ลิเวอร์พูล ไร้ปัญหาจัดทีมชุดผสมพลิกกลับมาถล่ม ชรูว์สบิวรี่ ทีมจากลีก วัน ไปได้แบบขาดลอย 4-1 โดยเกมนี้ ฟาบินโญ่ จัดคนเดียวสองประตู ส่ง "หงส์แดง" ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 ศึกเอฟเอ คัพ ต่อไป ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา

    ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 ประจำวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2565 ที่สนามแอนฟิลด์ ระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ ชรูว์สบิวรี่ ทีมจากลีก วัน

    เกมนี้ ลิเวอร์พูล จัดการโรเตชั่นพักตัวหลักยกชุดโดยส่งแข้งตัวหลักลง 5 ตำแหน่งคือ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบาฮิม โคนาเต้, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่ และ เคอร์ติส โจนส์ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ส่วนตำแหน่งอื่นๆเป็นแข้งดาวรุ่งทั้งหมด

 
    เปิดฉากครึ่งแรกมาเป็น ลิเวอร์พูล ที่ครองเกมบุกใส่ทันที และมาได้ลุ้นขึ้นนำในนาที 12 จากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดลูกฟรีคิกเข้าเขตโทษให้ อิบราฮิม โคนาเต้ ขึ้นโหม่งบอลข้ามคานไปนิดเดียว

    จากนั้นนาที 20 "หงส์แดง" ใกล้เคียงที่จะขึ้นนำสุดๆเมื่อ เคด กอร์ดอน ยิงหักข้อหน้าเขตโทษไปทางมุมล่างขวาประตู แต่ มาร์โก มาโรซี่ ยังยืนตำแหน่งได้ดีเซฟออกหลังไปได้

    อย่างไรก็ตาม นาที 27 ชรูว์สบิวรี่ มาทำช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่นได้ประตูพลิกขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ นาธาเนียล ออคเบต้า กระชากขึ้นมาทางฝั่งซ้ายแล้วเปิดเข้ามาที่หน้าปากประตูให้ ดาเนียล อูดอห์ พุ่งเข้ามาชาร์จจ่อๆไม่เหลือ

    แต่กระนั้น ลิเวอร์พูล มาตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ ในนาที 34 จากจังหวะที่ คอเนอร์ แบร๊ดลี่ย์ เติมขึ้นมาเปิดเรียดจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ เคด กอร์ดอน จับก่อนหนึ่งจังหวะแล้วปั่นด้วยซ้ายเน้นๆส่งบอลตุงตาข่ายอย่างเหนือชั้น

    เท่านั้นไม่พอท้ายครึ่งแรก อีธาน อีแบงค์ส-แลนเดลล์ กางแขนออกมาปัดโดนบอลในเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะชี้ให้จุดโทษกับ ลิเวอร์พูล ทันที แล้วเป็น ฟาบินโญ่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ "หงส์แดง" พลิกแซงนำเป็น 2-1 ในนาที 44
    
     ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ ชรูว์สบิวรี่ 2-1

    ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เริ่มด้วยการปรับทัพส่ง ทาคูมิ มินามิโนะ ลงมาเล่นแทน แม็กซ์ โวลท์มันน์

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 65 เจ้าถิ่นได้ลุ้นลูกที่สาม ไทเลอร์ มอร์ตัน ลองส่องไกลด้วยขวาจากนอกกรอบบอลพุ่งไปแฉลบแนวรับของ ชรูว์สบิวรี่ หลุดเสาแรกออกหลังไป

    หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองเกมได้เบ็ดแบบเสร็จค่อยๆต่อบอลเข้าทำ แต่หาจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้งแทบไม่ได้เลย ทำให้เกมผ่าน 70 นาที ยังขึ้นนำที่สกอร์เดิม 2-1

    จนกระทั่งนาทีที่ 78 สกอร์หนีห่างเป็น 3-1 จนได้จากจังหวะที่ คอเนอร์ แบร๊ดลี่ย์ ตวัดบอลจากสุดเส้นหลังเข้าเขตโทษให้  อิบราฮิม โคนาเต้ ได้ซัดจังหวะแรกโดนไม่เต็มแต่บอลไปเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตอกส้นจ่อๆเข้าประตูไป

    เท่านั้นไม่พอช่วงทดเจ็บนาที 90+3 ฟาบินโญ่ หลุดมาซัดมุมแคบจ่อๆเข้าไปไม่เหลือเป็นประตูปิดท้ายให้ ลิเวอร์พูล ถล่ม ชรูว์สบิวรี่ 4-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบร๊ดลี่ย์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิม โคนาเต้, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ฟาบินโญ่, ดิซอน บอนเนอร์ (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.64), ไทเลอร์ มอร์ตัน - เคด กอร์ดอน, แม็กซ์ โวลท์มันน์ (ทาคูมิ มินามิโนะ น.46), เคอร์ติส โจนส์

ชรูว์สบิวรี่ (3-4-1-2) : มาร์โก มาโรซี่ - แม็ทธิว เพนนิงตัน, อีธาน อีแบงค์ส-แลนเดลล์, จอร์จ เนิร์ส - เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์, จอช เวล่า, เดวิด เดวิส, ลุค ลีฮาย, นาธาเนียล ออคเบต้า - ไรอัน โบวแมน, ดาเนียล อูดอห์