เชลซี กับ เรอัล มาดริด สองทีมยักษ์ของอังกฤษ และสเปนมีคิวลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดแรกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันพุธนี้ (6 เม.ย.)
   
โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือทีม สิงห์บลูส์ เตรียมคุมทีมลงป้องกันแชมป์หูใหญ่อีกครั้งในกลางสัปดาห์นี้โดยสโมสรแห่งลอนดอนเจองานหนักหลังถูกจับสลากให้บู๊กับ ราชันชุดขาว เจ้าพ่อฟุตบอลรายการดังกล่าวตัวจริงเสียงจริงจากแดนกระทิงดุ

ขณะเดียวกัน จากผลงานนัดล่าสุดในลีกที่แพ้ เบรนท์ฟอร์ด คารังชนิดดูไม่จืด 4-1 ส่งผลให้หลายคนแสดงความเป็นห่วง เชลซี ที่ต้องต่อกรกับทีมจ่าฝูง ลา ลีกา

อย่างไรก็ดี จากสถิติที่ทั้งสองทีมนี้เคยเผชิญหน้ากันทั้งหมดห้าครั้ง ปรากฏว่าทีมลูกหนังจากเมืองผู้ดีไม่เคยเสียท่าให้กับ เรอัล มาดริด เลยแม้แต่นัดเดียว

ย้อนกลับไปเมื่อซีซั่นก่อน ทั้งสองทีมฟาดแข้งกันในรายการนี้รอบตัดเชือกมาหมาดๆซึ่ง สิงห์บลูส์ บุกไปเสมอ 1-1 ที่ เบร์นาเบว และกลับมากำราบ ราชันชุดขาว 2-0 ในรังตัวเอง เข้ารอบชิงไปพิชิต แมนฯ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

และก่อนหน้านั้น ในศึก ยูฟ่าซูเปอร์คัพ วันที่ 28 ส.ค.1998 เชลซี ในยุคของกุนซือ จานลูก้า วิอัลลี่ ก็ชนะ เรอัล มาดริด 1-0 จากประตูของ กุสตาโว่ โปเยต์ ดาวเตะทีมชาติอุรุกวัยในนาทีที่ 83

ส่วนหนแรกสุดที่ทั้งสองทีมต่อกรกันเป็นเกม คัพวินเนอร์สคัพ ซีซั่น 1970/71 ซึ่ง เชลซี ได้แชมป์ไปเชยชมจากการคว่ำ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศที่ กรีซ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.1971 ซึ่งลงเอยด้วยการเสมอกัน 1-1 หลังต่อเวลาพิเศษซึ่งทีมจากอังกฤษนำหน้าก่อนจากประตูของ ปีเตอร์ ออสกู๊ด ในนาทีที่ 56 แต่โดน โซโก้ ทวงคืนได้ในนาทีที่ 90 จนต้องมีนัดแข่งกันใหม่

อย่างไรก็ดี ในเกมรีเพลย์แม็ตช์ที่สนามแห่งเดิมในอีกสองวันต่อมา 21 พ.ค.1971 เชลซี ของกุนซือ เดฟ เซ็กซ์ตัน คว้าชัยได้ด้วยสกอร์ 2-1 โดยเป็นฝ่ายออกนำก่อนสองเม็ดจาก จอห์น เดมป์ซีย์  และ ออสกู๊ด ในนาทีที่ 33 และ 39 ขณะที่ เรอัล มาดริด ตีไข่แตกในนาทีที่ 75 จาก เซบาสเตียน เฟลตาส