โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับ 7 กองหน้านับตั้งแต่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้กุมบังเหียน "ปีศาจแดง" โดยหัวหอกเหล่านี้ทำผลงานได้แตกต่างกันไปโดยบางรายยังคงได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง บางรายก็ต้องโบกมือลาทีม
   
สำหรับกองหน้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นบางคนก็ย้ายมาอยู่กับทีมยุคที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ครองอำนาจ แต่กระนั้นเมื่อ "น้าลูกอม" ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาสืบทอดตำแหน่ง เจ้าตัวก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงนักเตะแนวรุกเพื่อให้เหมาะสมกับแผนการเล่นของเขา
   
ในปัจจุบัน "ผีแดง" มีกองหน้าอยู่หลายคนแต่ที่เป็นหน้าเป้าแท้ๆ ก็มีแค่ เอดินสัน คาวานี่ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทีมมีข่าวลือหนาหูอยากได้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กับ แฮร์รี่ เคน เข้ามาเสริมทัพ เพราะทั้งสองคนนี้ถือเป็นกองหน้าขนานแท้จริงๆ

ส่วนกองหน้าที่มีอยู่และจากทีมไปแล้วทำผลงานได้ดีแค่ไหนนับตั้งแต่ที่ "น้าลูกอม" เข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ลองไปพิจารณากันดีกว่า

โรเมลู ลูกากู
โรเมลู ลูกากู ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงด้วยการซัดไป 21 ประตูในเกมลีกฤดูกาลนี้ส่งให้ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ยึดตำแหน่งจ่าฝูงศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ได้อย่างเหนียวแน่น และรั้งอันดับรองดาวซัลโว ตามหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แค่ 4 ประตูเท่านั้น

ฟอร์มของ ดาวยิงชาวเบลเยียม สุดระเบิดเถิดเทิงจริงๆ กับการเล่นให้กับยอดทีมแห่งถิ่นจูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า โดยรวมแล้วเขาตะบันไปถึง 61 ประตูจากการลงสนาม 88 เกมให้กับทัพ "เนรัซซูรี่" นับตั้งแต่ที่โดน โซลชา ขายทิ้งออกจากแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2019

ความจริงแล้วตอนที่ ลูกากู สวมชุด "เร้ด เดวิลส์" เขาไม่ใช่กองหน้าตัวเลือกแรกของ "น้าลูกอม" นับตั้งแต่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้กุมบังเหียนสโมสรถาวร โดยนักเตะยิงได้แค่ 12 ประตูในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลดังกล่าว

ฉะนั้นการย้ายทีมจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมลงตัวสำหรับทั้งสองฝ่าย โดย นายใหญ่เบบี้เซ ยอมรับว่า "ผีแดง" จำเป็นต้องหาหน้าเป้าที่แท้จริงๆ มาร่วมทีม หากต้องการที่จะประสบความสำเร็จ เพราะแนวรุกที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถเติมเต็มจุดนี้ได้

คะแนน : 6 เต็ม 10
 
อเล็กซิส ซานเชซ
ชื่อของอเล็กซิส ซานเชซ คงทำให้เหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" เบ้ปากรับไม่ได้ เพราะนี่คือหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ห่วยแตกที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถมยังสร้างความบันเทิงให้กับทีมอื่นได้ล้อเลียน
เมื่อนักเตะเปิดตัวอย่างเท่ด้วยการเล่นเปียโน !!

หลังจากที่หัวหอกชาวชิลีโชว์ฟอร์มได้อย่างเลิศเลอเพอร์เฟกต์กับ อาร์เซน่อล ทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งกุมบังเหียน "ปีศาจแดง" ในเวลานั้น ต้องรีบพยายามดึงตัวมาเสริมทัพด้วยการนำ เฮนริค มคิทาร์ยาน ไปแลกตัวเมื่อเดือนมกราคม 2018

ในเวลานั้น ซานเชซ ได้รับค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลว่ากันว่าประมาณ 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,140 ล้านบาท) ต่อปี แต่ผลงานสวนทางกับเม็ดเงินที่ได้รับโดยเขาทำได้แค่ 5 ประตูจากการลงเล่น 45 เกม
ก่อนจะโดนจับลอยแพไปให้ อินเตอร์  มิลาน ใช้งานแบบยืมตัวครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2019 และย้ายแบบฟรีเอเจนต์ในปีถัดมา

สำหรับผลงานของ ซานเชซ กับ "งูใหญ่" ก็ไม่ค่อยโสภาสถาพรเท่าไหร่นัก เมื่อเจ้าตัวส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายแค่ 9 ประตูจาก 63 เกม แถมยังต้องเจอกับงานสุดหินในการลงเล่นตัวจริงด้วย แต่ทั้งนี้
ทั้งนั้นต้นสังกัดใหม่กำลังฟอร์มดีมีลุ้นแชมป์ ทำให้หลายคนไม่ค่อยตำหนิเขามากนัก

คะแนน : 3 เต็ม 10
 

อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ต้องโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาในฤดูกาลนี้ แถมนักเตะยังต้องเจอกับการแข่งขันในการแย่งตำแหน่งตัวจริง ยิ่งทำให้เจ้าตัวต้องเจอกับปัญหาความเครียด จนส่งผลต่อผลงานที่นับวันมีแต่สาละวันเตี้ยลง

ในช่วงที่ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ฟอร์มร้อนแรงเขาได้รับคำชื่นชมจากแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าเหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" อยากจะเห็น มาร์กซิยาล พัฒนาฝีเท้าให้มากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ที่ย้ายจาก โมนาโก มาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อช่วงต้นซีซั่น 2015/2016

สำหรับซีซั่นที่ผ่านมา "น้องหมาก" สร้างผลงานดีมีคุณภาพในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เมื่อเขาจัดการตะบันตาข่ายคู่แข่งไปถึง 17 ประตูในลีก  และส่งผลให้ยอดทีมแห่ง "โรงละครแห่งความฝัน" จบซีซั่นในอันดับ 3 คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ สำเร็จ

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลปัจจุบัน มาร์กซิยาล ยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย แถมยังมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บรุมเร้า นั่นส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมานักเตะมีข่าวว่าเตรียมจะโดนขายทิ้งในช่วงซัมเมอร์นี้

คะแนน : 7 เต็ม 10

มาร์คัส แรชฟอร์ด
มาร์คัส แรชฟอร์ด คือดาวซัลโวประจำทีมในฤดูกาลนี้ เขาพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาจนกลายเป็นตัวหลักของสโมสร และแน่นอนว่านี่คือนักเตะที่ โซลชา ต้องเลือกลงเล่นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ หากเขาไม่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน

หัวหอกทีมชาติอังกฤษ รักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะในการยิงประตูในทุกๆ ซีซั่นที่เล่นให้ "ปีศาจแดง" นับตั้งแต่ที่ซัด 2 ตุงกับการลงสนามเปิดตัวให้ทีมชุดใหญ่ในแมตช์ปะทะ มิดทิลแลนด์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016

นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ ซึ่งเข้ามาสืบทอดตำแหน่งของ มูรินโญ่ ยืนกรานที่จะจับนักเตะไปเล่นเป็นแนวรุกทางกว้างมากกว่าที่จะให้เป็นหน้าเป้า และนั่นทำให้ ดาวเตะวัย 23 ปีระเบิดศักยภาพชั้นยอดของเขาออกมาจากการทำหน้าที่เป็นกองหน้าริมเส้นฝั่งซ้าย

แรชฟอร์ด มักจะโดนค่อนขอดจากแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด บางคนในช่วงแรกๆ แต่ต้องจำเอาไว้ว่าเขายังอายุน้อย และมีโอกาสที่จะพัฒนาได้อีกเยอะ โดยเฉพาะถ้าได้เล่นร่วมกับ เอดินสัน คาวานี่ หรือหากมีโอกาสประสานงานกับ แฮร์รี่ เคน กับ ฮาแลนด์

คะแนน : 8 เต็ม 10
 
เมสัน กรีนวู้ด
เมสัน กรีนวู้ด ยังขาดการเล่นที่คงเส้นคงวาไปบ้างในฤดูกาลนี้ หลังจากที่ซีซั่นที่ผ่านมาเขาเปิดตัวได้อย่างหวือหวา ด้วยการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ถึง 18 ประตูจากการเล่นทุกรายการให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

"ไม้เขียว" มีเครื่องหมายการค้าก็คือความรวดเร็ว และยิงได้ทั้งสองเท้า โดย โซลชา ให้โอกาสนักเตะได้ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อต้นซีซั่นที่ผ่านมา หลังจากที่สโมสรประสบปัญหาขาดแคลนการยิงประตูนับตั้งแต่ที่ ลูกากู ย้ายออกไป

ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปี แถมยังโดนดร็อปไปบ้างในซีซั่นนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรต้องน่ากังวล เพราะเขายังคงแสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจบสกอร์ที่เด็ดขาด อย่างในเกมล่าสุดที่ซัดประตูตอกฝาโลงแมตช์ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

กรีนวู้ด แสดงให้เห็นแล้ว่าเขาสามารถรับมือเป็นหน้าเป้าก็ได้ หรือจะขยับไปเล่นเป็นแนวรุกทางริมเส้นก็ดี ซึ่งแน่นอนว่านี่คืออนาคตของ แมนฯ ยูไนเต็ด และนับวันก็ฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ  เฉกเช่นเดียวกับ แรชฟอร์ด ที่แสดงให้เห็นในเวลานี้
 
คะแนน : 7 เต็ม 10

โอเดียน อิกาโล่
โอเดียน อิกาโล่ มีโอกาสได้ลงตัวจริง 5 แมตช์หลังจากที่ย้ายจาก  เซี่ยงไฮ้ กรีนแลนด์ เสิ่นหัว มาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบยืมตัวเมื่อช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าแฟนบอล "ผีแดง" ถึงกับเกาหัวว่าเขาเป็นใคร และเก่งยังไงถึงต้องดึงมาเสริมทัพ

ดาวเตะชาวไนจีเรีย พิสูจน์ตัวเองด้วยการซัดประตูสำคัญให้กับต้นสังกัดในเกมชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และ นอริช ซิตี้ ในศึกเอฟเอ คัพ และยังมีส่วนในเกมรุกของทีมในแมตช์ที่ปะทะกับ คลับ บรูช และ แอลเอเอสเค ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก

แต่หลังจากที่เซ็นสัญญาระยะสั้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นักเตะก็ไม่ค่อยได้แสดงผลงานอะไรมากนัก และแน่นอนว่าเขาไม่ใช่ผู้เล่นสำหรับแผนระยะยาวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดท้ายเจ้าตัวก็ย้ายไปเล่นให้กับ อัล-ชาบับ ทีมดันในลีกซาอุดีอาระเบีย ซึ่งนักเตะซัดไปแล้ว  3 ประตูจากการเล่น 7 เกมในลีกเศรษฐีน้ำมัน
 
คะแนน : 5 เต็ม 10
 
เอดินสัน คาวานี่
เอดินสัน คาวานี่ ซัดประตูให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว 8 ลูกในฤดูกาลนี้ แม้ว่าในช่วงแรกที่ย้ายมาอยู่กับทีมแบบฟรีเอเจนต์เมื่อเดือนตุลาคม เขาจะมีปัญหาเรื่องสภาพความฟิต และอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่องก็ตาม

เชื่อหรือไม่ว่า "เอล มาทาดอร์" เป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 3 ของทีมในซีซั่นนี้ แม้ว่าจำนวนเกมที่ลงเล่นก็ไม่ค่อยมากนักอะไรนัก โดยศักยภาพ และประสบการณ์ของ คาวานี่ มีส่วนสำคัญต่อเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างมากจนทำให้ทีมก้าวขึ้นมารั้งอันดับ 2 ในซีซั่นนี้

หัวหอกวัย 34 ปีมักจะลงสนามเป็นตัวสำรอง และสามารถเปลี่ยนเกมได้ทันทีโดยเฉพาะในแมตช์ที่ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่สนามเซนต์ แมรี่ส์ ด้วยผลงานในการเคลื่อนที่หาตำแหน่งอย่างชาญฉลาด ถือเป็นการเพิ่มมิติใหม่ในเกมรุกของ "ผีแดง" ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ คาวานี่ ยังมีสัญชาตญาณการเป็นหน้าเป้าที่แท้จริงที่ แมนฯ ยูฯ ขาดหายไปนาน ซึ่งนักเตะแสดงให้เห็นมาแล้วหลายเกม โดยเฉพาะในแมตช์ล่าสุดที่พุ่งโหม่งสุดสวยเกมสอย สปอร์ส ฉะนั้นผลงานของ ดาวยิงชาวอุรุกวัย จะเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมที่จะให้ แรชฟอร์ด และ กรีนวู้ด ได้ศึกษาวิธีการเล่น และแนวทางในการพัฒนาตัวเองให้เป็นหน้าเป้าที่สมบูรณ์แบบ

ฉะนั้นคงเป็นเรื่องน่าเสียดายหาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถรั้งตัว คาวานี่ เอาไว้กับทีม หลังจากที่นักเตะมีข่าวออกมาอย่างหนาหูว่าต้องการอำลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อกลับไปเล่นในทวีปอเมริกาใต้ ช่วงซัมเมอร์นี้

คะแนน : 7 เต็ม 10