โควตาที่สโมสรจากไทยจะได้ร่วมสังฆกรรมในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ฤดูกาล 2023 หรือปี พ.ศ. 2566 นั้นจะยังคงเดิมคือไทยได้โควตา จาก เอเอฟซี หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย 4 ทีม คือ แชมป์ไทยลีก 1 , แชมป์ฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2021-2022 ได้เล่นรอบแบ่งกลุ่ม โดยอัตโนมัติ และ รองแชมป์ไทยลีกกับอันดับ 3 ได้เล่น รอบเพลย์ออฟ 
   
ขณะนี้การแข่งขันฟุตบอลในประเทศของไทยนั้นเดินทางเข้าสู่เลกสองแล้วสำหรับ ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021-2022 ที่เหลืออีก 9 เกม ส่วน ฟุตบอลถ้วยสำคัญที่มีโควตา ได้เล่น เอซีแอล เป็นเดิมพัน นั้น ได้ 4 ทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เรียบร้อยแล้ว คือ สุพรรณบุรี เอฟซี , นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี , บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ โปลิศ เทโร เอฟซี
   
เมื่อดูจากเส้นทางที่เหลืออยู่แล้ว กับโทรฟี่ แชมป์ไทยลีก 1 ที่ล่าสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำเป็นจ่าฝูง โดยทิ้งอันดับ 2-3 อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อยู่ 8 แต้มนั้น มีโอกาสไม่น้อยทีเดียวที่ "ปราสาทสายฟ้า"  จะเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของไทยได้อีก สมัย 

ส่วนรายการถ้วยช้าง เอฟเอคัพ นั้น เมื่อดูจากทีมที่ผ่านเข้ารอบรองฯ ได้ ต้องยกให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ไปครองฉะนั้นถึงขณะนี้ต้องยอมรับว่า ทีม "ปราสาทสายฟ้า" นั้นมีโอกาสไม่น้อยที่จะได้ทั้งแชมป์ไทยลีก 1 และ ช้าง เอฟเอคัพ ไปครองสูงทีเดียว ไม่รวมถึงอีกถ้วยอย่าง ลีกคัพ พวกเขามีโอกาสคว้าแชมป์ได้ 

ฉะนั้นหากว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าได้ทั้งแชมป์ไทยลีก 1 และ ช้าง เอฟเอคัพ 2021-2022 ก็จะทำให้ ทีมที่จบอันดับ 4 ของไทยลีก 1 ได้ไปเล่น เอซีแอล ด้วย อีก 1 ทีม อันดับ 4 ของไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021-2022 จึงมีความหมายเป็นอย่างยิ่ง 

หากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ทั้งลีกและเอฟเอคัพ จะทำให รองแชมป์ไทยลีก 1 ได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มไปพร้อมกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และอันดับ 3-4 ของไทยลีก 1 จะได้เล่น รอบเพลย์ออฟ