"อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ซิวสามแต้มแรกได้แล้ว หลังไล่แซงปราบ โปรตุเกส 4-2 โดยทัพ อินทรีเหล็ก มีโอกาสจบแชมป์กลุ่ม หากนัดสุดท้ายชนะ ฮังการี แล้วรอลุ้นให้ "ฝอยทอง" ที่จำเป็นต้องชนะ ฝรั่งเศส ให้ได้เช่นกัน เฮดทูเฮดของ เยอรมัน จะดีกว่าทันที ในการแข่งขัน ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย นัดสอง กลุ่ม เอฟ คืนวันเสาร์ที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า, มิวนิค (เยอรมัน)

     ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย นัดสอง กลุ่ม เอฟ คืนวันเสาร์ที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา "ฝอยทอง" โปรตุเกส แชมป์เก่าปี 2016 แฟร์นันโด ซานโต๊ส มั่นใจแนวรุก "โรนัลโด้" ที่ซัดสองเม็ดนัดเปิดหัวผนึกกำลัง "บรูโน่-แบร์นาร์โด้" ล่าชัยตีตั๋วเข้ารอบ ดวล "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ที่ฟอร์มไม่ดีแพ้นัดแรก โยอัคคิม เลิฟ ขนสตาร์ทั้ง "ฮาแวร์ตซ์-มุลเลอร์" นำลุยเพื่อสามคะแนนยื้อโอกาสไปต่อศึกครั้งนี้

     ออกสตาร์ทครึ่งแรกแค่ ห้านาทีแรก อินทรีเหล็กเฮเก้อหลัง โธมัส มุลเลอร์ จ่ายบอลออกมาด้านขวาของสนาม มัทธีอัส กินเตอร์ เปิดบอลเข้าเขตโทษ บอลกระดอนเลย แซร์ช นาบรี้ ที่กระโดดชาร์จ แต่มี โรบิน โกเซนส์ ซัดด้านเสาสองเข้าประตู ทว่ากรรมการชี้เป็นจังหวะล้ำหน้าของหัวหอกเสือใต้

     สองนาทีต่อมา แซร์ช นาบรี้ ลากบอลลุยแหวกผู้เล่นฝอยทอง ก่อนล็อกหลบ รูเบน ดิอ๊าส ที่สไลด์ดักตรงเส้นหลัง หยอดลุ้นมาหน้าประตูเข้ามือนายทวารคู่แข่ง

     โธมัส มุลเลอร์ เก็บบอลกลางสนามไหลสั้นมาให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ วางเท้าส่องบอลเข้ากรอบแต่เจอ รุย ปาตริซิโอ ปัดทิ้งช่วยทีมหวุดหวิดในนาทีที่ 10

     อีกเพียงสามนาที โทนี่ โครส โยนบอลขึ้นหน้าเข้าเขตโทษ โยชัว คิมมิช โหม่งตั้งจากด้านขวาตั้งไปที่ โธมัส มุลเลอร์ วอลเลย์นอกกรอบแต่บอลเบาเข้าซองนายด่านฝอยทอง

     และแล้วนาทีที่ 15 ฝอยทองนำ 1-0 แบร์นาร์โด้ ซิลวา สวนกลับเร็วเลี้ยงเลยครึ่งสนามวางข้ามมาด้านซ้ายเขตโทษ ดิโอโก้ โชต้า พักอกเอาบอลลง ก่อนจิ้มบอลระยะ 6 หลาหนีตัว มานูเอล นอยเออร์ ให้สตาร์รุ่นพี่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระทุ้งโล่งโจ้งซุกตาข่ายเป็นลูกที่สามของเจ้าตัวทัวร์นาเมนท์นี้

     อินทรีเร่งเอาคืนนาทีที่ 18 โรบิน โกเซนส์ รับบอลเปิดโด่งบริเวณกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วซัดทันทีบอลพุ่งตรงตัวนายด่านโปรตุเกส

     เยอรมันไล่เจ๊า 1-1 นาทีที่ 35 โยชัว คิมมิช ครอสบอลข้ามฝั่งเข้าเขตโทษด้านซ้าย โรบิน โกเซนส์ ยิงตามน้ำผ่านบอลมาระยะกรอบ 6 หลา ก่อน ไค ฮาแวร์ตซ์ วิ่งกดดันจน รูเบน ดิอ๊าส แหย่เท้าสกัดผิดเหลี่ยมบอลซุกประตูตนเอง

     ก่อนเป็นอินทรีเหล็กพลิกนำ 2-1 สี่นาทีถัดมา โรบิน โกเซนส์ ตบบอลให้ โธมัส มุลเลอร์ หยอดบอลตรงเส้นกรอบเขตโทษทางซ้าย แนวรับฝอยทองโหม่งเคลียร์ไม่ขาด บอลลอยมาย้อนเข้าเขตโทษ ไค ฮาแวร์ตซ์ เทคตัวสกิดบอลเลยมาที่ โยชัว คิมมิช ปาดย้อนจากเส้นหลังบอลโดน ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ทำพลาดเข้าประตูตนเอง เชิ้ตดำเช็ควีเออาร์ ก่อนยืนยันเป็นสกอร์

     ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+2 แซร์ช นาบรี้ กระชากบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย โยกหลบ เปเป้ ก่อรซัดทันทีบอลโดน รุย ปาตริซิโอ เอี่ยวตัวเซฟได้ก่อนหมดครึ่งแรก เยอรมัน แซงนำ 2-1

     กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง นาที 51 อินทรีเหล็กทิ้งห่างเป็น 3-1 บอลเริ่มจาก โธมัส มุลเลอร์ แทงเรียดออกมาให้ โรบิน โกเซนส์ ก่อนฟูลแบ็คอตาลันต้าครอสบอลทางซ้ายไปที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ รอชาร์จในกรอบ 6 หลาแบบไม่มีใครตามประกบ

     ผ่านมานาทีที่ 60 ไค ฮาแวร์ตซ์ จิ้มบอลป้ายไปทางขวาเส้นเขตโทษ โยชัว คิมมิช เปิดบอลย้อยเข้าหัว โรบิน โกเซนส์ ลอยตัวโหม่งเต็มแรงส่งบอลกองก้นตาข่ายอีกลูก เยอรมัน ฉีกไกล 4-1 

     โปรตุเกสตีตื้น 2-4 นาทีที่ 67 ชูเอา มูตินโญ่ ลงสำรองมาโยนลูกฟรีคิกริมเส้นด้านซ้าย แนวรับอินทรีเหล้กปล่อยบอลลอยจะออกเส้นหลังด้านขวา แต่ดันมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งมาเกี่ยวบอลกระดกมาหน้าปากประตู ก่อนเป็น ดิโอโก้ โชต้า หวดซ้ำเผาขนเข้าไป แม้ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ขอเช็ควีเออาร์แต่ไม่มีปัญหาเป็นประตูเช่นเดิม

     เข้าช่วง 11 นาทีท้ายเกม เรนาโต้ ซานเชส สบโอกาสซัดไกล บอลโค้งเข้าหากรอบ ทว่าโชคไม่เข้าข้างบอลชนเสาแรกอย่างจังกระดอนออกมา

     จบเกม เยอรมัน เอาชนะ โปรตุเกส 4-2 คว้าชัยชนะเกมแรกของศึกยูโรครั้งนี้ โดย อินทรีเหล็ก มีโอกาสจบแชมป์กลุ่ม หากนัดสุดท้ายชนะ ฮังการี แล้วรอลุ้นให้ "ฝอยทอง" ที่จำเป็นต้องชนะ ฝรั่งเศส ให้ได้เช่นกัน เฮดทูเฮดของ เยอรมัน จะดีกว่าทันที

     รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

     โปรตุเกส (4-2-3-1): รุย ปาตริซิโอ,เนลซอน เซเมโด้,รูเบน ดิอ๊าส,เปเป้,ราฟาแอล เกร์เรยโร่,วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ (ราฟา ซิลวา น.58),ดานิโล่ เปเรยร่า,แบร์นาร์โด้ ซิลวา (เรนาโต้ ซานเชส น.46),บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ชูเอา มูตินโญ่ น.64),ดิโอโก้ โชต้า (อังเดร ซิลวา น.83),คริสเตียโน่ โรนัลโด้

     เยอรมัน (3-4-2-1): มานูเอล นอยเออร์,มัทธีอัส กินเตอร์,มัตส์ ฮุมเมลส์ (เอ็มเร่ ชาน น.62),อันโตนิโอ รือดิเกอร์,โยชัว คิมมิช,อิลคาย กุนโดกัน (นิคลาส ซือเล่ น.73),โทนี่ โครส,โรบิน โกเซนส์ (มาร์เซล ฮัลสเตนแบร์ก น.62),ไค ฮาแวร์ตซ์ (ลีออน โกเรทซ์ก้า น.73),โธมัส มุลเลอร์,แซร์ช นาบรี้ (ลีรอย ซาเน่ น.87)

     ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์ (อังกฤษ)