ตอนนี้คงไม่มีเรื่องไหนที่จะทำให้สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" เนื้อเต้นเท่ากับเรื่องที่ แดเนี่ยล เอ็ก ผู้ให้กำเนิด สปอติฟาย (Spotify) สนใจอยากจะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรอาร์เซน่อล จาก สแตน โครเอ็นเก้ เจ้าของโครเอ็นเก้ สปอร์ตส์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (เคเอสอี) บริษัทด้านกีฬาและวงการบันเทิงจากสหรัฐอเมริกา
 
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ข่าวลือโคมลอย เพราะตอนนี้ เอ็ก พร้อมจับมือร่วมกับทั้งสามแข้งระดับตำนานของสโมสรอย่าง เธียร์รี่ อองรี, เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ ปาทริค วิเอร่า เพื่อร่วมมือกันเข้ามาเทคโอเวอร์ยอดทีมแห่งนอร์ธ ลอนดอน

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ เอ็ก อยากจะเข้ามาเป็นเจ้าของอาร์เซน่อล เพราะเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสโมสรแห่งนี้ตั้งแต่เด็กๆ โดยนักเตะที่เจ้าตัวชื่นชอบที่สุดก็คือ อันเดรียส ลิมพาร์ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติ สมัยที่ยังโลดแล่นอยู่ใน ไฮบิวรี่ สนามเหย้าเดิม

 หนุ่มชาวสวีดิช เป็นคนที่มีความสามารถมาตั้งแต่วัยรุ่น โดยปัจจุบันอาณาจักรสปอติฟาย มีมูลค่ามากกว่า 4,800 ล้านปอนด์ (ราว 182,400 ล้านบาท) แน่นอนว่าหาก เอ็ก กับ อาร์เซน่อล สามารถร่วมมือกันได้ มันคือสวรรค์ชั้น 7 ของแฟนบอล "ปืนใหญ่" อย่างแท้จริง

แฟนปืนใหญ่มาทั้งชีวิต

แดเนี่ยล เอ็ก เกิดและเติบโตมาใน รอกส์เวดย่านชานเมืองที่แสนยากลำบากในกรุงสต๊อกโฮล์ม พร้อมกับความชื่นชอบ อาร์เซน่อล ตั้งแต่เยาว์วัย โดยเขาหลงใส่ "เดอะ กันเนอร์ส" ในยุคที่มี จอร์จ เกรแฮม กุมบังเหียนเมื่อปี 1991

ในเวลานั้น อาร์เซน่อล มีนักเตะชาวสวีดิชเพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นก็คืออันเดรียส ลิมพาร์ ซึ่งเล่นอยู่กับทีมในช่วงระหว่างปี 1990-94 ก่อนที่นักเตะจะโบกมือลาสโมสรไปเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน อีก 3 ปี และร่อนเร่พเนจรไปอยู่กับหลายทีม จนกระทั่งแขวนสตั๊ดในเดือนมีนาคม 2001

เอ็ก ยอมรับว่าตัวเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ "ไอ้ปืนใหญ่" เมื่อปี 2018 ผ่าน ทวิตเตอร์ เว็บไซต์ยอดฮิตหลังจากที่ทีมรักไล่ต้อน "ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ 4-1 "ผมเป็นแฟนบอล อาร์เซน่อล ตั้งแต่ปี 1991 (อันเดรียส ลิมพาร์ มันอาจจะดูสิ้นหวังในฤดูกาลนี้ (ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ) แต่นี่เป็นเกมแรกที่ผมรู้สึกเต็มไปด้วยสันติสุข"

ผู้ให้กำเนิด สปอติฟาย ไม่เคยพลาดการชมเกมของทีมรัก โดยเขามักใช้เวลานั่งดูผลงานของ อาร์เซน่อล ที่หน้าจอโทรทัศน์ในคฤหาสน์สุดหรูมูลค่าประมาณ 43 ล้านปอนด์ (ราว 1,634 ล้านบาท) ในประเทศสวีเดน
 
