ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » นิวคาสเซิ่ล ระวัง! 3 การเทคโอเวอร์สุดฮือฮาที่สุดท้ายจบไม่สวย

นิวคาสเซิ่ล ระวัง! 3 การเทคโอเวอร์สุดฮือฮาที่สุดท้ายจบไม่สวย

Posted 10/10/2021 by siamsport

หลังจากที่พยายามมาอย่างยาวนาน ในที่สุด พับบลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (พีไอเอฟ) กลุ่มทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบียที่มี โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารของประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นหัวเรือใหญ่ ก็ประสบความสำเร็จในการเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เป็นที่เรียบร้อย โดยว่ากันว่ามูลค่าของดีลนี้อยู่ที่ 305 ล้านปอนด์
    เรื่องดังกล่าวถือเป็นข่าวใหญ่ของโลกลูกหนัง เพราะว่ากันว่า พีไอเอฟ มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแล้วถึง 360,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว นั่นหมายความว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะเทงบช็อปก้อนโตให้กับ นิวคาสเซิ่ล ในช่วงหลังจากนี้ จนอาจจะทำให้ "สาลิกาดง" ก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างต่อเนื่องอีก 1 ทีมก็ได้

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวการที่เศรษฐีระดับโลกมาเทคโอเวอร์ฟุตบอลมันไม่ได้มีตอนจบที่แฮปปี้เอ็นดิ้งเหมือนอย่างกรณีของ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เสมอไป และวันนี้เราก็จะมาย้อนตัวอย่างของดีลการเทคโอเวอร์ทีมลูกหนังที่ตอนแรกมีโปรเจ็กต์ชวนฮือฮาสุดขีด แต่สุดท้ายก็จบแบบไม่สวยมานำเสนอกันสักหน่อย

    - อันจิ มาคัชคาล่า
    เมื่อเดือนมกราคม ปี 2011 สุไลมาน เคริมอฟ มหาเศรษฐีชาวรัสเซียกลายเป็นข่าวดังหลังจากทุ่มเงินซื้อ อันจิ เข้ามาเป็นของตัวเอง โดยทันทีที่เข้ามาเป็นเจ้าของทีมแล้วนั้น เขาก็วางแผนที่จะพัฒนาโครงสร้างต่างๆ ของทีม อย่างเช่นการสร้างสนามแห่งใหม่ทันที ซึ่งงบส่วนที่ว่าก็ถูกวางเอาไว้ที่เกิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

    นอกจากจะประเคนเงินก้อนโตกับเรื่องโครงสร้างแล้วนั้น เคริมอฟ ยังเซ็นเช็คก้อนโตไปกับการเสริมทัพด้วย โดยแค่ปีแรกที่เข้ามาอยู่กับทีมเขาก็ทำให้นักเตะอย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส และ ซามูเอล เอโต้ มาเล่นในสีเสื้อของ อันจิ ได้ ขณะที่ในเดือนมีนาคม ปี 2012 มันก็มีรายงานว่า เคริมอฟ อนุมัติงบการเสริมทัพเป็นจำนวนมากกว่า 230 ล้านยูโร ด้วยเป้าหมายว่าทีมต้องได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายใน 3 ฤดูกาล โดยที่ อันจิ ถึงขันได้กุนซือระดับ กุส ฮิดดิ้งค์ มาคุมทีมให้ด้วย

    ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 อันจิ ก็ถึงขั้นได้ วิลเลี่ยน ดาวเตะชาวบราซิเลียนมาจาก ชัคตาร์ ด้วย ทั้งที่ตอนนั้นเขาเป็นที่สนใจของหลายต่อหลายทีม อย่างไรก็ตาม พอถึงเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน มันกลับมีการตัดสินใจลดงบประมาณการทำทีมของ อันจิ เหลือเพียง 50-70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อซีซั่นเท่านั้น ทั้งที่ตอนแรกมีการวางแผนว่าจะมีงบในการทำทีมสูงถึง 180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อฤดูกาล

    นั่นเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของฝันร้ายของ อันจิ เพราะในเวลาต่อมาพวกเขาก็ตัดสินใจขายนักเตะชื่อดังบางคนเพื่อประคองการเงินของสโมสร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ วิลเลี่ยน ที่โดนขายให้ เชลซี เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2013 หรือก็คือไม่กี่เดือนหลังจากที่เจ้าตัวเพิ่งย้ายมาจาก ชัคตาร์ และพอถึงปี 2016 เคริมอฟ ก็ขายทีมให้กับ ออสมาน คาดีเยฟ

    ปัจจุบัน อันจิ หล่นไปเล่นใน รัสเซียน ฟุตบอล เนชันแนล ลีก 2 หรือเทียบเท่ากับลีกระดับ 3 ของประเทศรัสเซีย เรียกได้ว่าหมดสภาพของทีมที่เคยไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูโรปา ลีก ในยุคของ เคริมอฟ กันเลยทีเดียว

