ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » โรนัลโด้คึกคักสุดขีด, แบ็กโฟร์จุดอ่อนสำคัญ! 5 ประเด็นก่อนแมนยูดวลเอฟเวอร์ตัน

โรนัลโด้คึกคักสุดขีด, แบ็กโฟร์จุดอ่อนสำคัญ! 5 ประเด็นก่อนแมนยูดวลเอฟเวอร์ตัน

Posted 02/10/2021 by siamsport

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เตรียมนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมากู้วิกฤติศรัทธาแฟนบอลอีกแมตช์ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ เอฟเวอร์ตัน เกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคมนี้ หลังพวกเขาเพิ่งสร้างปาฎิหาริย์เฉือน บียาร์เรอัล เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
     แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงคึกคักหลังคว้าชัยชนะเหนือ "เรือดำน้ำสีเหลือง" คู่อริเก่าที่ทำให้พวกเขาชวดแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยในเกมรับมือ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ทีมอาจจะมีปัญหาเรื่องเกมรับเพราะ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังไม่หายเจ็บ ส่วน ลุค ชอว์ ต้องลุ้นหนักว่าจะฟิตลงสนามได้หรือไม่

     ขณะที่แดนหน้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงเป็นพี่ใหญ่ของทีมในการไล่ล่ากระซวกแนวรับผู้มาเยือน แถมตอนนี้ "ซีอาร์ 7" อยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด หากกองหลังเอฟเวอร์ตันประมาทโอกาสโดนยิงมีสูงมาก


1. แผงแบ็กโฟร์ที่อาจเป็นบ่อน้ำมัน
     โซลชา ยังคงต้องคิดหนักเรื่องแผงแบ็กโฟร์ แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ แอรอน วาน-บิสซาก้า หวนกลับมาช่วยคุมแบ็กขวา หลังพลาดลงสนามเกมกับ บียาร์เรอัล เพราะติดโทษแบน แต่แบ็กซ้ายกับ เซนเตอร์ฮาล์ฟยังน่าเป็นห่วง

     ลุค ชอว์ ตัวหลักทางฝั่งซ้ายยังต้องลุ้นว่าจะฟิตพอที่จะลงสนามได้หรือไม่ ซึ่งนี่คือปัญหาที่ "น้าลูกอม" เป็นกังวลมากๆ เนื่อง อเล็กซ์ เตลลิส ยังทำผลงานไม่ค่อยดีนักในเกมล่าสุดที่ชนะ "เรือดำน้ำสีเหลือง" แม้ว่าเขาจะเป็นยิงประตูตีเสมอสุดสวยก็ตาม แต่ภาพรวมแล้วทางฝั่งซ้ายของ "ผีแดง" โดน บียาร์เรอัล เล่นงานอย่างหนัก

 

     ขณะที่แบ็กขวาพวกเขาคงสบายใจมากยิ่งขึ้นเนื่องจากได้ วาน-บิสซาก้า กลับมาประจำตำแหน่งเพราะหาก แมนฯยูฯ ใช้งาน ดีโอโก้ ดาโลต์ สถานการณ์ก็คงเหมือนกับเกมเมื่อกลางสัปดาห์ที่โดนเล่นงานจนทีมเป๋ไปเป๋มา

     ในส่วนของเซนเตอร์ฮาล์ฟแน่นอนว่า โซลชา ไม่สิทธิ์ใช้งาน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บ และงานนี้ กุนซือชาวนอร์เวย์ คงจะเลือกใช้งาน ราฟาแอล วาราน คู่กับ  วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เหมือนในเกมถ้วยใบโตยุโรป ส่วน เอริก ไบยี่ ต้องรอโอกาสของเขาต่อไป

 

2. แนวรุกตื่นเต้น แรชฟอร์ด กลับมาซ้อมได้แล้ว
     แม้ว่าตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีแนวรุกโหดจัดสุดๆ เพราะมีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เมสัน กรีนวู้ด, เอดินสัน คาวานี่ และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล แต่บางแมตช์พวกเขากลับเล่นไม่ออก

     อย่างไรก็ตามตอนนี้ โซลชา คงยิ้มแก้มแทบระเบิดเมื่อได้เห็น มาร์คัส แรชฟอร์ด หายเจ็บกลับมาลงฝึกซ้อมร่วมกับทีมอย่างเต็มที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่นักเตะหายไปพักฟื้นร่างกายนานเป็นเดือนจากการผ่าตัดหัวไหล่

     ส่วนโอกาสที่นักเตะจะกลับมาลงสนามในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน น่าจะยังเป็นไปไม่ได้เพราะ โซลชา ยังไม่อยากเสี่ยงที่จะใช้งานเขา แต่คาดว่าร่างกายของนักเตะคงจะฟิตสมบูรณ์เต็มร้อยหลังช่วงพักเบรกทีมชาติ

     กระนั้นการได้เห็น แรชฟอร์ด สามารถซ้อมได้อย่างเต็มที่ น่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้กับบรรดาผู้เล่นแนวรุกคนอื่นๆ อย่าง กรีนวู้ด, คาวานี่ และ มาร์กซิยาล ที่จะต้องรีดฟอร์มเก่งออกมาเพื่อทำให้ "น้าลูกอม" ประทับใจ เพราะหากทำไม่ได้โอกาสที่พวกเขาจะต้องนั่งสำรองหลัง "หนูแรช" คืนสนามมีความเป็นไปได้สูง

 

3. อนาคตฟาน เดอ เบ็ค ยังคงมืดมนต่อไป
     สถานการณ์ของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค คงจะบ่งบอกอะไรได้หลายๆ อย่างเกี่ยวกับอนาคตของเขา หลังจากที่เจ้าตัวแสดงอาการหงุดหงิดที่ไม่ได้ลงสนามในเกมถ้วยใบโตยุโรปช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

     หลายคนค่อนข้างจะเข้าใจและเห็นใจที่ กองกลางดาวรุ่งชาวดัตช์ ระเบิดอารมณ์ฉุนเฉียวที่โดน โซลชา หมางเมินที่จะให้โอกาสเขาลงสนามในเกมล่าสุด และการแสดงพฤติกรรมดังกล่าวคงเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายของเขา

     แม้ โซลชา เพิ่งจะออกมาบอกว่าเข้าใจความรู้สึกของ ฟาน เดอ เบ็ค แต่การที่เขาแสดงออกในเชิงลบแบบนั้น คงทำให้โอกาสในการลงสนามของเจ้าตัวยิ่งเลือนลางเข้าไปอีก และแน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบในด้านจิตใจของนักเตะ จนนำไปสู่ความรู้สึกไม่อยากอยู่กับทีมอีกต่อไป

     จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตอนนี้เริ่มมีกระแสข่าวออกมาเป็นระลอกว่า ฟาน เดอ เบ็ค เตรียมเก็บเสื้อผ้าออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมปีหน้า เพราะหากขืนอยู่ต่อไป มันจะส่งผลกระทบต่ออนาคตกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ด้วย

     ล่าสุดมีรายงานว่า ฟาน เดอ เบ็ค หลุดโผ 24 ขุนพลแข้งกังหันลมแมตช์ปะทะ ลัตเวีย และ ยิบรอลตาร์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ซึ่งหากก้นของเขายังติดหนึบในซุ้มม้านั่งสำรอง "ผีแดง" งานนี้โอกาสได้ไปลุยเวิลด์ คัพ ฉบับตะวันออกกลาง คงมืดมนเต็มที

 

4. เอฟเวอร์ตัน ฟอร์มกำลังแกร่ง
 ผลงานของ เอฟเวอร์ตัน ในยุคราฟาเอล เบนิเตซ โดดเด่นไม่ได้แตกต่างไปจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยด้วยซ้ำ สถิติการลงเล่น 6 แมตช์ของพวกเขาชนะ 4 แพ้ 1 เสมอ 1 เหมือนกับ "ปีศาจแดง" และยังมี 13 คะแนนเท่ากันซะด้วย

     แม้ว่าในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นทีมของกุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะโชว์ฟอร์มไล่ต้อน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มาก็ตาม แต่ในแมตช์การแข่งขันจริง ราฟา คงไม่มีทางปล่อยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ไล่ยำพวกเขาแน่นอน

     ยิ่งในเวลานี้นักเตะของเอฟเวอร์ตันสามารถเล่นได้ตามแท็กติกที่ กุนซือชาวสแปนิช ได้วางเอาไว้ ยิ่งทำให้พวกเขามีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากังวลของทีมเยือนก็คือ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน คงจะยังลงสนามไม่ได้ แม้จะกลับมาซ้อมแล้วก็ตาม แต่คาดว่านักเตะน่าจะฟิตสมบูรณ์หลังเกมพักเบรกทีมชาติ

     ส่วนหัวหอกตัวความหวังอย่าง ริชาร์ลิซอน ที่ไม่ได้ช่วยทีมในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บหัวเข่า อาจจะต้องลุ้นโค้งสุดท้ายในช่วงทดสอบความฟิตว่าสามารถลงสนามได้หรือไม่ ขณะที่ อันเดร โกเมส ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้ลงไหม เพราะล่าสุดก็ไม่ได้ร่วมฝึกซ้อมกับทีม

     เอาแบบพูดกันตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อมหากจะวัดเรื่องกึ๋น การวางแท็กติกและความสำเร็จแน่นอนว่า เบนิเตซ เหนือกว่า โซลชา หลายขุม แต่ด้วยคุณภาพของผู้เล่นทั้งสองทีม งานนี้ กุนซือชาวสแปนิช คงต้องขบคิดเรื่องแผนการเล่นให้รัดกุม เพราะหากจะวัดเรื่องศักยภาพพวกเขาเป็นรอง แมนฯ ยูฯ เยอะมาก

 

5. คำแนะนำโรนัลโด้-จอมยิงนาทีสุดท้าย
     โรนัลโด้ เพิ่งจะสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับเหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" เมื่อสวมบทฮีโร่โคตรเพชฌฆาตยิงประตูชัยนาทีสุดท้ายของการทดเจ็บช่วยทีมเฉือน บียาร์เรอัล ได้อย่างหวุดหวิดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้พวกเขายังอยู่ในเส้นทางการลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก

     จะว่าไปแล้ว "ซีอาร์ 7" ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ยิงประตูช่วยท้ายเกมได้ให้กับสโมสรที่เขาเคยเล่นมากที่สุดในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก และนี่คือเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดีว่าแนวรับคู่แข่งห้ามละสายตาจาก โรนัลโด้ เด็ดขาดจนกว่ากรรมการจะเป่านกหวีดยาวหมดเวลา

     นอกจากนี้ "เฮียโด้" ก็เพิ่งออกมาอ้อนให้บรรดาแฟนผีโปรเจกต์ที่เข้ามาชมเกมในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ส่งเสียงเชียร์ให้ดังกึกก้องสนามเพื่อเป็นการกระตุ้นนักเตะ และยังเป็นการข่มขวัญคู่แข่งด้วย ซึ่งในเกมนี้คาดว่าสาวก "ผีแดง" คงเตรียมกองเสียงมาเต็มที่เพื่อตะโกนเชียร์ตามที่ฮีโร่ของพวกเขาต้องการ

     งานนี้ต้องยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีทีเด็ดอยู่ที่ โรนัลโด้ เพราะถึงเขาจะอายุ 36 ปีแล้ว แต่ด้วยศักยภาพของร่างกาย, ชั้นเชิงลูกหนัก และประสบการณ์ที่โชกโชน คงจะมีประโยชน์ "ปีศาจแดง" ที่จะต้องสู้กับทีมที่มีการวางแท็กติกที่เฉียบคมของ เบนิเตซ ได้เป็นอย่างดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »