โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังดวงแข็งโป๊กเมื่อคุมทีมโดน อตาลันต้า บุกมานำก่อนถึงสองเม็ดในครึ่งแรก แต่พลิกสถานการณ์เหลือเชื่อซัดรวดเดียวสามตุงโดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นฮีโร่โขกประตูชัยพา ปีศาจแดง พลิกชนะ 3-2 ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันพุธที่ 20 ต.ค. ขึ้นนำฝูงกลุ่มเอฟ เป็นการเรียกความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมก่อนเฝ้าบ้านรอซดกับ ลิเวอร์พูล ในเกมแดงเดือด พรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    ศึกฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สามของกลุ่มเอฟ วันพุธที่ 20 ต.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีสามแต้มจากสองนัดแรกเปิดบ้านต้อนรับ อตาลันต้า ทีมจ่าฝูงซึ่งเก็บไปแล้วสี่แต้มจากผลงานชนะหนึ่ง เสมอหนึ่ง
 
    เจ้าบ้านกำลังอยู่ในฟอร์มที่กระท่อนกระแท่น เกมล่าสุดในลีกออกไปแพ้ เลสเตอร์ 4-2 ยังใช้งาน อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่บาดเจ็บไม่ได้เช่นเดียวกับ ราฟาแอล วาราน แต่ อาร่อน วาน บิสซาก้า ลงสนามได้หลังได้รับการลดโทษแบน ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางกลับมาใช้บริการ "แม็คเฟร็ด" ทำให้ ปอล ป็อกบา หล่นไปนั่งข้างสนามร่วมกับ เจดอน ซานโช่ ที่เสียตำแหน่งให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด รวมแล้วปรับทัพสามตำแหน่ง

    ด้านทีมเยือนมีปัญหาน่าเป็นห่วงไม่น้อยเนื่องจากห้าตัวหลักของทีมบาดเจ็บลงเล่นไม่ได้ทั้ง โรบิน กูเซ่นส์ , ฮันส์ ฮาเตบัวร์ , เบรัต ฌิมซิตี้ , มัตเตโอ เปสซิน่า และ ราฟาเอล โตลอย ขณะที่ ดูวาน ซาปาต้า ดาวยิงตัวอันตรายที่ได้พัก และลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วงท้ายในเกมลีกนัดบุกไปขยี้ เอ็มโปลี 4-1 ยังนั่งรอที่ข้างสนาม

    เขี่ยบอลได้แค่สามนาที ผีแดง ก็ได้เสียวจากจังหวะที่ แม็คโทมิเนย์ แทงจังหวะเดียวจากแดนกลางให้ แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวไปซัดออกนอกกรอบเฉย แต่เป็นลูกล้ำหน้าอยู่ดี

    พอโดนทัก ทีมเยือนก็บุกสู้เต็มตัว และครองเกมได้น่ากลัว บีบให้ ผีแดง ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับรอเล่นลูกวางยาวสวนกลับแทน

    และในที่สุดนาทีที่ 14 ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า ก็ทะลุขึ้นมารับบอลทำชิ่งทางขวาก่อนปาดบอลมาหน้าประตูให้ มาริโอ ปาซาลิช แหย่ด้วยหัวเกือกเข้าฮอสระยะสามหลาไม่เหลือเป็นสกอร์นำ 1-0 ของ อตาลันต้า หลังมีการเช็ควีเออาร์แล้วว่าไม่ออฟไซด์

    แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามคุมสมาธิตั้งเกมกันใหม่ และน่าจะได้คืนในนาทีที่ 20 เมื่อ โรนัลโด้ กระชากบอลขึ้นทางขวาแล้วตักจากเส้นหลังเข้าเขตโทษโดยที่ เมสัน กรีนวู้ด โหนโขกไม่เต็ม บอลทะลักไปเสาสองให้ เฟร็ด กระทุ้งโดน ฮวน มุสโซ่ ปัดพ้นคาน

    เจ้าบ้านมั่นใจแล้ว และบุกได้อย่างมีลุ้น แต่นาทีที่ 29 มาเสียลูกเตะมุมด้านขวาให้ทีมเยือนจนได้ และเป็น เมรีห์ เดมิรัล ที่โดดโขกเต็มศีรษะจากหกหลาตุงตาข่ายชนิดที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขึ้นประกบไม่ดีพอ ทำให้ทีมจาก เซเรียอา หนีห่างเป็น 2-0

    ถึงตรงนี้ ทีมจากเมืองพิซซ่าเน้นแพ็คเกมในแดนตัวเองอย่างแน่นหนา ปล่อยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าตามใจชอบเพื่อรอเล่นเกมเคาน์เตอร์ แอ็ทแท็ค กระทั่งนาทีที่ 42 ผีแดง ใช้เกมสาดยาวจังหวะเดียวจากแดนตัวเองอีกหนให้ แรชฟอร์ด เจ้าเก่าหลุดเข้าเขตโทษโดยไม่ล้ำหน้า แต่ก่อนได้สับไก เดมิรัล ไล่กวดตามไปสไลด์ได้ทัน

    จากนั้นในนาทีที่ 44 แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสทองไปอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อ เฟร็ด รับบอลจากกราบซ้ายแล้วลากตัดเข้ากลางสลัดหนีตัวประกบได้ แต่ตวัดยิงจาก 15 หลาหลุดกรอบเหลือเชื่อ

 เท่านั้นไม่พอ ในช่วงทดเวลา แรชฟอร์ด ได้ส้มหล่นกองหลัง อตาลันต้า ทำบอลหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาของตัวเองให้ดาวยิงผิวสีได้ซัดเหน่งๆ แต่เจ้าตัวตะบันกระทบคานซะงั้น จบครึ่งแรกทีมเยือนจึงบุกมานำอย่างสบายใจเฉิบ 2-0

    ครึ่งหลัง อตาลันต้า เปลี่ยน มัตเตโอ โลวาโต้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟอิตาเลี่ยนวัย 21 ปีลงเล่นในรายการนี้เป็นเกมแรกแทน เดมิรัล ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่นาทีที่ 47 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบตีไข่แตกได้เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จ่ายบอลให้ โรนัลโด้ ซัดจาก 16 หลาติดหน้าอก มุสโซ่ ที่ขยับออกมาบล็อค

    และแล้วนาทีที่ 53 ผีแดง ก็จุดประกายความหวังได้เมื่อ ปาซาลิช จ่ายบอลจากแดนกลางคืนหลังไม่เนียน ทำให้ แฟร์นันด์ส ตวัดจังหวะเดียวออกทางซ้ายให้ แรชฟอร์ด กระชากหลุดเดี่ยวไปบรรจงยิงปั่นเข้าเสาสองเรียกเสียงเฮลั่นจากแฟนบอลพา แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ตาม 2-1

    ถัดมาอีกสามนาที โลวาโต้ ได้ใบเหลืองเป็นคนแรกเมื่อฉุด โรนัลโด้ ล้มริมเขตโทษด้านขวา ก่อนที่ อตาลันต้า จะปล่อย ดูวาน ซาปาต้า ลงเล่นเป็นตัวสำรองอีกรายแทน หลุยส์ มูเรียล แต่ โรนัลโด้ ซัดฟรีคิกออกเสาไกล
 
    จากนั้น ปาซาลิช โดนจดชื่ออีกรายในนาทีที่ 57 ต่อด้วย มาร์เท่น เดอ รูน ซึ่งตัดเกมทำฟาวล์เช่นกัน และล่วงมานาทีเดียว กรีนวู้ด ก็ตักบอลจากกราบขวาไปเสาแรกให้ แม็คโทมิเนย์ เข้าชาร์จเหน่งๆชนเสาอย่างน่าเสียดาย

    นาทีที่ 63 โรนัลโด้ หลุดไปรับลูกแทงตามช่องของ แฟร์นันด์ส ตวัดยิงในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ มุสโซ่ ล้มตัวเซฟได้ ก่อนที่ ลุค ชอว์ จะโดนจดชื่อข้อหาทำฟาวล์

    ในที่สุด นาทีที่ 66 ป็อกบา ก็ได้ลงเเล่นแทน แม็คโทมิเนย์ พร้อมกับ เอดินสัน คาวานี่ ที่ได้เสียบแทน แรชฟอร์ด ขณะที่ อตาลันต้า เปลี่ยน  ปาซาลิช กับ อิลิซิช ออกให้ อเล็กเซ มิรันชุค กับ รุสลัน มาลินอฟสกี้ ลงเล่นแทน

    กระทั่งนาทีที่ 72 ซาปาต้า ก็คายพิษสงเกี่ยวบอลพลิกหนี วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เข้ากระทุ้งเต็มแรงถูก ดาบิด เด เคอา ใช้ขาสกัดได้ และ มี มาลินอฟสกี้ เข้าซ้ำถูกนายทวารสแปนิชปัดได้อีก  ก่อนที่ เจดอน ซานโช่ จะได้เสียบแทน กรีนวู้ด ในนาทีที่ 73

    และแล้วนาทีที่ 75 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เช็คบิลเพิ่มจนได้จากลูกเตะมุมด้านขวาที่ คาวานี่ ก้มหัวขวิดไม่เต็ม เปิดทางให้ แม็กไกวร์ ได้เข่นเหน่งๆในเขตโทษไม่มีใครคุมพา ปีศาจแดง ตีเสมอเป็น 2-2

 ช่วงที่เหลือ เกมเป็นไปแบบน่าเสียวไส้ด้วยกันทั้งคู่ แต่นาทีที่ 80 แฟร์นันด์ส ได้โอกาสเหมาะในเขตโทษด้านขวา เกี่ยวบอลหนีตัวประกบแล้วซัด แต่ถูก มุสโซ่ ปัดได้ ก่อนที่ ปาโลมิโน่ จะโดนจดชื่อ และตามด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองอีกรายของทีมเยือนให้ จูเซ็ปเป้  เปซเซลล่า ลงเล่น ค็อปไมเนอร์ส

    อย่างไรก็ดี ขยับมานาทีเดียว  โรงละครแห่งความฝันก็แทบถล่มด้วยเสียงแผดร้องของกองเชียร์เมื่อ ชอว์ ตักบอลโด่งจากกราบซ้ายเข้าเสาแรกให้ โรนัลโด้ โชว์ความทรงพลังโดดโขกเข้าเสียบเสาแรกเหนือ โฮเซ่ หลุยส์ ปาโลมิโน่ ตัวประกบพาเจ้าบ้านพลิกนรกแซงนำ 3-2 อย่างสุดมหัศจรรย์

    ท้ายเกมนาทีที่ 88 เฟร็ด เริ่มเดี้ยงจึงเปิดทางให้ เนมานย่า มาติช ลงเล่นแทนในขณะที่ อตาลันต้า พยายามบุกตีเสมอ และทำให้ คาวานี่ ทำฟาวล์ได้ใบเหลืองในช่วงทดเวลา จบเกม  ปีศาจแดง จึงแซงชนะอย่างยอดเยี่ยม 3-2 นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มด้วยหกแต้ม แต่มีเกมบุกไปเยือน อตาลันต้า ช่วงต้นเดือนหน้ารออยู่ และเป็นการเติมความฮึกเหิมก่อนต้อนรับ ลิเวอร์พูล ในเกมแดงเดือดสุดสัปดาห์นี้ได้อักโข
 
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1)  : ดาบิด เด เคอา - อาร่อน วาน บิสซาก้า , วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ , แฮร์รี่ แม็กไกวร์ , ลุค ชอว์ - เฟร็ด (เนมานย่า มาติช น.88)  , สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ (ปอล ป็อกบา น.66)  -  บรูโน่ แฟร์นันด์ส , เมสัน กรีนวู้ด ( เจดอน ซานโช่ น.73) , มาร์คัส แรชฟอร์ด  (เอดินสัน คาวานี่ น.66)  - คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

    อตาลันต้า (3-4-1-2)  : ฮวน มุสโซ่ - โยอาคิม  มาเอห์เล่ , โฮเซ่ หลุยส์ ปาโลมิโน่ , ตวน ค็อปไมเนอร์ส ( จูเซ็ปเป้ เปซเซลล่า น.80) - หลุยส์ มูเรียล (ดูวาน ซาปาต้า น.56) , เรโม เฟรอูเลอร์ , มาร์เท่น เดอ รูน , เมรีห์ เดมิรัล (มัตเตโอ โลวาโต้ น.46) - โยซิป อิลิซิช (อเล็กเซ มิรันชุค น.68) - ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า , มาริโอ  ปาซาลิช (รุสลัน มาลินอฟสกี้ น.68)

 ผู้จัดการทีม : จาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่

 ผู้ตัดสิน : ไซม่อน มาร์ซิเนี๊ยค (โปแลนด์)