การขับเคี่ยวลุ้นรางวัลรองเท้าทองคำหรือดาวซัลโวประจำฟุตบอลยูโร 2020 น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากมีนักเตะจอมถล่มตาข่ายระดับโลกหลายรายเข้าร่วมทัวร์นาเม้นต์ซึ่งเจ้าของรางวัลนี้จากฟุตบอลยูโร 2016 อย่าง อ็องตวน กรีซมันน์ ก็กลับมาป้องกันตำแหน่งเช่นกัน แต่ครั้งนี้เขาต้องเจอกับผู้ท้าชิงหินๆทั้งนั้น และนี่คือตัวเต็งทั้ง 6 คนตามอัตราต่อรองของบ่อนรับพนันถูกกฎหมายที่ต่างประเทศ

1.แฮร์รี่ เคน - อังกฤษ (อัตราต่อรองอยู่ที่ 11/2)

อังกฤษ มักจะเป็นทีมที่ทำผลงานในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ได้ต่ำกว่าที่แฟนบอลคาดหวังไว้เมื่อเทียบกับสตาร์ในทีม แต่ในฟุตบอลโลก 2018 พวกเขาทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศด้วยทีมที่มีแต่นักเตะหนุ่มซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น ปีนี้ทัพ “สิงโตคำราม” มีขุมกำลังที่แข็งแกร่งมากกว่าเดิมและถ้าพูดถึงคนที่มีสิทธิ์ถล่มตาข่ายมากที่สุดในทีมคงหนีไม่พ้นกองหน้าอย่าง แฮร์รี่ เคน

เคน ยังคงรักษามาตรฐานการยิงประตูไว้อย่างยอดเยี่ยมหลังฤดูกาลล่าสุดคว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก (23) และยังซิวผู้นำแอสซิสต์อีกด้วย (14) ศูนย์หน้าวัย 27 ปีเป็นเจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำในฟุตบอลโลก 2018 (6 ประตู) นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาเป็นเต็งหนึ่งในการคว้าดาวซัลโวศึกยูโรครั้งนี้

2.โรเมลู ลูกากู - เบลเยี่ยม (อัตราต่อรองอยู่ที่ 11/2)

โรเมลู ลูกากู ทำผลงานยอดเยี่ยมมากในฤดูกาลที่ผ่านมาหลังยิงถึง 30 ประตูและทำ 11 แอสซิสต์รวมทุกรายการพร้อมกับได้รับการโหวตให้เป็นแข้งยอดเยี่ยมของ เซเรีย อา ประจำฤดูกาล 2020/21

อินเตอร์ มิลาน อุดมไปด้วยแข้งที่มีคุณภาพแต่ เบลเยี่ยม นั้นถือว่ามีขุมกำลังเข้าขั้นระดับโลกโดยเฉพาะเหล่านักแอสซิสต์อย่าง เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์, ยานนิค การ์ราสโก้ และ ดรีส เมอร์เท่นส์ หากรวมกับฟอร์มถล่มตาข่ายของ ลูกากู ตอนนี้ก็ยากที่ใครจะหยุดอยู่

นอกจากนี้ เบลเยี่ยม ยังอยู่ในกลุ่มที่ไม่ยากนักมีสิทธิ์เข้ารอบลึกๆได้ ลูกากู จึงมีโอกาสยิงประตูต่อเนื่องและมีโอกาสคว้ารางวัลรองเท้าทองคำพอๆกับ แฮร์รี่ เคน

3.คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ - ฝรั่งเศส (อัตราต่อรองอยู่ที่ 8/1)

ฝรั่งเศส ยังคงได้รับการยกย่องให้เป็นเต็งหนึ่งสำหรับยูโรครั้งนี้แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ใน “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ก็ตาม พวกเขายังมีผู้เล่นคุณภาพมากมายเช่นเดียวกับปี 2018 ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ถ้าหากไม่มีอะไรพลิกโผก็น่าจะเข้ารอบลึกได้แน่

คาริม เบนเซม่า อาจจะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษในทัวร์นาเม้นต์หลังจากรีเทิร์นกลับมาติดทีมชาติ แต่คนที่ยังไงสปอตไลท์ต้องส่องแสงให้คือ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ผู้ซึ่งคว้าดาวซัลโว ลีกเอิง 3 ปีติดต่อกันหลังฤดูกาลล่าสุดยิงถึง 27 ประตู เจ้าตัวโชว์ให้เห็นความเป็นแข้ง “เวิลด์-คลาส” เมื่อตอนฟุตบอลโลก 2018 แต่ครั้งนี้เขาจะทำได้อีกหรือไม่?

4.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - โปรตุเกส (อัตราต่อรองอยู่ที่ 12/1)

แน่นอนว่าในการขับเคี่ยวลุ้นดาวซัลโวทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ๆไม่มีชื่อของชายผู้นี้ไม่ได้ แม้จะอยู่ในวัย 36 ปีแล้วแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงถล่มตาข่ายไม่หยุดหย่อน ฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวแทบจะเป็น “เดอะ แบก” ของทัพยูเวนตุสเลยก็ว่าได้ แถมยังคว้าดาวซัลโว เซเรีย อา ด้วยการยิงถึง 29 ประตู

โรนัลโด้ คือดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติโปรตุเกส (134 ประตู)   และฟุตบอลยูโรปี 2016 เขายังเป็นรองดาวซัลโวด้วย (3 ประตูกับ 3 แอสซิสต์) ครั้งนี้ทัพ “ฝอยทอง” มีแนวรุกระดับพระกาฬอาทิ แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ชูเอา เฟลิกซ์, ดีโอโก้ โชต้า และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่จะคอยซัพพอร์ต โรนัลโด้ โดย โปรตุเกส อยู่ใน “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ดังนั้นการยิงประตูไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ถ้าจะมีใครทำได้ก็ต้องเป็น "ซีอาร์7" คนนี้

5.เมมฟิส เดอปาย - ฮอลแลนด์ (อัตราต่อรองอยู่ที่ 14/1)

เมมฟิส เดอปาย อาจจะเรียกได้ว่าเป็นม้ามืดสำหรับรางวัลนี้ เขาถือเป็นตัวความหวังของ ฮอลแลนด์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้ว่า “อัศวินสีส้ม” จะขาด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่พวกเขาก็ยังมีขุมกำลังที่น่าจับตามองโดยเฉพาะ เดอปาย ที่ยิง 20 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมาตามหลังเพียงแค่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และเขายังจัด 12 แอสซิสต์อีกด้วย

ฮอลแลนด์ อยู่ในกลุ่มเดียวกับ มาซิโดเนียเหนือ, ออสเตรีย และ ยูเครน หากไม่มีอะไรผิดพลาดทัพ “ดัตช์” ควรต้องเป็นที่หนึ่งของสายและ เดอปาย น่าจะมีส่วนสำคัญในการพาทีมเข้ารอบน็อคเอาท์

6.คาริม เบนเซม่า - ฝรั่งเศส (อัตราต่อรองอยู่ที่ 14/1)

คาริม เบนเซม่า รีเทิร์นกลับมาติดทีมชาติฝรั่งเศหลังจากห่างหายไปนานถึง 5 ปีซึ่งมาตรฐานการยิงประตูของเขาไม่ได้ตกลงแต่อย่างใด ฤดูกาลล่าสุดเขาก็สอยตาข่ายประตูสำคัญมากมายจนคว้ารองดาวซัลโว (23 ประตู) เขามีโอกาสไม่น้อยได้จะเป็นตัวจริงให้ทัพ "ตราไก่" ในทัวร์นาเม้นต์นี้เมื่อเทียบกับกองหน้าในทีม

เบนเซม่า เพิ่งได้รับบาดเจ็บในเกมอุ่นเครื่องกับ บัลแกเรีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งตอนแรกเป็นที่กังวลกันว่าอาจบาดเจ็บหนัก แต่ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศส ยืนยันแล้วว่าแค่เจ็บเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ต้องรอดูกันว่าเขาจะออกสตาร์ทตัวจริงวันอังคารหน้าได้หรือไม่?