เชส ฟาเบรกาส ระบุ ทุกวันนี้ฟุตบอลเปลี่ยนไปจนกลายเป็นเหมือนกีฬาของพวกหุ่นยนต์ โดยบอกว่าโค้ชหลายคนเน้นเรื่องหลักการมากเกินไปจนทำให้คนที่มีพรสวรรค์ดีโดนเมินด้วย

เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์ อาแอส โมนาโก สโมสรในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส แสดงความเห็นว่าทุกวันนี้ฟุตบอลมันเปลี่ยนไปเยอะมาก จากการที่เน้นหลักการมากเกินไปจนกลายเป็นเหมือนกีฬาของหุ่นยนต์ไปแล้ว

ฟาเบรกาส เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่ปี 2003 โดยเป็นกับ อาร์เซน่อล ก่อนที่หลังจากนั้นจะได้ไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า และ เชลซี แล้วค่อยมาอยู่กับ โมนาโก จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จเยอะพอตัวด้วย

แข้งวัย 34 ปี เผยว่า "ฟุตบอลเปลี่ยนไปเยอะมาก แบบว่าเยอะมากๆ การเปลี่ยนแปลงมันเริ่มขึ้นเมื่อราว 4 หรือ 5 ปีก่อน และตอนนี้มันก็ค่อนข้างเห็นได้ชัดเจนขึ้น ตลอดอาชีพการค้าแข้งผมได้ร่วมงานกับโค้ชหลายคน และไม่ได้มีเพียงแค่ 1 หรือ 2 คนเท่านั้น (ที่สนใจเรื่องทฤษฎีมากเกินไป) มีโค้ชที่ทำอย่างนั้นกับผมมากถึง 4-5 คนเลย"

"พวกเขาเป็นพวกคลั่งหลักการโดยยึดเอาการกระทำแบบที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งใจหลายครั้งเป็นหลัก พวกเขาจะบอกคุณว่าต้องผ่านบอลไปไกลแค่ไหนในหลายๆ ครั้ง, ต้องอยู่ในจุดในจุดหนึ่งอยู่บ่อยๆ มันกลายเป็นเกมของหุ่นยนต์ไปแล้ว"

"จากนั้นก็มีเกมที่ใช้ จีพีเอส กันเป็นหลัก โค้ชหลายคนหมกมุ่นกับเรื่องตัวเลข ประมาณว่าถ้าคุณทำผลงานให้ตรงตามตัวเลขแบบนั้นไม่ได้มันก็หมายความว่าคุณไม่พร้อมที่จะลงเล่น, ถ้าคุณพักคุณก็ต้องทำผลงานให้ตรงตามตัวเลขเหล่านั้นเพื่อที่จะรักษาระดบัเอาไว้ให้ได้ บางครั้งในประเด็นนี้ผมก็ชื่นชอบแบบโบราณมากกว่านิดหน่อยน่ะนะ"

"ในอาชีพการเล่นของผมน่ะผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมหลายช่วงทั้งในด้านสภาพร่างกายและจิตใจโดยที่ไม่จำเป็นต้องซ้อมในเรื่องพวกนั้นมากมายอะไรเลย ผมยังมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมได้หลายฤดูกาลด้วย แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าถ้าคุณไม่ซ้อมแล้วน่ะคุณก็จะไม่มีทางเก่งได้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับวิทยาศาสตร์, ตัวเลข และ จีพีเอส ไปซะหมด"

"สิ่งที่โค้ชสมัยนี้ต้องการคือความสามารถในการแข่งขันที่ดี พวกเขาอยากให้นักเตะมีสภาพร่างกายที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยกตัวอย่างเช่นระหว่างนักเตะที่วิ่งได้เร็วกับคนที่ช้ากว่าแต่มีพรสวรรค์มากกว่าน่ะ คนที่จะถูกเลือกให้ลงเล่นก็จะเป็นคนที่ร่างกายแข็งแกร่งกว่าและวิ่งได้เร็วกว่า ผมกล้าฟันธงเลย"

"ทุกวันนี้เวลาดูเกมการแข่งขันน่ะคุณก็เดาออกแล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการไล่กดดันแค่นิดหน่อย, โยนบอลไปถึงแนวหลังของคู่แข่ง, กองหน้ายิงเข้า หรือไม่ก็กองกลางดันขึ้นมายิงเอง หลายทีมเล่นกันแบบซ้ำซากจนน่าเบื่อ ความหมกมุ่นในตัวเลขมันทำให้นักเตะพรสวรรค์สูงบางคนโดนมองข้าม หรือไม่ก็กลายเป็นว่าเรื่องพรสวรรค์มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว"