ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » ได้อย่างเสียอย่างคว้าแชมป์กลุ่ม!เจาะ 5 ประเด็น อังกฤษเฉือนเช็กทะลุ 16 ทีมสุดท้าย

ได้อย่างเสียอย่างคว้าแชมป์กลุ่ม!เจาะ 5 ประเด็น อังกฤษเฉือนเช็กทะลุ 16 ทีมสุดท้าย

Posted 23/06/2021 by siamsport

อังกฤษ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยยมเมื่อสามารถปราก สาธารณรัฐเช็ก 1-0 ที่สนามเวมบลีย์ ในศึกยูโร 2020 นัดสุดท้าย กลุ่ม ดี เมื่อวันอังคารที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาสามารถยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ

ประตูโทนในเกมนี้เกิดขึ้นช่วงครึ่งแรกจาก ราฮีม สเตอร์ลิง โดยฟอร์มของ "สิงโตคำราม" ต้องบอกว่าน่าประทับใจอย่างมาก โดยเฉพาะ บูกาโย่ ซาก้า กับ แจ็ค กรีลิช ที่ได้รับความไว้วางใจให้ลงเล่นตัวจริงในแมตช์นี้

การที่ อังกฤษ จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม ทำให้พวกเขาต้องเตรียมรอพบทีมอันดับ 2 จากกลุ่มเอฟ ที่อาจจะเป็น ฝรั่งเศส, เยอรมนี หรือ โปรตุเกส แต่กระนั้นพวกเขายังคงได้เล่นที่เวมบลีย์ต่อไป และนี่อาจจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ "ทรี ไลอ้อนส์" ไปได้ไกลในทัวร์นาเมนต์นี้ก็ได้


1. ตัดสินใจถูกใช้งาน กรีลิช, ซาก้า
หลังจากที่เปิดเผยชื่อ 11 ตัวจริงในเกมสุดท้ายของ กลุ่ม ดี แฟนบอลอังกฤษ คงงงไม่น้อยที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ดร็อป ฟิล โฟเด้น และให้โอกาส บูกาโย่ ซาก้า กับ แจ็ค กรีลิช ลงเป็นตัวจริงในแมตช์นี้

แม้นายใหญ่ "สิงโตคำราม" จะให้เหตุผลว่าต้องการเซฟ โฟเด้น ไม่ให้โดนใบเหลืองอีกใบ เพราะจะทำให้นักเตะถูกแบนในรอบน็อกเอาต์ แต่จริงๆ แล้วการตัดสินใจใช้งาน ซาก้า กับ กรีลิช ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องจริงๆ

เพราะผู้เล่นทั้งสองคนช่วยให้เกมรุกของ อังกฤษ ดูมีชีวิตชีวา และมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อย่างในรายของ กรีลิช ความสามารถเฉพาะตัวของเขาช่วยให้เกมแดนกลางของ "ทรี ไลอ้อนส์" มีความลื่นไหล ทำให้แนวรับของ เช็ก ต้องมีปัญหาเวลาที่บอลอยู่กับเขา ที่สำคัญ จอมทัพแอสตัน วิลล่า ยังเป็นคนเปิดบอลงามหยดให้ สเตอร์ลิง ทำประตูชัยด้วย

สำหรับ ซาก้า ต้องบอกเลยว่าเจ้าหนูคนนี้ผลงานโดดเด่นไม่ธรรมดา โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่นักเตะใช้ความรวดเร็ว และความคล่องตัวเล่นงานเกมรับ เช็ก นอกจากนี้เขายังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยปั้นเกมในจังหวะที่ สเตอร์ลิง ทำประตูด้วย

ฟอร์มการเล่นทางฝั่งซ้ายของ ดาวรุ่งจากค่าย "เดอะ กันเนอร์" อาร์เซน่อล โดดเด่นอย่างมาก ที่สำคัญเขาเป็นนักเตะที่กล้าครองบอล และพร้อมที่จะดวลกับคู่แข่งแบบไม่เกรงกลัวด้วย ต้องบอกเลยว่า ซาก้า คู่ควรแล้วที่ได้เป็นสตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์
 

2. เคน ถึงยิงไม่ได้แต่มีประโยชน์
ผลงานของ แฮร์รี่ เคน ในศึกยูโร 2020 อาจทำให้สาวก "สิงโตคำราม" รู้สึกผิดหวังเหลือเกิน เพราะเขายังไม่สามารถทำประตูให้ทัพบ้านเกิดได้เลย แต่สำหรับแมตช์นี้นักเตะสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้มากมาย และน่าจะช่วยให้แฟนบอลสงบปากสงบคำไปได้บ้าง

เคน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งในการช่วยทีมทุกๆ นาที โดยเขาพยายามวิ่งเข้าหาบอลในทุกๆ โอกาส, มีการเคลื่อนที่หาตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม, สัมผัสบอลนิ่มนวล และยังคอยทำหน้าที่เชื่อมเกมบุกบริเวณกรอบเขตโทา รวมทั้งยังลงมาล้วงบอลลึกด้วย

กัปตันทีมชาติอังกฤษ ไม่ได้ยึดติดกับการทำหน้าที่เป็นหน้าเป้าอย่างเดียว โดยเขาพยายามที่จะเล่นในบทบาททั้งหน้าเป้าและเพลย์เมกเกอร์ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับทีม และอย่าลืมว่า เคน เป็นคนที่ส่งบอลให้ กรีลิช เปิดบอลให้ สเตอร์ลิง ทำประตู

ดาวยิงท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไม่ใช่ว่าไม่มีความพยายามในการเล่น แต่จริงๆ แล้วในบางครั้งเขาพยายามมากจนเกินไปจนทำให้เกิดความผิดพลาด แต่สำหรับแมตช์นี้ เคน ไม่ได้เล่นแบบเดิม ซึ่งสิ่งนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีพัฒนาการมากยิ่งขึ้น

สองจังหวะที่ เคน ซัดแต่โดน โทมัส วาคลิค ปฏิเสธในครึ่งแรก ก็น่าจะเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเขายังคงมีความอันตรายในการยิงประตู ฉะนั้นหากทุกอย่างเข้าที่เข้าทางในเร็วๆ นี้คงได้เห็นชื่อของ เคน อยู่บนสกอร์บอร์ดแน่นอน


3. เกมรับเหนียวแน่นแข็งแกร่ง
หนึ่งในเรื่องบวกสำหรับ อังกฤษ ก็คือพวกเขาสามารถจบรอบแบ่งกลุ่มโดยที่ไม่เสียประตูเลยตลอดทั้ง 3 แมตช์ แถมเมื่อมองจากโปรแกรม 8 นัดที่ผ่านมา ทีมของกุนซือแกเร็ธ เซาธ์เกต เสียไปแค่ประตูเดียวเท่านั้น

จะเห็นได้ว่า เซาธ์เกต ค่อนข้างให้ความสำเร็จกับโครงสร้างเกมรับที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของอังกฤษในเวลานี้ ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" เป็นทีมที่คู่แข่งยากจะบุกเข้ามาตีป้อมปราการให้แตก

ในเกมนี้ เช็ก มีการสร้างโอกาสขึ้นมาได้เช่นกัน และบางทีพวกเขาน่าจะได้อย่างน้อย 1 ประตู แต่ผลงานของปราการหลังอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์, ลุค ชอว์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์ สามารถคลุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ขณะที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ก็มีช็อกซูเปอร์เซฟให้เห็นเช่นกัน

 สำหรับ สโตนส์ กับ แม็กไกวร์ ต้องบอกว่าเล่นได้เข้าขาจริงๆ ทั้งๆ ที่ กัปตันแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ลงสนามมา 6 สัปดาห์ แต่พวกเขาก็ช่วยกันประสานงานทำให้เกมรับของ อังกฤษ เหนียวแน่นอย่างมาก
 
ขณะที่ ชอว์ โดดเด่นในเกมรุก และเกือบได้แอสซิสต์จากการชิพบอลให้ สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปกระดกบอลข้ามหัวโกลเช็ก แต่น่าเสียดายที่บอลดันชนเสาออกไป สำหรับเกมรับก็ถือว่าพอใจใช้ได ส่วน วอล์คเกอร์ เล่นเกมรับได้ดีแต่เกมรุกไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก

อย่างไรก็ตาม เซาธ์เกต คงต้องติวเข้มแผงแบ็กโฟร์ให้มากยิ่งขึ้นเพราะอย่างลืมว่าในรอบต่อไป พวกเขามีสิทธิ์เจอกับกองหน้าระดับโลกอย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งสามารถลงโทษพวกเขาได้ทันทีที่ทำผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว
  

4. การปรับทีมที่เน้นสกอร์มากเกินไป
หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในครึ่งแรก พร้อมกับมีสกอร์นำ 1 ลูก แน่นอนว่าแฟนบอลทีมชาติอังกฤษ คาดหวังจะเห็นทีมรักเปิดเกมบุกแบบมันๆ เหมือนเดิม เพื่อจะได้เห็นประตูเพิ่มมากขึ้น

น่าเสียดายที่ เซาธ์เกต ไม่ได้คิดแบบนั้นเพราะในครึ่งหลังโมเมนตัมของ "สิงโตคำราม" เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่การถอด ดีแคลน ไรซ์ ออกและส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงสนามในต้นครึ่งหลักง ตามด้วยการเปลี่ยน กรีลิชและส่ง จู๊ด เบลลิ่งแฮม ลงมาเล่นแทน ในนาทีที่ 68

ไม่ต้องสงสัยเหตุผลที่ เซาธ์เกต ทำแบบนี้เพราะต้องการเก็บผู้เล่นสำคัญเอาไว้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ แต่การที่แดนกลางของอังกฤษมี คาลวิน ฟิลลิปส์, เบลลิ่งแฮม และ "เฮนโด้" กลายเป็นว่าทีมอ่อนยวบทันที

กระนั้นมันก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ของ เซาธ์เกต ว่าพึ่งพอใจกับสกอร์ 1-0 หากมองในมุมของกุนซือการทำแบบนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อทำให้ขุมกำลังมีความสมบูรณ์เมื่อเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์

อย่างไรก็ตามมันอาจจะไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจสำหรับแฟนบอลเพื่อนร่วมชาติของ เซาธ์เกต เพราะพวกเขาอยากเห็นทัพ "สิงโตคำราม" เดินหน้ากรีฑาทัพเล่นเกมบุกที่แสนดุดันตลอด 90 นาที
 

5. ได้เปรียบเล่นในเวมบลีย์ต่อแต่คู่แข่งสุดหิน
การได้แชมป์กลุ่ม ดี ทำให้ อังกฤษ ยังคงได้รับสิทธิ์ในการเล่นที่สนามเวมบลีย์ต่อไปในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่กระนั้นสิ่งที่พวกเขาจะต้องเจอก็คือทีมอันดับ 2 ในกลุ่ม เอฟ ซึ่งเป็น "กรุ๊ป ออฟ เดธ" ซะด้วย

สถานการณ์ของ อังกฤษ ในตอนนี้พวกเขามีสิทธิ์เจอกับ ฝรั่งเศส, เยอรมนี หรือโปรตุเกส เพราะทั้งสามทีมนี้มีโอกาสที่จะจบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอฟ ฉะนั้นนี่คือเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับ "สิงโตคำราม" อย่างแท้จริง

ในขณะที่ โครเอเชีย ที่เอาชนะ สกอตแลนด์ ทำให้คว้าอันดับ 2 กลุ่ม ดี จะต้องเดินทางไปเล่นในโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก และเตรียมพบกับอันดับ 2 ของกลุ่ม อี ซึ่งอาจจะเป็น สวีเดน, สโลวาเกีย หรือ สเปน ก็ได้

อย่างไรก็ตามหาก อังกฤษ ต้องการที่จะประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ระดับชาติสมัยแรกนับตั้งแต่ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เมื่อปี 1966 พวกเขาต้องพร้อมเผชิญหน้ากับทุกๆ ทีม จึงจะคู่คำกับคำว่า "จ้าวยุโรป" อย่างแท้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • เยอรมันฟอร์มคึก "ฮาแวร์ตซ์-นาบรี" นำทัพล่าชัยเหนือฮังการี NBT2HDยิงสด
    เยอรมัน เกมนี้เจอไม่หนักเท่าไหร่แต่ต้องเน้นสามแต้มไว้ก่อนเพื่อโอกาสจบแชมป์กลุ่ม ไค ฮาแวร์ตซ์, ลีรอย ซาเน่ และแซร์ช นาบรี นำทัพดวลกับ ทัพแม็กยาร์ ฮังการี ที่ลุ้นสามแต้มเพื่อคว้าตั๋วเข้า 16 ทีมเช่นกัน ในเกมนัดสุดท้าย กลุ่ม เอฟ ศึกยูโร 2020 เริ่มแข่งขันเวลา 02.00 น. NBT 2 HD และทรูสปอร์ตยิงสดให้ชมกัน
  • โปแลนด์เฮเท่านั้น! "เลวาน" นำทัพดวลสวีเดนที่ขอลุ้นแต้มเพื่อเข้ารอบ ศึกยูโร
    โปแลนด์ ของนายใหญ่ เปาโล ซูซ่า ต้องคว้าชัยให้ได้ในเกมนี้เพื่อความหวังในการเข้ารอบหลังมีเพียง 1 คะแนนจาก 2 นัดความพร้อมวาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นำทัพ ทางด้าน สวีเดน ผลงานดีมี 4 แต้มอย่างน้อยก็การันตีแล้วว่าจบ 3 อันดับแรกแน่นอน ในศึกฟุตบอล ยูโร 2020 กลุ่ม อี (นัดสุดท้าย) คืนวันวันพุธที่ 23 มิถุนายนนี้
  • เดือดแน่! โปรตุเกสเน้นชัยโรนัลโด้ลงซัด-ฝรั่งเศสใช้เบนเซม่าตะบันช่อง3ยิงสด
    แชมป์เก่า โปรตุเกส เกมที่แล้วพ่ายให้เยอรมันมาขาดลอยเกมนี้ต้องเน้นชัยให้ได้เพื่อการันตี 16 ทีมสุดท้าย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และดิโอโก้ โชต้านำทัพล่าตาข่าย ดวลกับแชมป์โลกล่าสุด ฝรั่งเศส ที่เกมนี้้ขอแค่ไม่แพ้จัด คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ คาริม เบนเซม่า ในเกมนัดสุดท้าย กลุ่ม เอฟ ศึกยูโร 2020 เริ่มแข่งขันเวลา 02.00 น. ช่อง3 และทรูสปอร์ต ยิงสดให้ชมกัน
  • เฮเข้ารอบชัวร์! สเปนต้องเน้น "โมราต้า" ตัวจริงยิงสโลวาเกีย PPTV HD ยิงสด
    "กระทิงดุ" ของกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ พึ่งมี 2 แต้มจากการลงสนาม 2 นัดโดยหากคว้าชัยได้ในเกมนี้จะผ่านเข้ารอบโดยไม่ต้องไปลุ้นสถานการณ์คู่อื่น ส่วนทาง สโลวาเกีย อุ่นใจกว่ามี 3 คะแนนในมือมีโอกาสพลิกล็อก เช่นกัน ในศึกฟุตบอล ยูโร 2020 กลุ่ม อี (นัดสุดท้าย) คืนวันวันพุธที่ 23 มิถุนายนนี้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »