ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 5 สเต็ปสำคัญ..ที่ โซลชา ต้องรีบทำหลังต่อสัญญาใหม่แมนยู

5 สเต็ปสำคัญ..ที่ โซลชา ต้องรีบทำหลังต่อสัญญาใหม่แมนยู

Posted 25/07/2021 by siamsport

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจขยายสัญญาฉบับใหม่กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย "น้าลูกอม" จะได้อยู่ทำหน้าที่ปลุกปั้นสโมสรไปจนถึงปี 2024 โดยงานนี้ "ผีแดง" เชื่อมั่นว่านี่คือการวางแผนระยะยาวในการสร้างรากฐานของทีมให้แข็งแกร่ง
    
กุนซือวัย 48 ปี ซึ่งเข้ามารับงานในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2018 สลัดน้ำหมึกเซ็นสัญญาใหม่พร้อมรับทรัพย์เพิ่งขึ้น 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,100 ล้านบาท) สำหรับการทำงานอีก 3 ปีข้างหน้า

การทำแบบนี้แสดงให้เห็นว่าบอร์ดบริหารสโมสรเชื่อว่า โซลชา คือคนที่เหมาะสมที่จะนำ แมนฯ ยูฯ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แม้ช่วงที่ผ่านมาทีมจะไร้เกียรติยศจากการกุมบังเหียนของเขาก็ตาม

เพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจ งานนี้ โซลชา จำเป็นต้องรีบวางแผนงานเพื่อใช้ในการสร้างทีมสู่ความสำเร็จ โดย 5 สิ่งที่เขาต้องรีบทำเป็นการด่วนเพื่อที่จะนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาผงาดเป็นจ้าวลูกหนังเมืองผู้ดีอีกครั้ง

1. เซ็นสัญญากับ วาราน ให้ได้
ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จัดการคว้าตัว เจดอน ซานโช่ มาร่วมทีมได้สำเร็จแล้ว อย่างไรก็ตามทีมยังจำเป็นต้องเดินหน้าในการเสริมเกมรับให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยเฉพาะตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กซึ่ง ราฟาแอล วาราน คือคำตอบที่ทีมต้องการ

ปราการหลังวัย 28 ปีแสดงความต้องการอำลา เรอัล มาดริด เพื่อจะได้ย้ายมาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่การเจรจาของทั้งสองสโมสรยังคาราคาซัง เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องค่าตัวของดาวเตะเลือดเฟร้นช์ได้

เซนเตอร์แบ็กทีมชาติฝรั่งเศส เป็นผู้เล่นที่เต็มไปด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง ซึ่งผลงานของเขาที่ทำเอาไว้กับ "ราชันชุดขาว" และทัพ "ตราไก่" เป็นเครื่องการันตีความสุดยอดของเขาได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นแฟนบอล "ผีแดง" ยังมองว่าเขาเป็นจิ๊กซอว์ที่มีความสำคัญมากพอๆ กับ ซานโช่ ซึ่งต้องดึงมาร่วมทีมให้ได้

ลองพิจารณาในกรณีที่ ลิเวอร์พูล มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ตัว รูเบน ดิอาส จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการมีเซนเตอร์แบ็กระดับโลกจะช่วยเปลี่ยนแปลงเกมรับของทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลายเท่า

แน่นอนว่าถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตัว วาราน มายืนคุมเกมรับร่วมกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ บางทีการที่จะพูดเรื่องโอกาสในการคว้าแชมป์ลีกของ "เร้ด เดวิลส์" อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้้นก็ได้
 
2.  ตัดสินใจเรื่องแผงมิดฟิลด์
พื้นที่แดนกลางเป็นหนึ่งในจุดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพยายามหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุด เพราะในช่วงที่ผ่านมาแผงมิดฟิลด์ของพวกเขาค่อนข้างจะทำผลงานแบบผีเข้าผีออก ขาดความคงเส้นคงวาอย่างมาก

ในเวลาอนาคตของ ปอล ป็อกบา ยังไม่มีความชัดเจนและอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อที่จะเคลียร์เรื่องสัญญาว่านักเตะจะเอายังไง ทำให้ตอนนี้ โซลชา ยังไม่สามารถชี้เป้าผู้เล่นแดนกลาง 2 คนแรกที่จะลงทำหน้าที่ในระบบ 4-2-3-1 ของเขา

เฟร็ด, เนมานย่า มาติช และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ คือนักเตะที่ "น้าลูกอม" พอจะฝากความหวังเอาไว้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรักษามาตรฐานการเล่นได้ทุกนัด ส่วน ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ก็ยังไม่น่าจะใช้คำตอบเพราะซีซั่นที่ผ่านมานักเตะล้มเหลวไม่เป็นท่ากับ "ผีแดง" นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม

ดังนั้นนี่คือประเด็นที่ อดีตกองหน้าซูเปอร์ซับ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องครุ่นคิดอย่างหนัก เพราะทรัพยากรที่มีอยู่ยังไม่แข็งแกร่ง ส่วนจะซื้อนักเตะคนใหม่มาเสริมทัพ ก็ต้องเลือกให้ดีๆ ไม่งั้นอาจจะซ้ำรอย ฟาน เดอ เบ็ค ก็ได้

3. เคลียร์อนาคตของ ป็อกบา ให้ชัดเจน
อีกเรื่องที่ต้องรีบลงมือแก้ไขให้เสร็จสิ้นให้เร็วที่สุดนั่นก็คืออนาคตของ ปอล ป็อกบา ซึ่งแน่นอนว่า โซลชา ต้องการที่จะเก็บเขาเอาไว้เพื่ออยู่ช่วยสร้างทีม แต่ใจของนักเตะดูเหมือนจะโบกบินไปที่อื่นซะแล้ว

หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ ฝรั่งเศส ในศึกยูโร 2020 ป็อกบา มีข่าวลือออกมาเป็นระลอกว่าต้องการที่จะอำลาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยจุดหมายปลายทางมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

ด้วยสถานการณ์สัญญาปัจจุบันของนักเตะจะหมดลงหลงจบฤดูกาลหน้า ทำให้นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะถอนทุนจากตัวนักเตะหลายทุ่มเงินไปถึง 89 ล้านปอนด์ (ราว 3,916 ล้านบาท) ให้ ยูเวนตุส เมื่อปี 2016 เพราะขืนชักช้าไม่ทันการณ์ทีมอาจจะเสีย ป็อกบา แบบไม่ได้เงินแม้แต่เพนนีเดียว

กระนั้นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือได้เวลาที่สโมสรจำเป็นต้องยุติข่าวลือที่แสนน่าเบื่อเหล่านี้ให้ได้ และจัดการเคลียร์ทุกอย่างกับ ป็อกบา ว่าต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง เพราะหากยังยือเยื้อแบบนี้ต่อไป มีแต่ส่งผลเสียกับสโมสร
 
4. ผสมผสาน ซานโช่ ให้เข้ากับทีม
เป็นเรื่องธรรมดาที่ตอนนี้ ซานโช่ จะได้รับการคาดหวังจากแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่เขาตัดสินใจย้ายมาเล่นกับสโมสร ซึ่งทีมต้องจ่ายเงินค่าเสียหายให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปถึง 72.9 ล้านปอนด์ (ราว 3,207 ล้านบาท)

ปีกวัย 21 ปีคงไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวในการเล่นเนื่องจากเขามีความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด รวมไปถึง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ลุค ชอว์ เพราะเล่นทีมชาติด้วยกัน แถมยังครุ่นเคยกับการใช้ชีวิตในเมืองแมนเชสเตอร์อยู่แล้ว (เด็กปั้นแมนเชสเตอร์ ซิตี้)

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ โซลชา ต้องทำก็คือเขาต้องทำให้แน่ใจว่า ซานโช่ จะไม่เหมือนกับ ฟาน เดอ เบ็ค และต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำให้ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ดึงศักยภาพชันยอดออกมาได้อย่างเต็มที่เมื่อลงสนาม

มันคงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ที่จะได้เห็นว่าเขาสามารถผสมผสานการเล่นได้เข้ากับทีมมากแค่ไหน และจะได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงทันทีหรือไม่ หรือเขาจะต้องเริ่มต้นด้วยการนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองไปก่อน

ในเวลานี้ ซานโช่ อยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกายหลังกรำศึกหนักในเกมยูโร 2020 แต่คาดว่านักเตะน่าจะฟิตพอที่จะลงสนามเปิดตัวในเกมอุ่นเครื่องพบ เอฟเวอร์ตัน วันที่ 7 สิงหาคมนี้ หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ทีมจะลงเล่นเกมแรกในศึกพรีเมียร์ลีก พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด
 
5. แก้ปัญหาเจ็บเรื้อรังของ แรชฟอร์ด
มาร์คัส แรชฟอร์ด ยังคงพิจารณาว่าจะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดอาการบาดเจ็บหัวไหล่ที่เรื้อรังมานานหรือไม่ ก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดฉากฤดูกาลใหม่ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้

ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ต้องเจออาการบาดเจ็บรบกวนอย่างหนักในช่วงที่ช่วย อังกฤษ ทำศึกยูโร 2020 และมีความคิดว่าจะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดซึ่งหากทำแบบนั้นจะทำให้เขาพลาดช่วยต้นสังกัดนานถึง 12 สัปดาห์เลยทีเดียว

แน่นอนว่านี่คือปัญหาใหญ่ที่ โซลชา ต้องคิดให้ถ้วนถี่และจำเป็นต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากเขายอมรับว่าพยายามที่จะหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับนักเตะ โดยที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุดกับตัว แรชฟอร์ด และสโมสร

อย่าลืมว่าเวลานี้แนวรุกของ "ผีแดง" ที่ไว้วางใจได้ที่สุดก็คือ เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งอายุเยอะแล้ว ส่วน เมสัน กรีนวู้ด ยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปอีกซักพัก ส่วน อองโตนี่ มาร์กซิยาล ฟอร์มขึ้นอยู่ฟ้าฝน เอ๊ย เอาแน่เอานอนไม่ได้

มันชัดเจนว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องนำมาพิจารณาในเรื่องนี้ แต่กระนั้นไม่ช้าก็เร็วยังไง แรชฟอร์ด ก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่ดี ฉะนั้นหากรีบดำเนินการให้เสร็จ นักเตะจะได้มีเวลากลับมาเรียกความฟิตได้เร็วยิ่งขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »