ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » น่าดูหลายคู่! 6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัด 11

น่าดูหลายคู่! 6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัด 11

Posted 06/11/2021 by siamsport

 พรีเมียร์ลีก เดินทามาถึงนัดที่ 11 โดยหลังเสร็จสิ้นสุดสัปดาห์นี้ก็จะหลีกทางให้โปรแกรมทีมชาติ โดยแต่ละคู่ล้วนแต่มีเรื่องน่าสนใจ โดยเฉพาะศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่จะแย่งชัยชนะกันระหว่าง แมนยูไนเต็ด กับ แมนซิตี้ ขณะที่ 2 ทีมฟอร์มฮอต เวสต์แฮม พบ ลิเวอร์พูล ก็ไม่ควรพลาด

    "แมนฯ ยูไนเต็ด-แมนฯ ซิตี้"

    "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้" ระเบิดความมันส์ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วงหัวค่ำประจำวันเสาร์

    ทีมฝั่งสีฟ้า บุกเอาชนะ ยูไนเต็ด ถึงโรงละครแห่งความฝันในเกม พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 7 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดในการที่ทีมใดทีมหนึ่งสามารถบุกลูบคุมเจ้าถิ่นที่นี่เทียบเท่ากับที่ ลิเวอร์พูล ทำได้

    อย่างไรก็ดี "ปีศาจแดง" ไม่แพ้ต่อ ซิตี้ เลยในเกมลีก 4 นัดหลังสุด โดยเป็นการคว้าชัยได้ถึง 3 ครั้ง และแบ่งแต้มกันไปอีก 1 หน นับเป็นระยะเวลายาวนานที่พวกเขาไม่แพ้ทีมเพื่อนบ้านนานสุดนับตั้งแต่ที่เคยไม่แพ้ 6 เกมติดในช่วงระหว่างปี 2008 ถึง 2011

    สาวก "เร้ด อาร์มี่" เบาใจลงเยอะ เมื่อรู้สถิติยามที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่แสนรักทำทีมเผชิญหน้ากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อ "น้าโอเล่" คว้าชัยเหนือกุนซือสายเลือดกระทิงดุถึง 4 จาก 8 เกมที่เจอกันทุกรายการ ส่งให้เขาเป็นกุนซือที่มีอัตราการชนะ นายใหญ่ "เรือใบฟ้า" มากที่สุดในการที่เจอกันอย่างน้อย 5 ครั้ง (50%)

    เกมรุกของ แมนฯ ซิตี้ ซีซั่นนี้เป็นปัญหาที่ไม่มีใครคาดถึง เมื่อพวกเขาเจาะประตูคู่แข่งในลีกไม่ได้มาแล้ว 3 เกมทั้งที่เพิ่งลงสนามไป 10 นัด แน่นอนที่บอกว่าน่าเหลือเชื่อเพราะตัวเลขนี้มันเทียบเท่ากับการลงเล่นเมื่อฤดูกาลก่อนทั้งปี

    อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ฤดูกาล 2016/17 ในการลงเตะช่วงเที่ยงวันตามเวลาท้องถิ่น (คู่แรกวันเสาร์) นั้น แมนฯ ซิตี้ ทำสกอร์ได้ทุกนัด คิดเป็นจำนวนนัดก็ 23 เกมเข้าให้แล้ว

    "เชลซี-เบิร์นลี่ย์"

    ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ไม่มีคู่ไหนอีกแล้วที่จะมีประตูเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 ลูกในช่วง 45 นาทีแรกทุกเกมเหมือนกับการปะทะกันระหว่าง เชลซี กับ เบิร์นลี่ย์ โดยคู่นี้เจอกันมา 14 ครั้งมีสกอร์ตอนครึ่งแรก

    แมตช์นี้จะเป็นการลงคุมทีมบนลีกสูงสุด อังกฤษ เกมที่ 30 ของ โธมัส ทูเคิ่ล ซึ่งนับตั้งแต่แม่ทัพ "สิงห์บลูส์" ยืนข้างสนามพาทีมลงเล่นเกมแรกเมื่อเดือนมกราคม เขาพาทีมเก็บคลีนชีตมากถึง 18 เกมมากกว่าสถิติที่รองลงมาถึง 4 นัด ทว่าคนที่พา เชลซี เก็บคลีนชีตมากสุดในช่วง 30 เกมแรกคือ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ทำไว้ 22 นัดเลยทีเดียว

    5 จาก 6 แต้มที่ เบิร์นลี่ย์ ฉกได้จาก เชลซี นั้นเกิดขึ้นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 4) และหลังจากผ่านการเจอทีมในเมืองหลวง อังกฤษ 30 นัดแรกในศึก พรีเมียร์ลีก (เสมอ 4 แพ้ 23) "เดอะ คลาเร็ตส์" สามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 5 จาก 8 เกมหลังสุดที่ออกทริปเยือนกรุงลอนดอน

    มักซ์เวล คอร์เน็ต ตัวรุกฟอร์มจัดของ เบิร์นลี่ย์ ทำประตู 4 ลูกจาก 5 เกมแรกที่ลงเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับสถิติของการลงเล่นนัดแรกตอนที่ต้นสังกัดอยู่ในโซนตกชั้นมากที่สุด เหมือนที่ เดมบ้า บา ทำไว้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ปี 2011

    "อาร์เซน่อล-วัตฟอร์ด"


    อาร์เซน่อล คือทีมที่ เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือ วัตฟอร์ด ไม่เคยเอาชนะได้เลยสักครั้งจากการเจอกันในลีกทั้งสิ้น 11 หน(เสมอ 4 แพ้ 7) โดยเป็นการออกไปแพ้ที่บ้าน "ปืนใหญ่" ตลอดออกเยือน 5 หน ซึ่ง "เดอะ กันเนอร์ส" เป็นทีมเดียวที่ รานิเอรี่ ไม่เคยเอาชนะในการเจอกันอย่างน้อย 5 ครั้งได้เลยตลอดอาชีพการลงคุมทีมลีกสูงสุด

    ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ทำประตูใส่ "แตะอาละวาด" 6 ลูกจาก 5 นัดที่เจอกันมาใน พรีเมียร์ลีก โดยยิงเบิ้ลทั้งสองนัดเหย้า-เยือนตอนฤดูกาล 2019/20

    หลังจากโชว์ฟอร์มเด็ดบุกถลุง เอฟเวอร์ตัน 5-2 วัตฟอร์ด ก็มองหาชัยชนะนอกบ้านใน พรีเมียร์ลีก 2 เกมติดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2017 ในยุคของ มาร์โก ซิลวา และชัยชนะเกม พรีเมียร์ลีก นอกบ้านของ "แตนอาละวาด" 5 นัดหลังสุดเกิดขึ้นกับกุนซือที่ต่างกันไล่ตั้งแต่ ฆาบี กราเซีย, กีเก้ ฟลอเรส, ไนเจล เพียร์สัน, ซิสโก้ และ รานิเอรี่ คนล่าสุด

    ไม่มีผู้เล่น อาร์เซน่อล คนไหนที่มีส่วนร่วมกับประตูบนศึก พรีเมียร์ลีก มากไปกว่า เอมิล สมิธ โรว์ อีกแล้ว (3 ประตู 2 แอสซิสต์) โดยสองเกมหลัง แข้งวัย 21 ปีทำสกอร์ได้ทั้งสองนัด สำหรับทีม "ไอ้ปืนใหญ่" เคยมีผู้เล่นที่อายุ 21 ปีหรือน้อยกว่านั้นทำประตูใน พรีเมียร์ลีก 3 เกมติดอยู่ 3 ราย ซึ่งได้แก่ นิโกล่าส์ อาเนลก้า, โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส และ เชส ฟาเบรกาส

    "เอฟเวอร์ตัน-สเปอร์ส"


    สมัยที่ อันโตนิโอ คอนเต้ คุม เชลซี นั้นเขาไม่เคยแพ้ต่อ เอฟเวอร์ตัน เลยสักครั้ง แบ่งเป็นการคว้าชัย 3 นัด และเจ๊ากัน 1 เกม โดยที่ทีมตัวเองไม่เสียประตูให้แก่ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" สักลูกในการเผชิญหน้า 4 เกม

    ไม่ใช่แค่สถิติย่ำแย่ในการเจอกับ คอนเต้ เท่านั้น แต่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยังเป็นของแสลงสำหรับ เอฟเวอร์ตัน อีกต่างหาก เมื่อ 17 เกมที่เจอกันในลีกหลังสุด ทัพ"ทอฟฟี่เมน" เอาชนะ "คลับไก่" ได้แค่นัดเดียว โดยที่ชัยชนะนั้นเกิดขึ้นเมื่อปีก่อนที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม (1-0)

    ในการเจอกับ เอฟเวอร์ตัน บนเวที พรีเมียร์ลีก ของ แฮร์รี่ เคน 12 นัด เจ้าตัวซัดไปถึง 11 ประตูซึ่งมีถึง 5 เกมที่เขาทำสกอร์เบิ้ลในเกมเดียว มีแค่ อลัน เชียเรอร์ ในการเจอกับ ลีดส์ เท่านั้นที่ผู้เล่นทำอย่างน้อยสองประตูในเกมเดียวมากกว่า เคน โดยที่ "ฮอตชอต" เบิ้ลสกอร์ใส่ "ยูงทอง" ไป 6 นัด และแฮตทริกอีก 1 เกม

    นับตั้งแต่เข้าสู่ปีปฏิทิน 2021 เอฟเวอร์ตัน แพ้ในบ้านตัวเองเกมลีกไปแล้วถึง 9 นัด โดยมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่พวกเขาแพ้ตัวเลขสองหลักในรอบปีเดียวคือตอนปี 1993 ที่แพ้ในบ้านไป 10 เกม

    "ลีดส์-เลสเตอร์"

     เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอก เลสเตอร์ ทำประตูได้ตลอด 5 เกมยามที่ออกไปเล่นทีมใน ยอร์คเชียร์ โดยเป็นการยิงใส่ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ 2 นัด, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2 นัด และ ลีดส์ อีกหนึ่งเกม ทั้งนี้มีแค่แข้งรายเดียวเท่านั้นที่สามารถบุกสอยตาข่ายทีมในย่านนี้บนเกมลีก 6 นัดติดต่อกัน นั่นก็คือ แฮร์รี่ เคน กองหน้า สเปอร์ส ที่ทำได้ระหว่าวช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2014 - มกราคม ปี 2021

    นอกจากจะยิงประตูคิดเป็น 40% ของจำนวนที่ ลีดส์ ทำประตูได้ทั้งหมดในลีกฤดูกาลนี้แล้วนั้น(4 จาก 10) ราฟินญ่า ยังสร้างสรรค์โอกาสมากที่สุด (18), สร้างโอกาสยิงมากสุด (32) และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากสุด (26) ในทีม "ยูงทอง" ซีซั่นนี้

     ในการออกทริปเยือนถิ่น เอลแลนด์ โร้ด ของ เลสเตอร์ พวกเขากลับออกมาด้วยชัยชนะ 4 จาก 5 เกมหลังสุด(แพ้ 1) ซึ่งเทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ 16 นัด ขณะเดียวกัน "เดอะ ฟ็อกซ์" ยังมองหาชัยชนะที่นี่ 3 เกมติดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย

    ทางด้านฝั่ง ลีดส์ กำลังมองหาชัยชนะเกมลีกสองเกมติดเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ โดยการคว้าชัย 2 นัดในซีซั่นนี้ของพวกเขา ล้วนเกิดขึ้นกับคู่แข่งที่เป็นทีมน้องใหม่ (วัตฟอร์ด, นอริช)

     "เวสต์แฮม-ลิเวอร์พูล"


    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงประตูเกมเยือนในลีก 5 นัดแรกของซีซั่นให้กับ ลิเวอร์พูลได้ทุกนัด โดยแข้งอียิปต์ เป็นเพียงผู้เล่นคนที่สองเท่านั้นที่ทำได้ต่อจาก เธียร์รี่ อองรี เมื่อฤดูกาล 2001/02 โดยตำนาน "เดอะ กันเนอร์ส" พลาดในเกมเยือนนัดที่ 6 ของฤดูกาล

    มีเพียงแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้(80) กับ เชลซี(66) ที่เก็บแต้มในปีปฏิทิน 2021 ได้มากกว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (62) ถึงกระนั้นนี่ก็เป็นแต้มที่ "เดอะ แฮมเมอร์ส" คว้าได้มากที่สุดในรอบปีเดียวนับตั้งแต่แข่ง พรีเมียร์ลีก มา

    "หงส์แดง" ยิงได้อย่างน้อยสามประตูในการออกเล่นเกมเยือน 6 นัดหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก โดยยิงได้ 22 ประตู ซึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลลีก อังกฤษ มีทีมเดียวที่สอยตาข่ายคู่แข่งได้ 3 ลูกหรือมากกว่านั้นในการเล่นเกมเยือน 7 นัดติด นั่นก็คือ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่เคยทำไว้ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ปี 1892 ถึงเดือนกันยายน ปี 1983 ในลีกระดับสอง

    มิคาอิล อันโตนิโอ กองหน้าร่างบึ้ก เวสต์แฮม มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 17 ลูกจากการลงสนาม 22 นัดหลังสุดบนเวที พรีเมียร์ลีก ยามเล่นที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม (11 ประตู 6 แอสซิสต์) อีกทั้งเขายังเป็นผู้ที่ทำประตู และแอสซิสต์ ณ สนามแห่งนี้มากที่สุด ด้วยจำนวน 19 และ 12 ครั้งตามลำดับ และยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยังเล่นอยู่ในปัจจุบันที่ทำสถิติทั้งยิงและจ่ายในสนามของตัวเองมากที่สุด เคียงคู่ เจมี่ วาร์ดี้ (คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม) และ ราอูล ฮิเมเนซ (โมลินิวซ์)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »