ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » เอ็มบัปเป้หายไปไหน,ชาคาอย่างหล่อ! 5 ประเด็น ฝรั่งเศส พ่าย สวิส ร่วงยูโร2020

เอ็มบัปเป้หายไปไหน,ชาคาอย่างหล่อ! 5 ประเด็น ฝรั่งเศส พ่าย สวิส ร่วงยูโร2020

Posted 29/06/2021 by siamsport

     ใครจะไปคิดว่า ฝรั่งเศส เต็งหนึ่งแชมป์ยูโร 2020 จะโบกมือลาทัวร์นาเมนต์นี้ไปไวเกินคาด เมื่อพ่ายดวลจุดโทษต่อ สวิตเซอร์แลนด์ 4-5 หลังเสมอกันใน 120 นาที แบบสุดมันส์ 3-3 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
     จริงๆ แล้วเกมนี้น่าจะจบไปตั้งแต่ 90 นาทีเพราะทัพ "ตราไก่" มีสกอร์นำ 3-1 แต่กลายเป็นว่าแนวรับของพวกเขาเล่นได้หละหลวมมากๆ สุดท้ายก็เลยโดนยิงตีเสมอ 3-3 และทำให้ต้องไปเหนื่อยอีก 30 นาทีก่อนจะจบด้วยการดวลจุดโทษหาผู้ชนะ

     ที่น่าเศร้าอีกเรื่องสำหรับ "เลส์ เบลอส์" ก็คือผลงานของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เพราะแมตช์นี้เขาเล่นไม่ออกเลย และยังเป็นคนที่พลาดยิงจุดโทษคนสุดท้้าย ฉะนั้นยูโรหนนี้คงไม่ใช่หนึ่งในรายการที่ หัวหอกปารีส แซงต์-แชร์กแมง อยากจดจำสักเท่าไหร่


1. แนวรับมีปัญหา
     แมตช์นี้ ฝรั่งเศส แสดงให้เห็นตั้งแต่ต้นเกมแล้วว่าพวกเขามีปัญหาในการรับมือกับลูกโด่งของสวิตเซอร์แลนด์ และยังปล่อยพื้นที่ให้ผู้เล่นจากแดนนาฬิกาได้เล่นสบายๆ บริเวณหน้าประตูหลายต่อหลายครั้ง

     เดส์ชองส์ เลือกใช้แผนแนวรับ 3 คนโดยส่ง ราฟาแอล วาราน, เปรสแนล คิมเป็มเบ้ และ เกลม็องต์ ล็องช์เล่ต์ ยืนคุมเกม แต่ดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะไม่ได้ผลกับการสู้กับผู้เล่นที่กองหน้าสูงใหญ่อย่างสวิส

     จังหวะที่เสียประตูแรกจะเห็นได้ชัดว่า ล็องช์เล่ต์ ไม่สามารถจัดการกับ ฮาริส เซเฟโรวิช ในจังหวะขึ้นโหม่ง ในขณะเดียวกัน แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ก็เจอความคล่องตัวของ สตีเว่น ซูเบอร์  กระชากหนีจนทำให้ต้องทำฟาวล์เสียจุดโทษ แต่ดวงเฮงที่ อูโก้ โยริส เซฟลูกยิงของ ริคาร์โด้ โรดริเกซ

     ประตูที่ สวิส ยิงตีตื้น 2-3 ก็เป็นอีกครั้งที่แนวรับของ ฝรั่งเศส จัดการกับลูกโด่งได้ไม่ดีพอทำให้ เซเฟโรวิช สอดเข้ามาโหม่งได้สบายๆ ส่วนจังหวะตีเสมอ มาริโอ กาฟราโนวิช โยกหนี  คิมเป็มเบ้ ก่อนยิงเข้าไป

     ฉะนั้นคงไม่ต้องแปลกใจหากจะบอกว่าการตกรอบของ ฝรั่งเศส ในศึกยูโร 2020 ส่วนหนึ่งมาจากผลงานเกมรับที่เล่นได้น่าผิดหวังจริงๆ

2. เซเฟโรวิช โชว์ของสยองขวัญ
     ใครบอกว่าผู้เล่นหน้าเป้าขนานแท้ได้ตายจากวงการลูกหนังไปแล้วในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา แต่วันนี้ ฮาริส เซเฟโรวิช หัวหอกจอมโขก แสดงให้เห็นแล้วว่าผู้เล่นตำแหน่งน้ยังคงมีส่วนสำคัญในเกมฟุตบอล

     ดาวเตะวัย 29 ปี ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการเล่นให้เบนฟิก้า โดยซัดไป 25 ประตูเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนการเล่นในนามทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ตอนนี้เจ้าสะสมตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 24 ประตูเรียบร้อยแล้ว

 

     สำหรับประตูเบิกร่องที่ทำให้ สวิส ขึ้นนำต้องบอกว่าเป็นจังหวะการขึ้นโหม่งที่สมบูรณ์แบบของเขาจริงๆ ชนิดที่ ล็องช์เล่ต์ ที่ตามประกบเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ส่วนอีกประตูมาจากสัญชาตญาณหน้าเป้าล้วนที่วิ่งเข้าสอดระหว่างแนวรับฝรั่งเศส ก่อนโหม่งสบายๆ

     แน่นอนว่าฟอร์มการเล่นแบบนี้คงทำให้ เซฟาโรวิช ต้องเตรียมตัวเจอเรื่องสำคัญหลังจบศึกยูโร 2020 เพราะคงมีหลายสโมสรที่พร้อมจะยื่นข้อเสนอเพื่อหวังดึงตัวเขาไปทำหน้าที่หน้าเป้าชั้นดีในฤดูกาลหน้า

3. ป็อกบามีทั้งดีและร้าย
     สำหรับแมตช์นี้ ปอล ป็อกบา โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นมากๆ โดยเขาทำหน้าที่ในการคุมแดนกลาง และคอยขับเคลื่อนเกมรุกให้กับฝรั่งเศส แต่ในขณะเดียวกันเขาก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมต้องตกรอบ !!

     ป็อกบา เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อมี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คอยทำหน้าที่เก็บกวาดในแผงมิดฟิลด์ โดยเขามีอิสระในการเล่นเกมรุกอย่างเต็มที่ และมีหลายครั้งที่ผ่านบอลสวยๆ ช่วยทำให้ทีมมีลุ้นทำประตู

 

     กองกลางจากค่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำหน้าที่เชื่อมเกมรุกได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังยิงประตูที่สวยสดงดงามส่งให้ทัพ "ตราไก่" เจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 มีสกอร์หนีห่าง สวิตเซอร์แลนด์ 3-1

     อย่างไรก็ตาม ป็อกบา ดันเล่นประมาทเกินไปในแดนกลางช่วงนาทีสุดท้ายของเวลาปกติ ทำให้พลาดเสียบอล และโดน กรานิต ชาคา  แทงบอลให้ มาริโอ กาฟราโนวิช  จัดการซัดประตูกู้ชีพให้สวิสได้อย่างเหลือเชื่อ

     ภาพรวมแล้ว ป็อกบา ทำผลงานได้ดีจริงๆ ในเกมนี้ โดยสถิติแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ลากเลื้อยพาบอลผ่านนักเตะคู่แข่งมากสุดในเกมนี้ (5 ครั้ง) และงานนี้สาวกแมนฯ ยูไนเต็ด คงอยากเห็นผลงานแบบนี้กับ "ปีศาจแดง" ในซีซั่นใหม่


 
4. ชาคา ฟอร์มเทพชัดๆ
     ภาพจำผลงานของ กรานิต ชาคา กับ อาร์เซน่อล ทำให้หลายคนมองว่าเขาไม่น่าจะช่วย สวิตเซอร์แลนด์ ได้มากนัก แต่ผิดถนัดเพราะในทัวร์นาเมนต์นี้ ดาวเตะพันธุ์ดุ โชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะในเกมกับ ฝรั่งเศส

     ชาคา ทำหน้าที่ในแดนกลางได้อย่างโดดเด่น เขาสู้กับ ป็อกบา และ ก็องเต้ ได้อย่างสูสี คอยตัดเกมคู่แข่ง และยังมีจังหวะที่ช่วยสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วทีมได้ด้วย แน่นอนว่านี่คือฟอร์มที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในการสู้กับทีมที่มีแผงกองกลางที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

     มีหลายจังหวะที่ ชาคา ช่วยทำลายเกมบุกของ ฝรั่งเศส ส่วนจังหวะที่ทำให้โลกต้องจดจำคงหนีไม่พ้นการที่เขาแทงบอลสุดคมกริบให้กับ มาริโอ กาฟราโนวิช หลุดเข้าไปซัดประตูตีเสมอ 3-3 ในช่วงนาทีสุดท้ายของเวลาปกติ

     งานนี้หากแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด อยากเห็นฟอร์มของ ป็อกบา ยอดเยี่ยมเหมือนกับที่เล่นให้ฝรั่งเศส คงไม่ต่างอะไรกับสาวก "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่อยากเห็น ชาคา ระเบิดฟอร์มเหมือนที่เขาแสดงให้เห็นกับ สวิตเซอร์แลนด์ เช่นกัน


 
5. เอ็มบัปเป้ หมดราคาดาวรุ่งแห่งยุค
     ถ้าจะหานักเตะที่ผลงานย่ำแย่ที่สุดของฝรั่งเศสในทัวร์นาเมนต์นี้แน่นอนว่าชื่อของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จะต้องถูกเอ่ยออกมาเป็นคนแรก เพราะเขาไม่สามารถยิงประตูให้กับทัพ "เลส์ เบลอส์" ได้เลย

     เอ็มบัปเป้ คือแข้งความหวังของ "ตราไก่" ก่อนที่ยูโร 2020 จะเปิดฉาก แต่เมื่อถึงเวลาเขากลับไม่สามารถงัดฟอร์มเทพเหมือนที่เล่นให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หรือตอนที่ช่วย ฝรั่งเศส คว้าแชมป์เวิลด์ คัพ 2018 ได้เลย

     ในแมตช์นี้หากมองจากชื่อชั้นของแนวรับ สวิตเซอร์แลนด์ แล้วมีโอกาสสูงที่ เอ็มบัปเป้ จะได้โชว์ของ แต่กลายเป็นว่าเขาเล่นไม่เด่นเลย แม้จะมีส่วนกับการได้ประตูตีเสมอ 1-1 และประตูขึ้นนำ 2-1 แต่การจบสกอร์ของเจ้าตัวน่าผิดหวังสิ้นดี

     นอกจากนี้ เอ็มบัปเป้ ยังมีโอกาสหลุดเข้าไปยิงประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ก็ดันตะบันออกข้างไปแบบไม่มีลุ้น และที่น่าเศร้าเข้าไปอีกก็คือเจ้าตัวเป็นคนสุดท้ายที่ยิงจุดโทษและไม่เข้า

     บทสรุปในทัวร์นาเมนต์นี้่ของ เอ็มบัปเป้ บอกเลยว่ามีแต่ช้ำกับช้ำ เพราะยิงประตูไม่ได้เลยแถมทำได้แค่ 1 แอสซิสต์เท่านั้น งานนี้ทีมไหนอยากได้ตัวช่วงซัมเมอร์คงต้องคิดหนักกันหน่อยละ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »