ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » หนูจู้ดสร้างประวัติศาสตร์,ฟิลลิปส์ผลงานแจ่ม! 5 ประเด็น อังกฤษเฉือนโครเอเชีย

หนูจู้ดสร้างประวัติศาสตร์,ฟิลลิปส์ผลงานแจ่ม! 5 ประเด็น อังกฤษเฉือนโครเอเชีย

Posted 14/06/2021 by siamsport

สนามเวมบลีย์ เมื่อพวกเขาปราบ โครเอเชีย 1-0 ทำให้คว้า 3 คะแนนสำคัญ และนำไปสู่สถานการณ์ที่สดใสของทัพ "สิงโตคำราม" ในการผ่านเข้าไปเล่นรอบน็อกเอาต์
    
สำหรับแมตช์นี้นักเตะที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมากคงหนีไม่พ้น คาลวิน ฟิลลิปส์ ที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ส่งเข้าประกวด เมื่อเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างครบเครื่อง และยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดประตูชัยให้บ้านเกิดคว้าชัยชนะได้อย่างหวุดหวิด

ขณะที่เจ้าหนูมหัศจรรย์ จู้ด เบลลิงแฮม  กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในศึกยูโร หลังถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทน แฮร์รี่ เคน ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และทำผลงานได้ดีแม้จะมีเวลาให้โชว์ของเพียงไม่นานก็ตาม
 
1. ฟิลลิปส์โดดเด่นเกินห้ามใจ

ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มากๆ สำหรับฟอร์มการเล่นของ คาลวิน ฟิลลิปส์ มิดฟิลด์อนาคตไกล ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเกินขาด ทั้งๆ ที่เขาไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษมากนัก

มิดฟิลด์ตัวรับจากค่าย "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องแย่งตำแหน่งกับผู้เล่นในแผงแดนกลางชั้นดีมากมายอย่าง เมสัน เมาท์, แจ็ค กรีลิช และ ฟิล โฟเด้น รวมทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จู้ด เบลลิงแฮม และ เดแคลน ไรซ์

 แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ยังไม่กล้าใช้งาน "เฮนโด้" เพราะนักเตะเพิ่งได้ลงเล่นแค่ 45 นาทีนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้เขาตัดสินใจเลือก ฟิลลิปส์ ลงสนามเคียงข้าง ไรซ์ กับ เมาท์ และก็ไม่ผิดหวังเมื่อฟอร์มของ สตาร์จากลีดส์ โดยโดดเด่นเป็นสง่ากว่าเพื่อนร่วมทัพในแผงมิดฟิลด์ แถมยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดประตูชัยด้วย

ฟอร์มของเขาแสดงให้เห็นได้ชัดจากสถิติที่มีการเปิดเผยจากเว็บไซต์ สควอก้า(Squawka) โดยสถิติในการวางบอลยาวของเขาแม่นยำ 100 เปอร์เซนต์,  ผ่านบอลทะลุช่อง 100 เปอร์เซนต์, ผ่านบอลแม่นยำ 94 เปอร์เซนต์, สัมผัสบอล 44 ครั้ง, เลี้ยงบอลหนีคู่แข่งสำเร็จ 2 ครั้ง, ตัดบอล, สร้างโอกาส, ยิงเข้าเป้า, แอสซิสต์ อย่างละ 1 ครั้ง

ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เว็บไซต์สควอก้า จะยกย่องผลงานของ ฟิลลิปส์ ว่ามีส่วนผสมที่ลงตัวของ 3 ตำนานมิดฟิลด์ "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ได้แก่ ริคาร์โด้ กาก้า, อันเดรีย ปีร์โล่ และ เจนนาโร่ กัตตูโซ่

2. สเตอร์ลิงตอบแทนความเชื่อมั่นเซาธ์เกต

ไม่มีใครปฏิเสธว่า ราฮีม สเตอร์ลิง ไม่ได้โชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในซีซั่นนี้ แม้ว่าทัพ "เรือใบสีฟ้า" จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และคาราบาว คัพ รวมทั้งเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (แพ้ เชลซี) ก็ตาม

กุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จัดการดร็อป สเตอร์ลิง หลายเกมในช่วงท้ายฤดูกาล และเขาก็ไม่ใช่ผู้เล่นคีย์แมนสำหรับความสำเร็จของต้นสังกัดในฤดูกาล 2020/2021 แต่ เซาธ์เกต ยังคงชื่นชอบ อดีตสตาร์ลิเวอร์พูล และใส่ชื่อเขาอยู่ในทัพ "สิงโตคำราม" เพื่อทำศึกยูโร2020

สำหรับในเกมกับ โครเอเชีย ต้องบอกว่า เซาธ์เกต กดดันมากๆ ในการจัดทีมเนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีเสียงเรียกร้องจากทั้งสื่อและแฟนบอล "ทรี ไลอ้อนส์" ให้ใส่ชื่อ แจ็ค กรีลิช ลงตัวจริงมากกว่าเลือกใช้งาน สเตอร์ลิง

งานนี้ เซาธ์เกต ยังคงเชื่อมั่นในการเลือกของตนเองด้วยการใส่ชื่อ สเตอร์ลิง ลงตัวจริง และเขาก็ไม่ทำให้ "บอส" ผิดหวัง เมื่อโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และซัดประตูโทนนำ อังกฤษ คว้า 3 คะแนนสำคัญในนัดเปิดหัว กลุ่ม ดี

ความเร็วและความคล่องตัวของ สเตอร์ลิง ทำให้แนวรับของทัพ "ตาหมากรุก" ต้องเจองานหนักตลอด ดังนั้นด้วยคุณสมบัติแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เซาธ์เกต มักจะให้โอกาส ดาวเตะจากรั้วแมนฯ ซิตี้ ได้เล่นเป็นตัวหลักอยู่เสมอ
 
3. แนวรุกโครเอเชียเล่นไม่ออก

แมตช์นี้ โครเอเชีย เลือกใช้แนวรุกสามคนโดยมี อันเต้ เรบิช ที่ยืนเป็นหน้าเป้า ขณะที่ อิวาน เปริซิช กับ อังเดร คามาริช ยืนเล่นเป็นแนวรุกทางกราบ สำหรับแนวรุกของ โครเอเชีย ต้องบอกว่าอันตรายสำหรับอังกฤษ ที่ไม่มี แฮร์รี่ แม็กไกวร์ อยู่ในแผงแบ็กโฟร์

อย่างไรก็ตาม แข้งโครแอต กับไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสที่ชัดเจนได้เลย ในขณะที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตู "สิงโตคำราม" แทบไม่ต้องเจอกับงานยากลำบากอะไรเลย เนื่องจาก  ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, ไทรอน มิงส์ และคีแรน ทริปเปียร์ จัดการกับเกมรุกของ "ตาหมากรุก" ได้อยู่หมัด

กระนั้นสิ่งที่ โครเอเชีย พอจะใจชื้นได้บ้างก็คือการที่พวกเขามี ลูก้า โมดริช อยู่ในทีม เพราะสตาร์เรอัล มาดริด ยังคงทำผลงานได้น่ากลัว และเป็นจุดศูนย์รวมในการขึ้นเกมของทีม รวมทั้งยังคอยคุมจังหวะการเล่น

ต้องยอมรับว่า โครเอเชีย มีปัญหาในการเข้าทำนับตั้งแต่ที่ มาริโอ มานด์ซูคิช ตัดสินใจโบกมือลาการเล่นให้ทีมชาติ อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณภาพของนักเตะที่พวกเขามี มันก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ทีมปราบ สกอตแลนด์ และ สาธารณรัฐเช็ก ได้
 
4. แบ็กขวาอังกฤษยังมีปัญหา

สำหรับตำแหน่งแบ็กขวาของ อังกฤษ ในยุคนี้มีให้ เซาธ์เกต เลือกเยอะแยะมากมาย แม้ว่าจะต้องเสีย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จากปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังมีทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์ และ รีซ เจมส์ ให้เลือกใช้งาน

ในเกมนี้ เซาธ์เกต จับ ทริปเปียร์ ยืนประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้าย และจับ  วอล์คเกอร์ ประจำการทางฝั่งขวา อย่างไรก็ตามฟูลแบ็กแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผลงานไม่ค่อยดีนักในเกมนี้ โดยเฉพาะในครึ่งแรกเมื่อเขาตกเป็นเป้าโจมตีของทัพ "โครแอต" ที่มักจะเล่นได้สบายๆ เวลาที่เปิดเกมรุกทางฝั่งวอล์คเกอร์

ดาวเตะวัย 31 ปีเก็บบอลไม่ค่อยดีนัก และผ่านบอลก็ไม่แม่นยำ อย่างไรก็ตาม เซาธ์เกต ยังคงเชื่อมั่นในตัว วอล์คเกอร์ และเลือกให้เขาลงสนามต่อไปจนกระทั่งผลงานค่อยๆ พัฒนาขึ้น แต่กระนั้นหากฟอร์มของเขายังเป็นแบบนี้แน่นอนว่าโอกาสที่จะหลุด 11 ตัวจริงมีสูงเลยทีเดียว

สำหรับในแมตช์ต่อไปที่จะพบกับ สกอตแลนด์ งานนี้ เซาธ์เกต คงต้องขบคิดอย่างหนักว่าจะให้โอกาส วอล์คเกอร์ ลงเป็นตัวจริงต่อไปหรือจะหันไปเลือก รีซ เจมส์ ที่มีทั้งความสด, ความรวดเร็ว, แข็งแกร่ง และเล่นเกมรุกกับเกมรับได้สมดุลมากกว่า

5. เจ้าหนูเบลลิงแฮมสร้างประวัติศาสตร์

อังกฤษ ในยุคนี้มีนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาประดับวงการลูกหนังมากมาย ล่าสุด จู้ด เบลลิงแฮม ปีกฟอร์มฮอต ได้กลายเป็นนักเตะแห่งประวัติศาสตร์ เมื่อเขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในเกม ยูโร แมตช์ที่ อังกฤษ เฉือน โครเอเชีย

ดาวเตะจากทัพ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน แฮร์รี่ เคน ในนาทีที่ 82 ทำให้เขาเป็นแข้งที่อายุน้อยที่สุดในวัย 17 ปี 349 วัน ทำลายสถิติของ เจโตร วิลเลมส์ ดาวเตะชาวฮอลแลนด์ ที่ทำเอาไว้เมื่อ 9 ปีก่อน

วิลเลมส์ ซึ่งเคยใช้เวลาเล่นแบบยืมตัวกับ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2019/2020 ได้ลงสนามในวัย 18 ปีกับ 71 วันเมื่อเขาได้ลงสนามในแมตช์ที่ ฮอลแลนด์ พบ เดนมาร์ก ในเกมเปิดสนามศึกยูโร 2012

สำหรับ เบลลิงแฮม กำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรืองในอาชีพนักเตะ หลังเปิดตัวกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2019 ก่อนจะกลายเป็นคีย์แมนของทีม และจากนั้นก็มีหลายสโมสรชั้นนำทั้งในอังกฤษ และยุโรป อยากได้ตัวไปเสริมทัพ

ล่าสุดฟอร์มของเขากับ ดอร์ทมุนด์ ทำให้ตอนนี้ เบลลิงแฮม เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปพร้อมกระชากตัวไปร่วมทีม แต่บทสรุปจะเป็นยังไงรอให้จบยูโร 2020 ซะก่อน คงจะได้รู้กัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »