การันตีเข้ารอบรองชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ แน่นอนแล้ว สำหรับทีมชาติไทย หลังจากที่ลงเล่นเกมนัดที่ 3 บดเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ไป 2-1 ทำให้ เก็บ 9 แต้มเต็ม ใน 3 เกม ถือว่าเป็นฟอร์มที่เพอร์เฟคมากๆ ของ “ช้างศึก”
 
อย่างที่ทราบกัน รายการนี้เราตั้งเป้า คือ การทวงบัลลังก์แชมป์ ทำให้มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ต้องขนนักเตะชุดที่ดีที่สุดมาทำเป้าหมายนี้ให้สำเร็จ โดยผ่านไปครึ่งทาง ภารกิจกำลังเดินหน้าเป็นไปอย่างตามคาด สร้างความชื่นอก ชื่นใจ ให้กับแฟนๆ บอลไทย ด้วยฟอร์มแบบนี้ รอบน็อกเอาท์ ต่อให้เจอใครก็ไม่มีหวั่นแน่นอน

ภาพรวมของ 3 เกมที่ผ่านมา ทั้งรูปแบบการเล่น แทคติกที่ลงตัว บวกกับนักเตะหลายๆ คนท็อปฟอร์ม ส่งผลต่อแรงศรัทธาของแฟนบอลที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง แฟนๆ เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ กับภารกิจทวงแชมป์อาเซียน เพราะ ตลอด 3 นัด ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายที่เจอคู่แข่งที่เล่นตั้งรับ ทั้ง 3 เกม แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าผลงานของช้างศึกจะตกๆ ลงไปในเวทีเอเชียระยะหลัง แต่อย่างไรแล้ว พอเวลาเจอกับชาติอาเซียนด้วยกัน พวกเขาก็ยังหวั่นใจและกลัวประสิทธิภาพของแข้งไทยอยู่ดีนั่นเอง

เปอร์เซ็นต์การครองบอล การเข้าทำทั้ง 3 นัดชี้วัดได้ว่า เรายังคงเป็นมาตรฐานฟุตบอลแนวหน้าของโซนอาเซียน เหมือนเดิม เหลืออย่างเดียว เราต้องรักษามาตรฐานการเล่นแบบนี้ไปตลอดรอดฝั่ง ทั้งทัวร์นาเมนต์ ซึ่งเราจะต้องเจอความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ในรอบต่อๆ ไป

“เกมนี้ทุกคนทำได้ดี ดูแล้วเริ่มมีความลงตัวขึ้นเรื่อยๆ กว่าสองเกมผ่านมา แต่อาจจะอึดอัดอยู่บ้าง เพราะเราเล่นกับทีมไหนก็ยากเสมอ เพราะเขาตั้งใจ ซึ่งเกมนี้ฟิลิปปินส์เองก็มารับแน่และรับต่ำ รอโต้กลับวางยาวข้ามแนวรับ มีบางจังหวะเลี้ยงกินตัว ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ดี  มันทำให้เห็นว่า เราจะต้องระวัง โดยเฉพาะบอลโด่ง ที่ถือว่ายังเป็นปัญหาที่ทีมชาติไทยต้องแก้ไข อีกทั้งหลังผ่าน 3 นัด เรายังไม่เห็นทีมที่จะมาเปิดเกมแลกกับเราอย่างจริงจัง ซึ่งน่าห่วงว่าเมื่อถึงตอนนั้นแนวรับหากไม่เซตให้ดีเหนื่อยได้เหมือนกัน เพราะจากเกมนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเราเองก็มีช่องโหว่ ส่วนเกมหน้ากับสิงคโปร์ เจ้าภาพ ผมยังเชื่อว่าพวกเขาจะมาเล่นในรูปแบบไม่ต่างจากฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าทีมชาติไทยจะผ่านเข้ารอบเป็นที่ 1 ของสายได้” อ.หรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตกุนซือทีมชาติไทย แสดงความเห็นหลังไทยเฉือนฟิลิปปินส์ ตีตั๋วเข้ารอบตัดเชือก

ด้าน โค้ชมาโน่ กล่าวว่า “ผมยอมรับว่า เกมนี้ถือเป็นเกมที่ยากพอสมควรสำหรับพวกเรา ในครึ่งแรกเราควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด และสิ่งต่างๆ เป็นเหมือนกับที่เราคุยกันไว้ก่อนเกม เราสร้างโอกาสทำประตูได้มากมาย และฟิลิปปินส์ แทบไม่ได้สร้างความอันตรายให้กับพวกเราเลย ตั้งแต่เริ่มเกมจนมาโดนลูกตั้งเตะ เป็นเพราะพวกเขามีนักเตะที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีหลายคน และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในครึ่งหลัง และเราพยายามโชว์ฟอร์มที่ดีออกมา

“หลังจากที่สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 เราพยายามเดินหน้าต่อไป และมันแสดงให้เห็นว่า ขุมกำลังของเรามีคุณภาพสูงมาก เราสร้างโอกาสจนมาได้จุดโทษ และธีรศิลป์ แดงดา ก็ยิงเข้าไป มันเป็น 3 คะแนนที่สำคัญมากๆ สำหรับเรา และเราได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ทำให้มีเวลาพัก เตรียมทีมมากขึ้นหลังจากนี้ เรามีความสุข มันไม่ง่าย และดีใจที่เราได้ 3 คะแนน” กุนซือใหญ่ทีมชาติ ให้สัมภาษณ์หลังเกม

 นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสถิติประวัติศาสตร์ใหม่ ที่แข้งไทยบันทึกไว้ได้ นั่นก็คือ ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นแท่นกลายเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของรายการนี้ไปเรียบร้อย ด้วยการยิง 2 ประตู ช่วยทีม ทำให้ยอดรวมประตูของ “มุ้ย” อยู่ที่ 19 ประตู โดยแซงหน้า นอร์ อลัม ชาห์ ตำนานสิงคโปร์ ที่เคยทำไว้ 17 ประตู เป็นที่เรียบร้อย นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ

เกมหน้า จะต้องมีคิวแย่งแชมป์กลุ่มกับเจ้าภาพสิงคโปร์ ในวันเสาร์ที่ 18 ธ.ค. นี้ แม้ว่า จะเป็นเกมที่วัดอีกหนึ่งเกมว่า เราจะโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่องหรือไม่ อีกทั้ง น่าจะเป็นเกมที่เปิดโอกาสให้แข้งที่ไม่ได้ลงสนามสัมผัสเกม เพื่อเตรียมทีมไว้ในรอบตัดเชือก งานนี้ อย่าลืมส่งกำลังใจเชียร์ช้างศึกกันต่อ แม้ว่าสิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพก็ตาม เชื่อได้เลยชั่วโมงนี้ ช้างศึก กำลังตกมัน เจอใครก็ไม่มีหวั่นอยู่แล้ว