มีความรู้เรื่องไอทีสูง

ด้วยความที่เป็นคนมีความคิดก้าวไกลและชาญหลักแหลม เอ็ก ได้เริ่มสร้างทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยในวัยเพียงแค่ 14 ปีเขามีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยเริ่มรับจ้างเขียนเว็บไซต์ แต่ที่เด็ดกว่านั้นก็คือเจ้าตัวไม่ได้คิดค่าจ้างตามราคาตลาด แต่กดราคาให้ต่ำทำให้มีคนมากมายจ้างเขาเขียนเว็บไซต์ นอกจากนี้เจ้าตัวยังสอนวัยรุ่นใช้โปรแกรมโฟโต้ชอป และโปรแกรมด้านงานศิลปะต่างๆ

ในตอนนั้น เอ็ก สามารถหารายได้มากว่า 1,500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ(ราว 49,000 บาท) ต่อเดือนเลยทีเดียว ที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นก็คือเมื่อย่างเข้าสู่อายุ 16 ปี เขาสามารถหารายได้มากกว่าพ่อซึ่งเป็นช่างเครื่อง และแม่ที่ทำงานรับเลี้ยงเด็ก รวมกันซะอีก

นอกจากนี้ เอ็ก เคยไปสมัครงานที่บริษัท "กูเกิล" (Google) มาแล้วแต่ก็โดนตอบปฏิเสธกลับไปอย่างไม่ใยดี เพียงเพราะเขาไม่มีวุฒิการศึกษา และนั่นทำให้พวกเขามองข้ามความสามารถของหนุ่มสมองเพชรคนนี้ไปแบบไม่แยแสเลย

"ตอนนั้นผมเป็นพวกหัวรั้น และไม่สนใจคำตอบที่ได้รับ ผมจำคำพูดในเวลานั้นได้ว่า -ผมจะก้าวขึ้นมาแข่งขันกับพวกเขาให้ได้-" เอ็ก เปิดใจกับ ไฟแนลเชี่ยล ไทม์ส นิตยสารด้านการเงินระดับโลก
 
หันหลังให้การศึกษามุ่งหน้าสร้างธุรกิจ

หลังจากที่หันกลับไปศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจัง เอ็ก ก็จบมัธยมปลาย จากนั้นก็เลือกเรียนต่อในสาขาวิชาที่ชื่นชอบนั่นก็คือวิศวกรรมศาสตร์ แต่เรียนไปได้ไม่นานเจ้าตัวก็ค้นพบความจริงว่าหลักสูตรที่ศึกษามันแค่เรื่องในตำราเท่านั้น ทำให้เขาตัดสินใจหันหลังให้การศึกษาด้วยการพักเรียนเอาไว้ก่อน และออกมาทำงานแบบเต็มสูบ

แน่นอนว่าด้วยมันสมองที่ปราชญ์เปื่องทำให้ เอ็ก ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยเขาเคยเป็นถึงประธานฝ่ายเทคนิคให้กับบริษัทผลิตเกม เขียนโปรแกรมให้บริษัทโฆษณา ยังไม่หมดแค่นั้นเขาได้เปิดบริษัทโฆษณาออนไลน์ชื่อว่า "Advertigo" และขายมันให้กับบริษัท TradeDoubler ในปี 2006 หลังขายกิจการแล้วเจ้าตัวก็ก้าวขึ้นไปเป็นซีอีโอของมิวทอร์เรน (μTorrent) ที่ก่อตั้งโดน ลุควิก สตรีเจียส

ในวัยเพียงแค่ 23 ปี เอ็ก กลายเป็นหนุ่มน้อยร้อยล้านอย่างรวดเร็ว แต่การมีเงินเยอะยิ่งทำให้เขากลายเป็นคนหลงระเริง และใช้เงินแบบไม่ยั้งคิด ทั้งเที่ยวสำราญไปเรื่อยเปื่อย ซื่อเฟอร์รารี่สุดหรูเอามาประดับบารมี พร้อมทั้งควักกระเป๋าจ่ายไม่อั้นเพื่อให้สมราคา "วัยรุ่นพันล้าน" ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำลายชีวิตเขาจนแทบไม่เหลืออะไรเลย

จากนั้น เอ็ก ต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้าและวิธีที่จะกำจัดสิ่งเหล่านี้ไปให้หมดเขาตัดสินใจทิ้งทุกอย่างและเดินเข้าป่า เพื่อที่จะค้นหาตัวตนของตัวเองอีกครั้ง  และในเวลานั้นเจ้าตัวเริ่มคิดที่จะหันไปเป็นนักดนตรี หลังจากที่ใช้เวลาอยู่กับกีตาร์คู่ใจในช่วงที่เข้าป่า

กำเนิดสปอติฟาย

ในปี 2008 เอ็ก  ได้จับมือกับ มาร์ติน ลอเรนต์ซอน ประธานบริษัทโฆษณา TradeDoubler  ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในช่วงที่เขาเข้าป่าค้นหาตัวเอง และทำให้สามารถเรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง โดยในเวลานั้น เอ็ก สนใจด้านดนตรีมากๆ แต่ก็ไม่ลืมความสามารถในเรื่องเทคโนโลยี ทำให้เขานำทั้งสองสิ่งนี้มารวมกัน

การให้บริการสตรีมมิ่งเกิดขึ้นภายหลังจากที่ แนปสเตอร์ (Napster) ซึ่งให้ผู้ที่กดซับสไครบ์สามารถแชร์ไฟล์เพลงรวมไปถึงการอัพโหลดเพลงได้ แต่มีปัญหาเพราะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และสุดท้ายก็ต้องปิดตัวไป อย่างไรก็ตาม เอ็ก เชื่อมั่นว่า สปอติฟาย (Spotify) จะสามารถประสบความสำเร็จได้ดีกว่านี้

เอ็ก ได้ติดต่อกับค่ายเพลงต่างๆ เพื่อให้พวกเขายอมให้ใช้เพลงที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์การครอบครองของพวกเขา นั่นเป็นเรื่องดีทั้งกับค่ายเพลง, ศิลปิน และผู้บริโภค โดยทั้งศิลปินและค่ายเพลงจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ขณะเดียวกับผู้คนก็ได้ฟังเพลงฟรีๆ แบบถูกลิขสิทธิ์

แนวคิดของ หนุ่มชาวสวีดิช ในการหารายได้ก็คือหากเขามีแอพพลิเคชั่นที่ให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนได้ฟังเพลงฟรีพร้อมมีโฆษณา จะทำให้ผู้บริโภคบางคนยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อที่จะทำให้พวกเขาได้ฟังเพลงแบบไม่ต้องมีโฆษณาเข้ามากวนใจ

จากไอเดียนี้ทำให้บรรดาค่ายเพลงมากมายเห็นพ้องที่จะร่วมงานด้วยด้วยการอนุญาตให้ สปอติฟาย นำเพลงถูกลิขสิทธิ์ไปให้บริการกับผู้บริโภคแบบฟรีๆ ซึ่งจากวันนั้นจนถึงปัจจุบัน สปอติฟาย มียอดผู้ติดตามมากกว่า 155 ล้านซับสไครบ์ และกลุ่มคนเหล่านี้ยอมจ่ายเงิน 9.99 ปอนด์ (ราว 379.62 บาท) ต่อเดือนเพื่อจะได้ใช้บริการแบบพรีเมี่ยม
 
งานวิวาห์ที่สุดอลังการ

ด้วยการที่มีเพื่อนในวงการมากมาย แน่นอนว่า เอ็ก สามารถเนรมิตงานวิวาห์ของเขาให้ออกมาเริ่ดหรูอลังการได้ชนิดที่ไม่มีใครสามารถทำได้ โดยทั้งหมดนี้เขาทำเพื่อ โซเฟีย เลแวนเดอร์ แฟนสาวที่คบหาดูใจกันมายาวนาน

เอ็ก จูงมือ โซเฟีย เข้าสู่ประตูวิวาห์ในปี 2016 โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโรแมนติกสุดๆ ซึ่งงานสำคัญครั้งนี้จัดขึ้นที่ทะเลสาบโคโม่ในประเทศอิตาลี  และงานนี้มีแขกคนดังมากมายมาร่วมงานอย่าง มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตัว "เฟซบุ๊ค" และพริสซิลล่า ภรรยา

นอกจากนี้ยังมี โยฮัน เออร์เนสต์ นิลสัน นักสำรวจชื่อดังชาวสวีดิช และคนดังในวงการฮอลลีวู้ดมาร่วมแสดงความยินดีกับเขาและภรรยามากมาย สำหรับธีมของงานส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องของดนตรี แต่ที่เด็ดดวงยิ่งกว่านั้นก็คือในช่วงที่บ่าวสาวเดินเข้าสู่พิธีพวกเขาเลือกใช้เพลง November Rain ของคณะ Guns N' Roses วงร็อกระดับตำนานแห่งยุค 80

ในขณะเดียวกัน บรูโน่ มาร์ส ศิลปินระดับโลกก็ถูกว่าจ้างให้มาร้องเพลงในงานแต่งงานของ เอ็ก ด้วย โดยเขาขึ้นไปขับกล่อมเสียงเพลงให้กับแขกภายในงาน และร้องเพลงยอดฮิตมากมายโดยเฉพาะเพลง Marry You ซึ่งเข้ากับบรรยากาศสุดๆ

แฟมิลี่แมนตัวจริงเสียงจริง

เคยเกริ่นไปแล้วว่าช่วงวัยรุ่น เอ็ก เป็นพวกที่ใช้เงินเป็นว่าเล่น โดยเขาซื้อพวกรถสปอร์ตส์เก็บสะสมหลายคัน มักจะนิยมไปเที่ยวในไนท์คลับหรูๆ แพงๆ และพร้อมเปย์ไม่อั้นให้กับเพื่อนฝูงโดยเฉพาะสาวๆ ทั้งแชมเปญอย่างดี และหลายสิ่งหลายอย่าง

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันทุกอย่างกลับตาลปัตรไปแล้ว เพราะตอนนี้ เอ็ก อายุ 38 ปี และเขามักจะคิดให้ถ้วนถี่ทุกครั้งก่อนที่จะจับจ่ายใช้สอยอะไรก็ตาม "สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในตอนนั้น มันไม่ใช่ตัวผมเอง แต่จริงๆ แล้วผมรู้สึกว่างเปล่า หลังจากที่ได้ทำอะไรแบบนั้น"

ปัจจุบัน เอ็ก เป็นคุณพ่อลูกสอง ซึ่งเป็นลูกสาวทั้งคู่ชื่อ เอลิสซ่า กับ คอลีน และเขามักจะใช้เวลายามค่ำคืนที่คฤหาสน์สุดหรูราคา 43 ล้านปอนด์ที่ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองสต๊อกโฮล์ม พร้อมกับชมเกมของอาร์เซน่อล ผ่านหน้าจอแก้วขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตามหาก เอ็ก สามารถเทคโอเวอร์ "ไอ้ปืนใหญ่" ได้สำเร็จ เขาคงไม่รอช้าที่จะเดินทางมายังสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เพื่อนั่งอยู่ในบ็อกซ์ผู้บริหาร เพราะนี่คือความฝันของราชาจอมสตรีมมิ่งมาตลอดตั้งแต่เยาว์วัย