะค่อยเช็กมัน แต่ฟุตบอลกับชีวิตของคนเรามันก็เป็นแบบนี้แหละนะ เราต้องทนยอมรับมันให้ได้"

"สิ่งที่กรรมการบอกกับผมก็คือผมโดนใบเหลือง และพวกเขาได้ลูกฟรีคิก ผมคิดว่าพวกเขาควรจะเช็กจังหวะนี้สักหน่อย แต่กลับกลายเป็นว่าผมยกเท้าสูง, ไปโดนผู้รักษาประตูของอีกฝ่าย และถูกจับฟาวล์ซะอย่างนั้น"