การชิงชัยระยะ100เมตร. เป็นเหมือนพระเอกในทุกทัวนาเม้นท์กรีฑา ที่ทุกสายตาต้องจับจ้อง อัดกันสั้นๆง่ายๆกระพริบตาไม่ได้ซักเสี้ยววินาที ในค่ำคืนที่ผ่านมา ลมกรดสาวจาเมกา รวบธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาโตเกียวเกมส์ กวาดเรียบ3เหรียญ พร้อม ทุบสถิติโอลิมปิกลงในเสี้ยววินาทีโดย "เอเลน ธอมป์สัน-เฮราห์" ยึดครองน่านฟ้าลมกรดสาวอย่างเบ็ดเสร็จ
    คืนนี้ 19.50น. เป็นศึกของฝั่งชายกันบ้าง แน่นอนว่าสงครามในลู่ไม่มี เจ้าชายสายฟ้า "ยูเซน โบลต์" แล้วแต่กระแส 100 เมตรชาย ยังคงโดนจับตาต่อไป เพราะสิ่งที่โบลต์ทำไว้ คือ "เวลา" ที่เจ้าตัวกดสถิติโลกไว้ที่9.58วิ!!! และถึงตอนนี้ยังเป็นคนเดียวในโลกที่วิ่งในย่านความเร็วต่ำกว่า9.6วิ.ได้.. ส่วนสถิติโอลิมปิกก็กดไว้ที่ 9.63 วิ ซึ่งดูจะเป็นตัวเลขที่ลมกรดยุคหลัง พอจะทำลายได้บ้าง..แต่ก็ไม่ง่าย และอาจจะไม่ใช่ในเร็วๆนี้ !!!

    ขอย้อนอดีตซักหน่อย ได้ชมเกมสนุก!! ในยุคที่มนุษย์วิ่งได้ต่ำกว่า10วิคนแรก.ของโลก มีนามว่า "จิม ไฮน์ส" ตำนานลมกรดชายมะกัน กดเวลาตะลึงโลกที่ 9.95วิ.และคงอยู่มา15ปี จน "เคลวิน สมิธ" มาทำลายได้ที่9.93วิ.  หลังจากนั้นก็เป็น”ลมกรดสหรัฐ”ที่ทยอยก้าวขึ้นมาสร้างชื่อ พร้อมทุบสถิติโลกเป็นว่าเล่น จนกระทั่ง มีนักวิ่งจาเมกาคนแรกที่เขย่าบัลลังก์นี้ คือ "อซาฟา พาวเวลล์"

   โดย "พาวเวลล์" กดเวลาไว้ 9.735วิ ในปี2007 แถมความแสบอยู่ที่ ให้เวลา "จัสติน แกตลิน" เจ้าของเดิมจากสหรัฐฯ ครองสถิติไว้แค่1เดือนเท่านั้น…พ่อหนุ่มจาเมกาก็ทุบทิ้งแบบไม่ไว้หน้าซะแล้ว
 
    จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่ยุคมืดของ ลมกรดชายสหรัฐ อย่างแท้จริง… จนสุดท้าย บัลลังก์โดนยึดครองเบ็ดเสร็จ เมื่อโลกส่ง "เทพเจ้าสายฟ้า" ลงมาจุติ กว่าทศวรรษ ที่ "โบล์ต" ครองตำแหน่งเจ้าลมกรดโลก พร้อมชื่อเสียงสุดโด่งดัง ขนาดป้าข้างบ้านที่ไม่ค่อยดูกีฬา ได้ยินชื่อ ยังถามว่า ใช่คนที่วิ่งเร็วๆใช่ไม๊!!!

    8 ทองโอลิมปิก 11 ทองชิงแชมป์โลก และรางวัลอื่นๆ จนตู้ที่บ้านไม่พอเก็บ มาวันนี้ โตเกียว2020 "โบล์ต" ออกมาพูดถึงทีมลมกรดชายบ้านเกิดตัวเองว่า "อาจจะหมดยุคของจาเมกาใน100เมตรชาย" …ทำไมถึงพูดเช่นนั้น?

    เพราะถ้ามองตามความจริง มือหนึ่ง1จาเมกาตอนนี้อย่าง "โยฮัน เบลค" ยังรีดฟอร์มตัวเองเหมือนสมัยพีคๆที่วิ่ง 9.69 วิ.ไม่ได้ โดยเวลาดีสุดปีนี้ "เบลค" ทำได้ที่ 9.95 วิ.เท่านั้น กลายเป็นโฟกัสกลับไปจับที่เหล่าลมกรดมะกัน อย่าง เต็งหนึ่ง "เทรย์วอน โบรเมลล์" ชายที่วิ่งเร็วที่สุดของโลกใน "ปีนี้" ด้วยเวลา9.77 วิ. ถือว่าสดที่สุดในรุ่น ณ ปัจจุบัน , มือสองสหรัฐฯ "รอนนี่ เบเกอร์"
ที่โดดเด่นขึ้นมาจากผลงานในไดมอนด์ลีก มีสถิติ 9.85 วิ.  และ "เฟรด เคอร์ลี่ย์" ที่มีพัฒนาการโดดเด่นพกสถิติ 9.86 วิ. มาโตเกียว ถือเป็นดาวรุ่งอีกคนของทัพมะกัน..

    นอกจากนั้น ยังมีลมกรดชาติอื่นๆที่พร้อมร่วมวงกระชากเหรียญด้วย ถือเป็นตัวอันตรายสุดๆ อย่าง "อาคานี ซิมบิเน่" จากแอฟริกาใต้ ชายที่เร็วสุดเบอร์สองของ "ปีนี้" ด้วยสถิติทวีปแอฟริกา ที่ 9.84วิ !!! "อ็องเดร เดอ กราสส์" ลมกรดแคนาเดี้ยนสถิติ 9.90 วิ. ที่แม้ปีนี้จะวิ่งไม่เข้าเป้านัก แต่ถ้าผีผลักขึ้นมา ก็ทะลุถึงเหรียญได้เช่นกัน เหมือนตอนคว้าทองแดงริโอ2016..

      จากตัวเต็งทั้งหมด "โยฮัน เบลค" ความหวังที่จะสานต่อความสำเร็จของ "โบล์ต" มีอายุมากที่สุด คือ 31ปี !! แม้สถิติส่วนตัวจะข่มคนอื่น แต่ถ้าไม่เข้าฝักจริงๆ มีสิทธิ์โดน ลมกรดชาติอื่น โดยเฉพาะมะกัน สอยร่วงได้ง่ายๆ

      เป็นที่น่าจับตายิ่งนักกับศึกในครั้งนี้ … สิ่งที่ "โบล์ต" ว่าไว้ จะเป็นจริงหรือไม่