    - พอร์ทสมัธ
    อเล็กซานเดร เกย์ดาม๊าก ถือเป็นนักธุรกิจลูกครึ่งฝรั่งเศส-อิสราเอล ทื่ร่ำรวยมากคนหนึ่งจากการที่ตระกูลของเขาเป็นตระกูลที่มีเงินเยอะพอตัว โดยเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ อาร์เคดี้ เกย์ดาม๊าก นักธุรกิจชื่อดัง ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่แฟนบอล พอร์ทสมัธ บางส่วนจะตื่นเต้นในระดับหนึ่งที่เขามาซื้อทีมไปจาก มิลาน มานดาริช เมื่อเดือนมกราคม ปี 2006

    ในยุคของ เกย์ดาม๊าก "ปอมปีย์" ได้นักเตะชื่อคุ้นหูไปร่วมทัพหลายราย อย่างเช่น ปีเตอร์ เคร้าช์, เจอร์เมน เดโฟ, เควิน-พริ๊นซ์ บัวเต็ง, เอ็นวานโก้ คานู, มิลาน บารอส, เกล็น จอห์นสัน ฯลฯ นอกจากนี้ พอร์ทสมัธ ยังเคยไปถึงตำแหน่งแชมป์ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2007-08 ด้วย

    อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เกย์ดาม๊าก มีปัญหาเรื่องการเงินกับสโมสรในช่วงที่ พอร์ทสมัธ ถูกเข้าควบคุมกิจการจนกลายเป็นการทำให้ พอร์ทสมัธ ต้องปวดหัวกับเรื่องนอกสนามพักหนึ่ง แถมตอนที่เขาขายทีมให้ สุไลมาน อัล ฟาฮิม เมื่อปี 2009 นั้น เขายังโดนกล่าวหาว่าที่จริงเคยตกลงขายทีมให้ อาลี อัล-ฟาราจ ก่อนหน้าที่จะทำข้อตกลงกับ อัล ฟาฮิม ด้วย จนทำให้ อัล-ฟาราจ เดินเรื่องฟ้องร้อง

    สำหรับคนที่อาจจะสงสัยว่าตอนนี้อดีตแชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัยเป็นยังไงบ้าง เราก็ขอเฉลยว่าปัจจุบันพวกเขาโลดแล่นอยู่ในระดับ ลีก วัน โดยฤดูกาลที่แล้วพวกเขาได้อันดับ 8 ของลีก

    - มาลาก้า
    รุด ฟาน นิสเตลรอย,อีสโก้, ฆัวกิน ซานเชซ, ซานติ กาซอร์ล่า, ชูลิโอ บาปติสต้า, เฌเรมี่ ตูลาล็อง, นาโช่ มอนเรอัล ฯลฯ คือเหล่านักเตะที่เคยเล่นให้ มาลาก้า ทีมฟุตบอลจากเกาะอันสวยงามของประเทศสเปน ซึ่งดีลเหล่านี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยหากในช่วงหนึ่งพวกเขาไม่มี ชีคห์ อับดุลลาห์ บิน นาสเซอร์ บิน อัลดุลลาห์ อัล อาห์เหม็ด อัล ธานี่ มาเป็นเจ้าของสโมสร

    ย้อนความหลังก่อนว่าก่อนหน้าที่ อัล ธานี่ จะเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมนั้น มาลาก้า มีปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรงจนทำให้ เฟร์นานโด้ ซานซ์ ประธานของทีมในตอนนั้นไปเจรจาขายทีมให้กับมหาเศรษฐีชาวกาตาร์ และหลังจากเจรจากันเพียง 1 สัปดาห์ อัล ธานี่ ก็ได้เป็นประธานของ มาลาก้า ในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2010

    ทั้งนี้ ดีลของ กาซอร์ล่า นับเป็นดีลที่ฮือฮามากที่สุดเพราะเขานับเป็นการซื้อตัวที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ มาลาก้า ด้วยค่าตัว 21 ล้านยูโร โดยทีม "ชาวเกาะ" ในยุคของ อัล ธานี่ เคยได้อันดับ 4 ใน ลา ลีกา เมื่อฤดูกาล 201-12 จนส่งผลให้พวกเขาได้เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นต่อมาด้วย และนั่นก็ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่พวกเขาได้เล่นเกมชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์"

    น่าเศร้าที่เกาะสวาทหาดสวรรค์จบลงอย่างรวดเร็ว มาลาก้า มีปัญหาจ่ายค่าเหนื่ยกับภาษีไม่ตรงตามเวลาจนทำให้โดนตัดสิทธิ์จากการเล่นเกมถ้วยยุโรปในฤดูกาล 2013-14, ต้องขายดาวดังของทีมอย่าง กาซอร์ล่า และ อีสโก้ ในเวลาต่อมา และตกชั้นจาก ลา ลีกา ในฤดูกาล 2017-18

    ตอนนี้ มาลาก้า เล่นอยู่ใน เซกุนด้า ดิวิชั่น หรือลีกอาชีพระดับ 2 ของประเทศสเปน โดยถึงแม้ อัล ธานี่ จะยังดำรงตำแหน่งเจ้าของทีมอยู่ แต่สภาพของสโมสรก็ไม่สู้ดีนัก อย่างเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2020 พวกเขาก็ประกาศว่าต้องโละนักเตะทีมชุดใหญ่ทั้งทีมเพื่อที่จะให้สโมสรยังอยู่รอดปลอดภัยเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »