เกมสุดดราม่าพลิกไปพลิกมา! หลัง "อินทรีเหล็ก" เป็นฝ่ายตามหลัง ฮังการี สองครั้งสองคราก่อนช่วงท้ายเกม นาที 84 ลีออน โกเร็ตส์ก้า จะรับบทฮีโร่ซัดไล่เจ๊าให้ทีมเก็บแต้มสำคัญเสมอ 2-2 พร้อมคว้ารองแชมป์กลุ่มเข้าไปพบกับ อังกฤษ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนฮังการีจบบ๊วยของกลุ่ม ตกรอบอย่างน่าเสียดาย ในเกมยูโร 2020 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า, มิวนิค (เยอรมัน)

    ฟุตบอล ยูโร 2020 กลุ่ม เอฟ นัดสุดท้าย เมื่อคืนวันพุธที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา เยอรมัน เกมนี้ได้เล่นในถิ่นตัวเองรับมือ ฮังการี โดยฟอร์มล่าสุดของทั้งคู่นั้น "อินทรีเหล็ก" คืนฟอร์มไล่ถล่ม โปรตุเกส แชมป์เก่าขาดลอย 4-2 ส่วน ฮังการี โชว์เหนียวยันเสมอกับแชมป์โลกอย่าง ฝรั่งเศส 1-1 เก็บหนึ่งแต้มทำให้ทัพแม็กยาร์ยังมีลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

    โยอัคคิม เลิฟ เกมนี้ได้ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ กลับมายืนคุมแนวรับ ส่วน โธมัส มุลเลอร์ เพิ่งหายเจ็บออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรองเท่านั้น โดยส่ง ลีรอย ซาเน่ ปั้่นเกมร่วมกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ โดยทิ้ง แซร์ช นาบรี เป็นหน้าเป้า  ส่วนทางฝั่ง มาร์โก รอสซี่ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลี่ยนเกมนี้ข่าวดีคือได้ อดัม ซาไล ฟิตทันลงเล่นตัวจริงยืนจับคู่กับ โรลันด์ ซัลไล 

    เริ่มเกมมาได้แค่ นาทีที่ 4 อินทรีเหล็กเกือบได้ประตูออกนำไปก่อนหลัง โรบิน โกเซนส์ เปิดข้ามหัวแนวรับฮังการีให้ โจชัว คิมมิช หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่เบายังเบาไปเบาไปไม่ผ่านมือ ปีเตอร์ กูลัคซี่ รับไว้ได้

    แต่แล้ว นาที 11 แฟนๆอินทรีเหล็กใน อัลลิอันซ์ อารีน่า ต้องเงียบกริบหลังกลายเป็น ฮังการี ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 บอลสวนกลับจากแดนตัวเอง โลอิก เนโก้ ไหลต่อให้ โรลันด์ ซัลไล ที่ลงมารับบอลต่ำก่อนดาวยิงจาก ไฟรบวร์ก จะครอสสุดสวยไปหน้าประตูให้ อดัม ซาไล สอดเข้าไปโขกเสาแรกหนีมือ นอยเออร์ เข้าไปอย่างสวยงาม

    นาที 17 ไค ฮาแวร์ตซ์ เลี้ยงหลบแนวรับฮังการีก่อนถึงเส้นหลังแล้วปาดเลียดมาหน้าประตูเลยไปถึง ลีรอย ซาเน่ ซัดไปติดบล็อคแนวรรับฮังการี

    อินทรีเหล็กยังบุกกดดันอย่างหนัก นาที 21 เยอรมัน เกือบได้ลูกตีเสมอหลัง โจชัว คิมมิช เปิดเตะมุมเข้ามาให้ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ เทกตัวโขกไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

    จากนั้นไม่ถึงนาที มัทธีอัส กินเตอร์ สอดเข้าไปจิ้มบอลไม่ถึง 6 หลาแต่บอลยังไปตรงตัว ปีเตอร์ กูลัคซี่ 

    ฮังการี ต้องเปิดตำรารับอยู่ฝ่ายเดียวหลังทัพ อินทรีเหล็ก พับสนามเปิดเกมรุกเข้าใส่ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง 

    นาที 39 ฮังการี อาศัยลูกโต้กลับและใช้โอกาสกันไม่เปลือง คราวนี้ โรลันด์ ซัลไล ฉีกไปรับบอลทางริมเส้นทางซ้ายก่อนตัดเข้ากลางแล้วตะบันไกลบอลพุ่งติดไซด์ก่อนไปเข้ามือ มานูเอล นอยเออร์ 

    นาทีสุดท้ายครึ่งแรก ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้โอกาสซัดในกรอบอีกครั้งแต่ยังไปติดแนวรับฮังการี บอลกระดอนมาหา ฮาแวร์ตซ์ อีกหนแต่เจ้าตัวอัดด้วยขวาหลุดกรอบออกไป

    จบครึ่งแรก เยอรมัน ตามหลัง ฮังการี 0-1

    กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 52 ลีรอย ซาเน่ แทงเข้ากลางให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ พลิกบอลอัดด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลพุ่งแรงเสาแรกแต่ยังไปเข้าซอง ปีเตอร์ กูลัคซี่

    นาที 59 ฮังการีมาได้ฟรีคิกใกล้มุมธงทางฝั่งซ้าย ลาสซ์โล ไคลน์ไฮส์เลอร์ เปิดแรงมาเสาแรกแบบได้เสียวแต่ มานูเอล นอยเออร์ ยังออกมาชกบอลออกไป 

    แต่แล้วนาที 66 "อินทรีเหล็ก" มาได้ประตูไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากจังหวะฟรีคิกทางด้านขวา โจชัว คิมมิช เปิดเข้ามาในกรอบ ปีเตอร์ กูลัคซี่ นายด่านแม็กยาร์ออกมาตัดบอลพลาด มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ โขกเข้าไปบอลกำลังจะลอยข้ามเส้นแต่ ไค ฮาแวร์ตซ์ กระโดดโหม่งซ้ำจ่อๆไม่ถึงสองหลาเข้าไปง่ายๆ

    กระนั้น เยอรมัน ดีใจได้แปล๊บเดียว นาที 68 แนวรับเยอรมันมาพลาดโดน โรลันด์ ซัลไล จ่ายตัดแนวรับให้ อันดราส ชาเฟอร์ สอดขึ้นมาไม่ล้ำหน้าก่อนหลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เข้าไปตุงตาข่ายให้ ฮังการี แซงนำ 2-1 อีกครั้ง

    นาที 84 เยอรมัน มาไล่ตีเสมอ 2-2 จนได้หลังตัวสำรองอย่าง ลีออน โกเร็ตส์ก้า ชิ่งให้ จามาล มูเซียล่า ซัดไปติดบล็อคแนวรับฮังการีก่อนบอลกระดอนมาเข้าทางปืน โกเร็ตส์ก้า ยิงซ้ำเข้าไปไม่เหลือ

    จบเกม เยอรมัน เสมอกับ ฮังการี 2-2 แบ่งแต้มกันไป ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน โปรตุเกส เสมอกับ ฝรั่งเศส 2-2 เช่นเดียวกัน ทำให้แข่งขันครบ 3 นัด "ตราไก่" คว้าแชมป์กลุ่มมี 5 แต้ม เยอรมันที่มี 4 แต้มเท่ากับทัพฝอยทองคว้ารองแชมป์กลุ่มด้วยเฮดทูเฮดที่เหนือกว่า ส่งให้ โปรตุเกส แชมป์เก่า คว้าอันดับ 3 ดีที่สุด ตามเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน ฮังการี จบบ๊วยมีแค่ 2 แต้มตกรอบอย่างน่าเสียดาย

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     เยอรมัน (3-4-2-1) : มานูเอล นอยเออร์ - มัทธีอัส กินเตอร์ (เควิน โฟลลันด์ น.82), มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - โจชัว คิมมิช, โทนี่ โครส, อิลคาย กุนโดกัน (ลีออน โกเร็ตส์ก้า น.58), โรบิน โกเซนส์ (จามาล มูเซียล่า น.82) - ไค ฮาแวร์ตซ์ (ติโม แวร์เนอร์ น.67) ,ลีรอย ซาเน่ - แซร์ช นาบรี (โธมัส มุลเลอร์ น.67) 

    เทรนเนอร์ : โยอัคคิม เลิฟ 

    ฮังการี (3-5-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - เอ็นเดร บ็อตก้า, วิลลี่ ออร์บาน, อัตติล่า ซาไล - โลอิก เนโก้, ลาสซ์โล ไคลน์ไฮส์เลอร์ (เกร์โก้ ลอฟเรนซิสซ์ น.89), อดัม นาจี้, อันดราส ชาเฟอร์, อัตติล่า ฟิโอล่า (เนมานย่า นิโคลิช น.88) - โรลันด์ ซัลไล (ซาโบลช์ โชน น.75), อดัม ซาไล (เควิน วาร์ก้า น.82)

    เทรนเนอร์ : มาร์โก รอสซี่