น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว... ฟร้องซ์ ฟุตบอล ตัดสินใจปรับเปลี่ยนกฎมอบรางวัล บัลลง ดอร์ เรียบร้อย ซึ่งหลักๆ คือ จะให้ความสำคัญกับฟอร์มของตัวนักเตะ มากกว่าความสำเร็จเรื่องถ้วยแชมป์
     ฟร้องซ์ ฟุตบอล นิตยสารลูกหนังชื่อดังเมืองน้ำหอม ได้มีการปรับเปลี่ยนกฎหลักๆ 4 ข้อ สำหรับการมอบรางวัล บัลลง ดอร์ ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา

     รางวัล บัลลง ดอร์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายๆ ฝ่ายอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี เกี่ยวกับวิธีการคัดเลือกผู้คว้ารางวัล ซึ่งก็รวมถึงปี 2021 ที่ ลิโอเนล เมสซี่ ได้รางวัลนี้ไปครองเป็นสมัยที่ 7 ทั้งที่หลายคนมองว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดดาวยิงเลือดโปลของ บาเยิร์น มิวนิค ดูคู่ควรมากกว่า

     ล่าสุด ฟร้องซ์ ฟุตบอล ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเฟ้นหาผู้คว้ารางวัล ซึ่งหลักๆ มี 4 ข้อดังต่อไปนี้

     - ระยะเวลาที่นำมาพิจารณาจะมาจากผลงานในฤดูกาลนั้นๆ ซึ่งหลักๆ ก็เป็นการแข่งขันช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม - กรกฎาคม (ของอีกปี) ไม่ใช่ตามปีปฎิทิน (มกราคม-ธันวาคม) โดยจะมีการมอบรางวัลในเดือนตุลาคม

     - จะให้ความสำคัญกับฟอร์มและผลงานส่วนตัวของนักเตะ มากกว่าความสำเร็จเรื่องถ้วยแชมป์ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการมีน้ำใจนักกีฬา และความประพฤติด้วย   

     - สำหรับการโหวต จะให้สิทธิ์แค่ตัวแทนจากท็อป 100 ชาติใน ฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง เท่านั้น (และท็อป 50 สำหรับฝั่งหญิง) ซึ่งต่างจากปีก่อนที่ให้สิทธิ์มากถึง 170 ชาติ

     - มีการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลที่จะช่วยคัดกรองและลิสต์ชื่อ 30 ผู้เล่นลุ้นรางวัล บัลลง ดอร์ และ 20 ผู้เล่นลุ้นชิงรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม (โกปา โทรฟี่) และผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม (ยาชิน โทรฟี่) ซึ่งสิทธิ์ตรงนี้จะยกให้ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ซึ่งเป็นทูตของ บัลลง ดอร์ และบรรดานักข่าวที่มีส่วนช่วยคัดเลือกในปีก่อน ดูแล
 
     ทั้งนี้ ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แบ่งกันคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ 12 จาก 13 ปีหลังสุด ซึ่งมีแค่ปี 2018 ที่ ลูก้า โมดริช ได้ไป