ลิเวอร์พูล เริ่มต้นเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นของพวกเขาแล้ว โดยเป็นการเล่นแบบมินิเกมครึ่งละ 30 นาทีในแมตช์ระหว่าง แว็คเกอร์ อินน์สบรูค และ สตุ๊ตการ์ท ซึ่งสกอร์จบลง 1-1 ทั้งสองเกม เมื่อวันอังคารที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา
สำหรับ 2 แมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ยังไม่มีนักเตะสตาร์ลงสนามเพราะยังอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกายจากการรับใช้ชาติ ทำให้เขามีโอกาสได้ใช้นักเตะดาวรุ่ง และผู้เล่นสำรอง รวมทั้งแข้งที่หายจากอาการบาดเจ็บ ลงสนาม

 แม้ว่าสกอร์ที่ออกมาอาจจะไม่ถูกใจสาวก "เดอะ ค็อป" ก็ตาม แต่หากมองโดยภาพรวมต้องบอกเลยว่ามีเรื่องในด้านบวกเยอะมาก โดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่งอย่าง เคด กอร์ดอน ที่มีแววจะไปได้สวยในอนาคตเลยทีเดียว

1.เทรนต์สวมบทกัปตันหลังหายเจ็บ

 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดวงแตกสุดๆ ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจนทำให้เขาพลาดติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกยูโร 2020 อย่างไรก็ตามตอนนี้นักเตะฟิตสมบูรณ์แล้ว และ คล็อปป์ ตัดสินใจส่งเขาลงสนามพร้อมมอบปลอกแขนผู้นำด้วย

 นับตั้งแต่ที่ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม อำลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ คล็อปป์ ยังไม่ได้แต่งตั้งใครเป็นกัปตันทีม เนื่องจากดาวเตะชาวดัตช์เป็นหนึ่งในสี่ผู้นำ "หงส์แดง" เคียงข้าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ เจมส์ มิลเนอร์

 จริงๆ แล้ว ลิเวอร์พูล มีตัวเลือกหลายที่จะสวมปลอกแขนกัปตันทีมอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งทั้งสองคนเป็นกัปตันทีมชาติของพวกเขา แต่ในเกมอุ่นเครื่องครั้งนี้ คล็อปป์ ตัดสินใจให้ "เจ้าหนูเทรนต์" ได้รับประสบการณ์ผู้นำในสนาม

  สำหรับผลงานในการเป็นผู้นำของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับการอุ่นเครื่องเสมอ แว็คเกอร์ อินน์สบรูค 1-1 ตลอด 30 นาทีถือว่าน่าพอใจ ขณะที่ฟอร์มการเล่นของเขาต้องบอกเลยว่าน่าประทับใจมากๆ โดยเฉพาะเรื่องเกมบุกที่ยังคงโดดเด่นเหมือนเดิม

2.แนวรุกวูบวาบเฉียบคม

 ปกติแล้วเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นนักเตะส่วนใหญ่มักจะขาดความเฉียบคมเนื่องจากนักเตะร้างสนามไปหลายเดือน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการลงสนามเพื่อเคาะสนิมออกจากหน้าแข้งให้มากที่สุด

 แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่นักเตะทุกคนจะต้องใช้เวลาสักพักในการฟื้นฟูสภาพความฟิตเพื่อให้กับมาอยู่ในระดับปกติของพวกเขา อย่างไรก็ตามสำหรับผู้เล่นแนวรุกของ "หงส์แดง" ต้องบอกเลยว่าแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ

 ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความเฉียบคม โดยทั้งสองคนมีโอกาสได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันในช่วงพักผ่อนเนื่องจากทั้ง เซเนกัล และ อียิปต์ ไม่มีโปรแกรมทีมชาติในช่วงที่ผ่านมา

 ทั้งสองคนเล่นร่วมกันได้อย่างมีชีวิตชีวาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่พวกเขาเห็นบอลทั้งคู่พร้อมที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อที่จะแย่งบอลกลับมาจากคู่แข่งให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่านี่คือสิ่งที่สาวก "เดอะ ค็อป" อยากเห็นมาตลอด

  สำหรับ "เดอะ เร้ดส์" ชุดเสมอ "ม้าขาว" เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท 1-1 คล็อปป์ ตัดสินใจลองใช้ มาเน่, ซาลาห์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงทำหน้าที่เป็นสามประสาน แม้อาจจะไม่ได้ดูวูบวาบแต่ก็ทำให้เกมบุกของทีมน่าสนใจพอสมควร

3.โกนาเต้ เปิดตัวให้ลิเวอร์พูล

 ลิเวอร์พูล คว้าตัว อิบราฮิม่า โกนาเต้ มาร่วมทัพแบบเยี่ยมๆ ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยพวกเขายอมควักกระเป๋าจำนวน 36 ล้านปอนด์ (ราว 1,584 ล้านบาท) ให้กับ แอลเบ ไลป์ซิก เพื่อได้ตัวแนวรับทีมชาติฝรั่งเศส ยู-21 มาเสริมแกร่ง

 แน่นอนว่า โกนาเต้ ได้รับการคาดหวังสูงมากจากสาวก "เดอะ ค็อป" ว่าจะมาช่วยทำให้เกมรับของ ลิเวอร์พูล แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และอาจมีความเป็นไปได้ที่นักเตะจะลงเล่นตัวจริงเคียงบ่าเคียงไหล่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หาก ดาวเตะชาวดัตช์ ฟิตสมบูรณ์

 ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ มีโอกาสได้ลงเล่น 30 นาทีในเกมที่เสมอ สตุ๊ตการ์ท โดยยืนคุมเกมรับร่วมกับ รีส วิลเลี่ยมส์ ดาวรุ่งพุ่งแรงของ "หงส์แดง" อย่างไรก็ตามทั้งสองคนไม่สามารถช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตได้

 แม้ว่าแมตช์นี้ โกนาเต้ ยังไม่ได้เล่นโดดเด่นมากนักแต่กระนั้นฟอร์มของเขาก็ดูดีมีอนาคตกับสโมสร ฉะนั้นไม่มีอะไรต้องสงสัยว่าเขาจะสร้างประโยชน์ให้กับ ลิเวอร์พูล แน่นอน เพราะนักเตะมีพัฒนาการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังชั้นยอดให้กับ "หงส์แดง"

4.เจ้าหนูวัย 16 เฉิดฉาย

 สำหรับเกมอุ่นเครื่องกับสโมสรแว็คเกอร์ อินน์สบรูค งานนี้ คล็อปป์ ตัดสินใจลองของเด็ดด้วยการให้โอกาสกับ เคด กอร์ดอน เจ้าหนูวันเดอร์คิดที่กระชากตัวมาจากสโมสร "แกะเขาเหล็ก" ดาร์บี้ เคาน์ตี้

 ผลงานของเจ้าหนูวัย 16 ปี ซึ่งมีค่าตัวสูงถึง 1 ล้านปอนด์ (ราว 44 ล้านบาท) ต้องย้ายมาจาก ดาร์บี้ บอกเลยว่าโดดเด่นเป็นสง่ามากๆ และยังได้รับตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมอุ่นเครื่องนัดแรกของ "เดอะ เร้ดส์"

 แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ กอร์ดอน จะยังคงต้องพัฒนาฝีเท้ากับทีมเยาวชนของสโมสรต่อไป หรืออาจจะถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับสโมสรอื่นเพื่อเก็บเลเวลอีกสัก 2-3 ปี แต่กระนั้นฟอร์มที่โดดเด่น และการเล่นที่กล้าได้กล้าเสียอาจจะทำให้ คล็อปป์ จุดประกายแนวคิดบางอย่างสำหรับเด็กคนนี้

 คงจะไม่ได้กล่าวเกินจริงหากจะบอกว่าสไตล์การเล่นของ กอร์ดอน มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ แจ็ค กรีลิช โดยเฉพาะลีลาการกระชากลากเลื้อย และความรวดเร็วรวมทั้งเต็มไปด้วยความคล่องแคล่วในการเล่น ซึ่งอาจจะทำให้เขาต้องเผชิญกับอันตรายจากบรรดาคู่แข่งที่ต้องการหยุดเขาก็ได้
 
5.รอทีมชุดใหญ่กลับมาร่วมทัพ

 แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่มีสตาร์ประจำทีมชุดใหญ่สำหรับการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องเนื่องจากผู้เล่นเหล่านั้นได้รับอนุญาตให้พักผ่อนร่างกายเนื่องจากไปรับใช้ชาติทั้งในศึกยูโร 2020 และโกปา อเมริกา

 สามสตาร์หลักทีมชาติบราซิล ได้แก่ อลีสซง เบ็คเกอร์, ฟาบินโญ่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยังไม่มีโอกาสได้ร่วมฝึกซ้อมปรีซีซั่น เช่นเดียวกับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ดีโอโก้ โชต้า และ เซอร์ดาน ชากีรี่

 นอกจากนี้ โจ โกเมซ กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รวมทั้ง เคอร์ติส โจนส์ และ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ก็ไม่ได้ลงสนามในเกมอุ่นเครื่อง 2 แมตช์แรกของทีม ซึ่งแน่นอนว่าหากทีมได้ผู้เล่นเหล่านี้กลับคืนสนาม คงจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลายเท่า

 สำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" พวกเขาคงนับวันรอที่จะเห็นบรรดาสตาร์ประจำสโมสรฟิตสมบูรณ์ และลงสนามกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่เหลืออยู่ เพื่อที่ทีมจะพร้อมสำหรับทำศึกใหญ่ในฤดูกาลใหม่