แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสในการขยับไล่ตาม แมนฯ ซิตี้ หลังทำได้แค่บุกเสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด แบบไร้สกอร์ แม้เกมนี้ “ผีแดง” จะเป็นฝ่ายครองบอลและหาโอกาสยิงได้มากกว่าแต่พวกเขาฉกฉวยโอกาสไม่ได้ แน่นอนว่าต้องชมเกมรับของทัพ “ยูงทอง” ที่ทำได้เหนียวแน่นเหลือเกิน เรามาดูประเด็นที่น่าสนใจในเกมนี้กัน

1.ลีดส์เรียนรู้บทเรียน

เมื่อเราได้เห็นฟุตบอลสไตล์ บิเอลซ่า ที่บุกบ้าระห่ำไม่สนเกมรับ เชื่อว่าหลายคนทำนายผลก่อนเกมนี้ว่าผลสกอร์น่าจะออกมายิงกันกระจุยคล้ายๆกับนัดแรก แต่ดูเหมือนว่ากุนซือจะใช้บทเรียนจากเกมก่อนได้เป็นประโยชน์

บิเอลซ่า สั่งให้ลูกทีมเน้นรัดกุมมากขึ้นและวิ่งบีบเพรสซิ่งในแดนตัวเอง สั่งลูกทีมคอยตามปิดนักเตะคีย์แมนอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส แดนหน้าของทีมถอยหลังต่ำมาช่วยแพ็คเกมแดนกลางทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้จะครองบอลได้เยอะแต่ก็เจาะแนวรับลีดส์ยากเหลือเกิน

ลีดส์ เริ่มเรียนรู้ในการเจอกับทีมใหญ่ พวกเขาให้ความสำคัญกับเกมรับมากขึ้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมช่วงสองเดือนที่ผ่านมาพวกเขาเก็บผลการแข่งขันกับบิ๊กซิกซ์ได้ดีทั้งเสมอ เชลซี, เสมอ ลิเวอร์พูล , ชนะแมนฯ ซิตี้ และล่าสุดยังเก็บหนึ่งแต้มกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ด้วย

2.ตั้งใจเปลี่ยนตัวช้า?

เกมนี้แฟนผีน่าจะหงุดหงิดไม่น้อยกับการตัดสินใจที่ดูเชื่องช้าของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เขารอถึงนาทีที่ 76 กว่าจะเปลี่ยนตัวคนแรกซึ่งเป็นการนำ ปอล ป็อกบา ลงสนามแทน แดเนี่ยล เจมส์ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก

ขณะที่ เอดินสัน คาวานี่ และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ถูกส่งลงมานาที 86 และ 89 ตามลำดับซึ่งถือว่าให้เวลานักเตะในสนามน้อยมากและมันยากที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงทันทีทันใด นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ โซลชา โดนวิจารณ์หลังเกมจากแฟนบอล

ถ้าจะหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยตัวช้าก็อาจเป็นเพราะว่าต้องการพักนักเตะเพื่อ 3 เกมหนักข้างหน้าซึ่งได้แก่ การเปิดรังพบ โรม่า ในยูโรปาลีก, เกมแดงเดือดกับ ลิเวอร์พูล และ การเยือนโรม่านัดที่สอง แต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาควรจะส่งผู้เล่นลงมาเร็วกว่านี้เพื่อเปลี่ยนเกม

3.แดนเจมส์ฉวยโอกาสไม่ได้

ในเกมนัดแรกที่ถล่ม 6-2 แดเนี่ยล เจมส์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมพร้อมกับทำ 1 ประตูด้วย ไม่แปลกใจที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะให้เขาแทรกขึ้นมาออกสตาร์ทตัวจริงที่ เอลแลนด์ โร้ด แต่ทว่าเข้ากลับโชว์ฟอร์มไม่ได้ตามที่คาดหวัง

เจมส์ เรียกฟาวล์ได้หลายครั้งก็จริงแต่มองอีกมุมหนึ่งก็คือผู้เล่น ลีดส์ วางแผนไม่ยอมให้เขาเลี้ยงฝ่าเข้าเขตโทษได้ง่าย นอกจากนี้บอลในพื้นที่สุดท้ายของปีกชาวเวลส์ยังทำได้น่าผิดหวังหลายรอบ ช่วงครึ่งหลังมีจังหวะหนึ่งที่ เจมส์ แย่งบอล บรูโน่ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวจนพลาดโอกาสทองไป ยิ่งไปกว่านั้นมีจังหวะที่แรชฟอร์ด จ่ายบอลจากริมเส้นฝั่งขวาให้ เจมส์ ในเขตโทษแต่เขาทำเสียบอลจนอดง้างยิงประตู

เจ้าตัวคงต้องพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีกว่านี้ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถยึดตัวจริงในทีมได้แน่ แถมถ้าซัมเมอร์นี้ โซลชา เสริม เจดอน ซานโช่ เข้ามาอีกจะยิ่งมีโอกาสน้อยลงไปอีก คงต้องรอดูต่อไปกว่าฤดูกาลนี้จะได้รับโอกาสลงสนามอีกหรือไม่

4.ฟิลลิปส์ตามติดบรูโน่

บิเอลซ่า ใช้แผนรับมือคีย์แมนอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ด้วยการสั่ง คัลวิน ฟิลลิฟส์ ตามประกบอยู่ตลอดทั้งเกมซึ่งมันส่งผลมากต่อแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิ่งเกมนี้ทางฝั่งทีมเยือนไม่ได้ส่ง ปอล ป็อกบา ลงสนามด้วย การตัด บรูโน่ ออกจากเกมจึงเหมือนเป็นการตัดตัวสร้างสรรค์เกมรุกคนเดียวของผีแดงออกไป

นอกจากต้องชม บิเอลซ่า แล้วก็ต้องชม ฟิลลิปส์ ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตามที่โค้ชสั่ง ไม่แปลกใจที่ช่วงหลังมานี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะให้โอกาสออกสตาร์ทตัวจริงในทีมชาติอังกฤษบ่อยครั้ง เกมนี้เขาทำสถิติเลิศหรูทั้งแย่งบอลคืนมา 13 ครั้ง, ดวลชนะ 11 ครั้ง, แท็กเกิ้ล 8 ครั้ง, ผ่านบอลยาวแม่นำ 6 ครั้ง, สร้างโอกาสได้ 3 ครั้ง

ฟิลลิปส์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ภารกิจของเขาคือ บรูโน่ ผมพยายามทำให้เขาเล่นไม่ออกและเราโชคดีที่เขาไม่สามารถฉวยโอกาสทำประตูได้”   

5.ทิ้งลีกเน้นยูโรปา

การเก็บหนึ่งแต้มทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียหายจนตามหลังจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ เป็น 10 คะแนนในขณะที่เหลืออีกแค่ 5 นัดเท่านั้น เท่ากับว่าหาก “เรือใบสีฟ้า” เอาชนะ คริสตัล พาเลซ ก็เตรียมชูโทรฟี่แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 7 ได้เลย ในทางกลับกัน “ผีแดง” จะไร้แชมป์ลีกเป็นปีที่ 8 ติดต่อกันแล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมบรรดา “เร้ด อาร์มี่” ถึงประท้วงตระกูลเกลเซอร์อย่างหนักหน่วง

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต้องการอีก 4 แต้มเพื่อการันตีท็อปโฟร์ซึ่งแมตช์หน้าจะเป็นการเจอกับ ลิเวอร์พูล เสียด้วย แต่น่าสนใจว่าโซลชาจะใช้ผู้เล่นชุดเต็มพิกัดในแดงเดือดหรือไม่เพราะพวกเขาต้องหันมาเน้น ยูโรปา ลีก แบบเต็มตัวแล้ว การเจอกับ โรม่า ในรอบรองชนะเลิศไม่ใช่เรื่องง่าย โซลชาจำเป็นต้องคว้าแชมป์ให้ได้เพราะมีผลแน่ต่อการต่อสัญญาฉบับใหม่ รอดูกันว่าจบฤดูกาลนี้พวกเขาจะมีถ้วยติดไม้ติดมือหรือไม่