ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เอดินสัน คาวานี่: จากดีลสุดห่วยสู่ดาวยิงตัวความหวังของแมนยู

เอดินสัน คาวานี่: จากดีลสุดห่วยสู่ดาวยิงตัวความหวังของแมนยู

Posted 01/05/2021 by siamsport

เชื่อว่าแฟนผีแดงกังวลไม่น้อยเมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญา เอดินสัน คาวานี่ มาแบบฟรีๆในช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว พร้อมกับมอบเสื้อตำนานหมายเลข 7 ให้กับเขา ด้วยวัย 34 ปีและสภาพร่างกายที่ร้างสนามมานาน ไม่แปลกใจที่คนจะมองว่าเขาผ่านจุดสูงสุดของอาชีพมาแล้วและทีมกำลังทำพลาดมหันต์อีกครั้งในตลาดซัมเมอร์ ทว่าตลอดทั้งฤดูกาลจนมาถึงเกมถล่ม โรม่า 6-2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่า คาวานี่ เป็นคนที่ผีแดงจำเป็นต้องมี ณ เวลานี้
    ย้อนกลับไปเมื่อตอนปิดตลาดซัมเมอร์ปีที่แล้ว ดิ แอธเลติก สื่อเมืองผู้ดีได้ไปสอบถามความเห็นจากเอเยนต์นักเตะ 18 คนว่าการย้ายทีมของใครที่เป็นดีลแย่สุดและดีสุด ซึ่งดีลที่ได้ผลโหวตเป็นดีลเจ๋งสุดประจำซัมเมอร์คือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ของ ลิเวอร์พูล

    ขณะที่ดีลยอดแย่ที่สุดตกเป็นของ เอดินสัน คาวานี่ ผู้ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าตัวมาแบบฟรีพร้อมกับประเคนค่าเหนื่อยสูงถึง 200,000 ปอนด์ (ประมาณ 8 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ โดยเหล่าเอเยนต์ให้เหตุผลว่าดาวเตะอุรุกวัยรายนี้อายุมากแล้วและทีมยังต้องเสียค่าเหนื่อยมหาศาลอีก


    แน่นอนว่ามีบางส่วนเห็นด้วยเพราะเหมือนเป็นการ “panic buy” ของ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือซื้อนักเตะแบบวู่วามเนื่องจากตอนนั้นแฟนบอลกำลังวิจารณ์สโมสรอย่างหนักที่ไม่สามารถปิดดีล เจดอน ซานโช่ ของ ดอร์ทมุนด์ แถมกลับไปเลือกนักเตะบิ๊กเนมที่ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว


    ยิ่งไปกว่านั้นนักเตะเก่าที่สวมเสื้อหมายเลข 7 นับตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นต้นมา ต่างรับความกดดันไม่ไหวจนผลงานได้ย่ำแย่สุดๆ


5 นักเตะที่สวมเสื้อหมายเลข 7 หลังจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้

1.ไมเคิ่ล โอเว่น (2009-2012)

    อาจจะมีประตูในเกมสำคัญซึ่งส่งผลต่อการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่อดีตกองหน้าหงส์แดงเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งและยังยิงได้แค่ 5 ประตูในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น


2.อันโตนิโอ วาเลนเซีย (2012-2013)

    หลังจากทำผลงานโดดเด่นจนสโมสรยกเบอร์เสื้อหมายเลข 7 ให้ หลายคนคาดหวังว่าเขาจะยกระดับฟอร์มขึ้นไปอีกขั้น ทว่าผลงานของ วาเลนเซีย กลับรูดลงอย่างน่าใจหายจนเจ้าตัวต้องย้ายกลับไปใส่เสื้อเบอร์ 25 เหมือนเดิม


3.อังเคล ดิมาเรีย (2014-2015)

    แฟนแมนฯ ยูไนเต็ดคาดหวังกันมากเพราะสโมสรทุ่มเงินมากถึง 63 ล้านปอนด์ให้ ดิ มาเรีย ออกจาก เรอัล มาดริด แต่ฟอร์มกลับไม่เป็นอย่างที่หวังแถมนักเตะไม่มีใจพร้อมกับย้ายหนีไป เปแอสเช ในฤดูกาลถัดมา

4.เมมฟิส เดอปาย (2015-2017)

    เสื้อหมายเลข 7 ค่อนข้างจะเร็วเกินไปสำหรับ เมมฟิส เดอปาย ผู้ซึ่งยิงประตูเป็นกอบเป็นกำในลีกดัตช์ โดยอดีตแข้งพีเอสวีทำได้แค่ 2 ประตูในพรีเมียร์ลีก่อนถูกขายไปให้ โอลิมปิก ลียง

5.อเล็กซิส ซานเชซ (2018-2020)

    แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามแก้ปัญหาเสื้อหมายเลข 7 ด้วยการยกให้กับหนึ่งในผู้เล่นที่ผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในพรีเมียร์ลีกเวลานั้นอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ แต่โชคร้ายที่เขายิงได้แค่ 3 ประตูในลีกและต้องเจอกับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง สุดท้ายก็ต้องย้ายออกไป อินเตอร์ มิลาน


   ผู้สวมเสื้อเบอร์ 7 ต่างยอมแพ้กันหมดแต่ไม่ใช่กับดาวยิงชาวอุรุกวัยผู้ซึ่งเข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอย่างมากและทำให้เสื้อตำนานของสโมสรกลับมามีมนต์ขลังอีกครั้ง โดยเขามีส่วนร่วมกับประตูรวมทุกรายการทั้งหมด 17 ลูก แบ่งเป็นยิง 12 ประตูและ 5 แอสซิสต์

    เขามีความเป็นเพชฌฆาตในกรอบเขตโทษและยังมีคาแรกเตอร์ความเป็นผู้ชนะซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนยังไม่มี เมื่อทีมต้องการนักเตะที่จะยกระดับเกม เขาสามารถทำสิ่งนี้ได้

    ตัวอย่างมีให้เห็นได้ชัดในเกมกับ โรม่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เว็บไซต์ชื่อดัง whoscored.com ยกให้ คาวานี่ มีเรตติ้งเต็ม 10 คะแนนจากการยิงสองประตูและทำสองแอสซิสต์บวกกับเป็นคนเรียกจุดโทษด้วย

    ก่อนหน้านี้ในเกมกับ สเปอร์ส คาวานี่ ก็เป็นคนพลิกชะตาให้ทีมด้วยการยิงประตูแซงนำท้ายเกม นอกจากนี้ย้อนกลับไปในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน เขาก็ลงมายิงสองประตูกับทำแอสซิสต์ให้ทีมแซงชนะ 3-2


    แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ที่เต็มไปด้วยนักเตะหนุ่มเจอกับแรงกดดันจนไม่สามารถผ่านรอบรองชนะเลิศมาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่เมื่อมี คาวานี่ อยู่ในสนามพวกเขาก้าวข้ามมันมาได้สำเร็จ นี่เพิ่งเป็นเกมรอบรองชนะเลิศครั้งแรกของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้นเพราะก่อนหน้านี้ในศึก คาราบาว คัพ กับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อเดือนมกราคม คาวานี่ กำลังอยู่ระหว่างโทษแบน ซึ่งเชื่อว่าถ้ามีเขาอยู่ในสนามอาจสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้

    จากสถิติแล้ว คาวานี่ ถือเป็นกองหน้าที่อันตรายที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในการเล่น โอเพ่น เพลย์ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยเขามีส่วนกับประตูจากโอเพ่น เพลย์ เฉลี่ย 0.63 ประตูต่อ 90 นาที ซึ่งมีเพียงแค่ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่มีค่าเฉลี่ยมากกว่า (0.84 ประตูต่อ 90 นาที)

    ขณะที่ แฮร์รี่ เคน มาค่าเฉลี่ยตามหลัง คาวานี่ ที่ 0.58 ประตู, โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ที่ 0.54 ประตูและ แทมมี่ อับราฮัม ที่ 0.53 ประตู

    เมื่อเปรียบเทียบสถิตินี้ (0.63 ประตูต่อ 90 นาที) กับเพื่อนร่วมทีมของ คาวานี่ แล้วถือว่าเหนือกว่ามาก โดยอันดับสองต่อจากเขาคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด เฉลี่ยที่ 0.34 ประตู, เมสัน กรีนวู้ด เฉลี่ยที่ 0.28 ประตู, บรูโน่ แฟร์นันด์ส เฉลี่ยที่ 0.26 ประตู

    ส่วน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล มีค่าเฉลี่ยที่แค่ 0.24 ประตู ทั้งที่เคยมีส่วนกับประตูโอเพ่นเพลย์เฉลี่ย 0.58 ประตูต่อ 90 นาทีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผลงานเขาดร็อปลงอย่างชัดเจน


    จากทั้งสถิติและผลงานทั้งหมดนี้ ไม่แปลกใจที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะเอ่ยปากในการแถลงข่าวหลังเกมถล่ม โรม่า ว่าเขาสัญญากับแฟนบอลวจะทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งดาวยิงวัยเก๋าคนนี้ให้อยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า

    เอดิสัน คาวานี่ ยังคงไม่ได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นี่เป็นสิ่งที่เหมือนติดค้างอยู่ในใจ โซลชา อธิบายว่าหากเขาทำประตูได้ในถิ่นนี้บรรยากาศจะได้สัมผัสบรรยากาศที่ไม่เคยมีมาก่อน

    รายงานล่าสุดจากบีบีซีก็ยืนยันแล้วว่า คาวานี่ ใกล้ที่จะต่อสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกไปอีก 1 ปี นับเป็นข่าวดีสำหรับสาวก “เร้ด อาร์มี่”

    รอดูกันว่า mentality หรือจิตใจความเป็นผู้ชนะของ คาวานี่ จะพา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์แรกภายใต้การคุมทีมของ โซลา ได้หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • โหมโรงก่อนแดงเดือด! 5 แข้งชั้นยอดที่ ลิเวอร์พูล ปาดหน้า แมนยู คว้าตัวร่วมทัพ
    ความเป็นอริคู่แค้นแสนรักระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในเกมลูกหนังที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะการทำศึก "แดงเดือด" ในสนามเท่านั้น แต่นอกสนามทั้งสองสโมสรยังฟาดฟันกันอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องการแย่งชิงนักเตะที่หมายตาเอาไว้
  • แฟนผีรอจุดพลุฉลอง!สื่อตีคาวานี่เปลี่ยนใจขออยู่แมนยูต่อ
    แฟน แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมรอรับข่าวดี หลังสื่อดังตีข่าว เอดินสัน คาวานี่ เปลี่ยนใจจะขออยู่ค้าแข้งที่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไปในซีซั่นหน้า
  • ภาพมันส์ๆ ! ความจริงที่แฝงอยู่ในศึกชปล. และ ยูโรป้าลีก
    ในรายการแข่งขันยูฟ่าซีซั่นนี้โดยรวมถึงศึก ชปล. และ ศึก ยูโรป้า ลีกน้น รวมมี 4 สโมสรยักษ์ใหญ่จากเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้บุกเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ที่เข้ารอบ 4 ทีมของศึก ยูโรป้า ลีก และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เชลซี่ ที่เข้ารอบ 4 ทีมของศึก ชปล. ซึ่ง 4 ทีมแข้งนี้ที่รู้กันว่ามีขุมกำลังยอดเยี่ยมอยู่ และแฟนบอลจึงได้แชร์รูปภาพน่าขันผ่นอินเตอร์เน็ท
  • คนสำคัญ!โซลชายันอยากให้คาวานี่อยู่แมนยูต่อ
    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด บอกเอง ต้องการให้ เอดินสัน คาวานี่ อยู่กับ "ปีศาจแดง" ต่อไป พร้อมบอกว่าจนถึงตอนนี้ตนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมให้ คาวานี่ ไม่ย้ายไปไหนด้วย

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »