"อัซซูรี่" อิตาลี ยังคงโชว์ฟอร์มแกร่งไร้พ่ายต่อไป นัดนี้เล่นสมราคาทีมเต็งแชมป์ อัด "ปีศาจแดง" เบลเยียม อยู่หมัด 2-1 ตบเท้าเข้าสู่รอบตัดเชือกปะทะกับ สเปนในวันอังคารที่ 6 กรกฎาคมต่อไป ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา
สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า, มิวนิค (เยอรมัน)

     ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา "อัซซูรี่" อิตาลี รอบก่อนเหนื่อยถึงช่วงต่อเวลากว่าจะปราบ ออสเตรีย ได้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ขนแนวรุกทั้ง "เคียซ่า-อิมโมบิเล่" นำทัพฉะ "ปีศาจแดง" เบลเยียม ที่จัดการเขี่ยแชมป์เก่า โปรตุเกส ตกรอบ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ  มีข่าวดีเมื่อ "เควิน เดอ บรอยน์" หายเจ็บลงช่วยทันผนึกกำลังกับ "ธอร์กาน-ลูกากู" ยื้อแย่งเข้ารอบรองชนะเลิศยูโรหนนี้

     อิตาลีอดนำนาทีที่ 13 โรแบร์โต้ อินซินเย่ วางลูกฟรีคิกริมสนามทางขวา บอลมาตกผ่านหน้าประตู โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ เข้าชาร์จไม่ถึงก่อนเป็น เลโดนาร์โด้ โบนุชชี่ ส่งบอลซุกก้นตาข่ายทว่า แนวรับตัวเก๋ายูเว่ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนแล้ว

     ปีศาจแดงยุโรปหวิดทำได้ เควิน เดอ บรอยน์ ลากบอลลุยมาซัดตรงวงกลมเขตโทษ บอลพุ่งกำลังจะเข้าทางเสาซ้าย จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เหินตัวปัดทิ้งช่วยทีมได้อย่างสุดยอด นาทีที่ 22

     เบลเยียมน่าเฮนาทีที่ 26 เควิน เดอ บรอยน์ พลิกตัวหนีแข้งอิตาลี กระชากบอลขึ้นหน้าแทงออกมาขวาให้ โรเมลู ลูกากู ลากหาเหลี่ยมยิงเรียดหน้ากรอบเขตโทษไปทางเสาสอง จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ล้มเซฟบอลออกหลังด้านซ้ายไป

     อีกเพียงนาทีเดียว เฟเดริโก้ เคียซ่า โยกหามุมหวดบอลด้านซ้ายของเขตโทษ บอลไปโดนเท้า โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ ปลิ้นมาหน้าปากประตูแต่ยังเป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยืนรับไม่มีพลาด

     อัซซูรี่เฮก่อน 1-0 นาทีที่ 31 ยาน แฟร์ต็องเกน สกัดไม่ดีเข้าทาง มาร์โก แวร์รัตติ ฉกบอลจิ้มสั้นเข้าเขตโทษให้ นิโกโล่ บาเรลล่า ล็อกบอลหลบแนวรับเบลเยียมถึงสองคน ก่อนตะบันด้วยเท้าขวา ผ่านมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เสียบประตูด้านซ้ายสุดเฉียบคม

    สี่นาทีก่อนจบครึ่งแรก มาร์โก แวร์รัตติ โยนบอลเตะมุมเข้ากลางเขตโทษ แข้งปีศาจแดงช่วยกันเคลียร์แต่กลายเป็นส่งให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า เก็บบอลแล้วบรรจงปั่นโค้งเลี้ยวออกข้างเสาขวาเพียงนิดเดียว

     และแล้ว อิตาลี ฉีกหนี 2-0 โรแบร์โต้ อินซินเย่ โชว์ฟริ้วเลี้ยงบอลโยกหลอก ยูริ ตีเลอมันส์ ทีแรกก่อนได้ลองซัดบอลโค้งระยะ 20 หลา บอลฮุบลงตาข่ายด้านขวาชนิดที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ บินปัดยังไม่ทัน นาทีที่ 44

     ทว่าอีกอึดใจเดียว เบลเยียม ไล่มา เฌเรมี โดกู ใช้ความเร็วลุยเจาะเขตโทษทางซ้าย โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ วิ่งเบียดก่อนใช้แขนดันแข้งคู่แข่งล้มไป เชิ้ตดำ ชี้จุดโทษ ก่อนเช็ควีเออาร์ยืนยันคำเดิม โรเมลู ลูกากู จัดการสังหารไม่เหลือซาก หมด 45 นาทีแรก อิตาลี นำก่อน 2-1

     ครึ่งหลังล่วงเลยถึงนาทีที่ 56 เควิน เดอ บรอยน์ ส่งบอลสั้น ก่อนเป็น เฌเรมี โดกู สปีดหนี มาร์โก แวร์รัตติ เข้าปาดบอลจากทางซ้าย จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ออกมาตัดหน้ารับบอลกระฉอก ยังดีไม่มีผู้เล่นเบลเยียมเข้าถึงบอลสักคน

     เฌเรมี โดกู กระชากกินระยะถึงหน้ากรอบเขตโทษ ไหลต่อไปที่ เควิน เดอ บรอยน์ สอดมาปาดบอลเขตโทษด้านซ้ายผ่านมาให้ โรเมลู ลูกากู ปรี่มาซัดตรงเสาสอง ทว่ามี เลโดนาร์โด้ สปินาซโซล่า ใช้หัวเข่าดักบอลก่อนจะเข้าประตู นาทีที่ 61

     แปดนาทีถัดมา โรแบร์โต้ อินซินเย่ วางเท้าปั่นบอลริมสนามทางซ้าย บอลทิสทางมุดลงหากรอบประตู แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารเบลเยี่ยมไม่หลับล้มตัวปัดป้องออกมาได้

     เบลเยียมส่อไร้ดวงนาทีที่ 70 ดรีส เมอร์เท่นส์ จ่ายบอลป้ายเข้าเขตโทษทางซ้ายให้ นาเซอร์ ชาดลี่ หลุดไปตวัดกึ่งยิงบอลแฉลบเท้าผู้เล่นอิตาลี กระดอนผ่านหัว โรเมลู ลูกากู ที่พยายามเทคตัวโหม่ง แถม ธอร์กาน อาซาร์ วิ่งถล่ำมาซ้ำด้านเสาสองไม่โดนอีกคน

     เกมหยุดลงช่วงขณะนาทีที่ 79 เลโดนาร์โด้ สปินาซโซล่า เกิดอาการบาดเจ็บหนัก จนต้องหามลงเปลสนาม ก่อนเป็น เอเมอร์สัน ลงมาแทนที่เจ้าตัว

     ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 เฌเรมี โดกู เกือบทำสกอรืสำคัย หลังเจ้าตัวเลี้ยงบอลโยกหลบแข้งอิตาลีถึงสามคน ก่อนซัดแต่บอลสูงลอยข้ามคานออกไปแบบน่าเสียดาย ก่อนจบเกม อิตาลี ชนะ เบลเยียม 2-1 ตบเท้าเข้าสู่รอบตัดเชือกปะทะกับ สเปนในวันอังคารที่ 6 กรกฎาคมต่อไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เบลเยียม (3-4-2-1): ติโบต์ กูร์กตัวส์,โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์,โธมัส แฟร์มาเลน,ยาน แฟร์ต็องเกน,โธมัส เมอนิเย่ร์ (นาเซอร์ ชาดลี่ น.69-เดนนิส ปราต น.74),อั๊กเซล วิตเซล,ยูริ ตีเลอมันส์ (ดรีส เมอร์เท่นส์ น.69),ธอร์กาน อาซาร์,เควิน เดอ บรอยน์,เฌเรมี โดกู,โรเมลู ลูกากู    

อิตาลี (4-3-3): จานลุยจิ ดอนนารุมม่า,โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่,เลโดนาร์โด้ โบนุชชี่,จอร์โจ้ คิเอลลินี่,เลโดนาร์โด้ สปินาซโซล่า (เอเมอร์สัน น.79),นิโกโล่ บาเรลล่า,จอร์จินโญ่,มาร์โก แวร์รัตติ,เฟเดริโก้ เคียซ่า,ชิโร่ อิมโมบิเล่,โรแบร์โต้ อินซินเย่

ผู้ตัดสิน : สลาฟโก วินชิช (สโลวีเนีย)