"สิงห์บลูส์" ไม่พลาดคว้าสามแต้มหลังจัดการอัด ฟูแล่ม 2-0 เกมลอนดอนดาร์บี้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากการเหมาของ ไค ฮาแวร์ทซ์ คนเดียวทั้งสองประตู ช่วยให้ เชลซี ยึดอันดับ 4 เหนียวแน่นมีเพิ่มเป็น 61 คะแนน จี้อันดับ 3 อย่าง เลสเตอร์ แค่สองแต้ม และทิ้งอันดับ 5 เวสต์แฮมที่มีคิวแข่งวันจันทร์ไปถึง 6 คะแนน ส่วนทัพ "เจ้าสัวน้อย" รั้งที่ 18 มีแค่ 27 คะแนนต้องลุ้นหนีตกชั้นต่อไป หลังเหลืออีก 4 เกมที่เหลือ

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

    พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ซึ่งเป็นนัดที่ 34 ของทั้งสองทีม เชลซี อันดับ 4 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ฟูแล่ม อันดับ 18
       
    โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ของ "สิงห์บลูส์" เกมนี้พักทั้ง ก็องเต้ และจอร์จินโญ่ ไว้บู๊กับ เรอัล มาดริด ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่สองกลางวีกหน้า อีกทั้งแมตช์นี้ต้องรักษาอันดับ 4 ไว้เพื่อคว้าโควต้าไปลุยชปล.ซีซั่นหน้า โดยแนวรุกส่ง ไค ฮาแวร์ทซ์, ติโม แวร์เนอร์ และฮาคิม ซิเย็ค โดยถอย เมสัน เมาน์ท ลงมาปั้นเกมตรงกลาง

    ส่วน "เจ้าสัวน้อย" ของ สกอตต์ พาร์เกอร์ ต้องหนีลุ้นตกชั้นต่อไป เกมนี้ยังใช้ขุมกำลังชุดเดิมเป็นแกนหลัก อเดโมล่า ลุคแมน และบ็อบบี้ รีด คอยปั้นเกมช่วย จอช มาจา และอิวาน กาวาเลยโร่ ที่จับคู่กันล่าตาข่าย

    เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่ 5 นาที ฟูแล่ม ทักทายก่อนเลยหลัง แอนโทนี โรบินสัน ได้ซัดด้วยซ้ายเต็มแรงแต่ยังไปติดเซฟของ เอดูอาร์ เมนดี้ จากนั้นอีกไม่ถึงนาทีบอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุม  โยอาคิม อันเดอร์เซ่น ได้ลองส่องนอกกรอบแต่บอลเหินคานออกไปแบบได้ลุ้น

    กระนั้น กลายเป็น "สิงห์บลูส์" ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 10 จากจังหวะที่ ติอาโก้ ซิลวา วางบอลยาวจากแดนตัวเองมาให้ เมสัน เมาน์ท ดูดบอลลงอย่างนิ่มนวล ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาผ่านตัว อัลฟงส์ อเรโอล่า เข้าไป เป็นประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ของดาวยิงทีมชาติเยอรมัน

    นาที 17 เชลซี ชวดได้ประตูที่สองนำห่าง หลัง เมสัน เมาน์ท เปิดเข้าไปให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ จับบอลก่อนจิ้มเข้าก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้าของ ฮาแวร์ทซ์ ก่อนชวดได้เม็ดที่สองของตัวเองอย่างน่าเสียดาย

    นาที 22 เจ้าสัวน้อยเกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง แอนโทนี โรบินสัน กระดกบอลหนุนเข้าไปในกรอบให้ อเดโมล่า ลุคแมน วิ่งมาอัดด้วยขวาบอลพุ่งแรงจน เอดูอาร์ เมนดี้ ต้องปัดบอลพ้นออกไปก่อนที่ รีซ เจมส์ จะโขกทิ้งออกหลังไปได้ทัน

    นาที 39 เป็นโอกาสของเจ้าบ้านอีกครั้ง หลัง ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปในกรอบทางขวาก่อนปาดมาหน้าประตูให้ ฮาคิม ซิเย็ค วิ่งมาซัดด้วยซ้ายแต่ยังไปติดมือ อัลฟงส์ อเรโอล่า

    ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 เจ้าสัวน้อย เกือบได้ลูกตีเสมอ หลัง อเดโมล่า ลุคแมน เก็บบอลได้หน้ากรอบแล้วไหลคืนให้ โอล่า ไอน่า วิ่งมาซัดนอกกรอบแบบไม่จับบอลพุ่งไปแฉลบแต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังสมาธิดีปัดบอลออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

    จบครึ่งแรก เชลซี ขึ้นนำ ฟูแล่ม 1-0

    ครึ่งหลัง เริ่มมาแค่ นาที 49 เจ้าบ้าน "สิงห์บลูส์" ทะยานออกนำห่าง 2-0 อย่างรวดเร็ว บอลแทงทะลุช่องของ ติโม แวร์เนอร์ ให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดสวนตัว อเรโอล่า เข้าไป วีเออาร์ เช็กแล้วไม่ล้ำหน้ากลายเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ และมีลุ้นแฮตทริกอีกด้วย

    เข้าสู่ นาที 66  โธมัส ทูเคิ่ล แก้เกมด้วยการส่ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลงมาเล่นแทน ฮาคิม ซิเย็ค

    ทว่า "สิงห์บลูส์" ไม่เร่งเกมบุกหรือโหมเข้าใส่เท่าไหร่ กลายเป็น ฟูแล่ม ที่เริ่มมีโอกาสมากขึ้น ทว่าจังหวะสุดท้ายก็ยังไม่สามารถเจาะเข้าไปในพื้นที่อันตรายของเจ้าถิ่น

   นาที 87 ฟูแล่ม ได้โต้กลับขึ้นมา อ็องเดร อ็องกิสซ่า ไหลออกซ้ายให้ แอนโทนี โรบินสัน เติมขึ้นสูงก่อนลากเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่บอลเหินคานออกไปแบบหมดลุ้น

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม เชลซี ไล่ถลุงอัด ฟูแล่ม 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญยึดอันดับ 4 เหมือนเดิมโดยมีเพิ่มเป็น 61 คะแนน จี้อันดับ 3 อย่างเลสเตอร์แค่สองแต้ม และทิ้งอันดับ 5 เวสต์แฮมที่มีคิวแข่งวันจันทร์ไปถึง 6 คะแนน ส่วนทัพ "เจ้าสัวน้อย" ต้องหนีตกชั้นต่อไปหลังรั้งที่ 18 เหมือนเดิม โดยมีแค่ 27 คะแนน ตามหลัง นิวคาสเซิ่ล ซึ่งเป็นโซนปลอดภัยซึ่งแข่งน้อยกว่าถึง 9 คะแนน และเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีก 4 เกมเท่านั้น

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, คัวร์ท ซูม่า - รีซ เจมส์, บิลลี่ กิลมัวร์, เมสัน เมาน์ท (แทมมี่ อบราฮัม น.76) , เบน ชิลเวลล์ (มาร์กอส อลอนโซ่ น.81) - ฮาคิม ซิเย็ค (เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น.66), ติโม แวร์เนอร์ - ไค ฮาแวร์ทซ์

        ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิ่ล

        ฟูแล่ม (4-4-2) : อัลฟงส์ อเรโอล่า - โอล่า ไอน่า, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, โทซิน อดาราบิโอโย่, แอนโทนี โรบินสัน - บ็อบบี้ รีด (ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ น.78), อ็องเดร ฟร้องค์ ซ็องโบ อ็องกิสซ่า, มาริโอ เลมิน่า, อเดโมล่า ลุคแมน - จอช มาจา (อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช น.81), อิวาน กาวาเลยโร่ (โจชัว โอโนมาห์ น.78)

        ผู้จัดการทีม : สกอตต์ พาร์เกอร์
 
        ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์