ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 31 มีแข้งผลงานเยี่ยมมาจากหลายทีม ไปดูเลยว่ามีใครกันบ้าง...
   
ผู้รักษาประตู : ทิม ครูล (นอริช)

นอริช ถูก ไบรท์ตัน เจ้าถิ่นบุกยำใหญ่เกือบตลอดทั้งเกม และมีโอกาสทำสกอร์หลายครั้ง แต่ทุกหนก็ถูกนายด่านดัตช์ ป้องกันไว้ได้

ครูล โชว์ป้องกันประตูไป 4 หน รวมถึงสร้างความกดดันให้ นีล โมเปย์ ซัดจุดโทษเหินข้ามคามออกไป

กองหลัง : โจ โกเมซ (ลิเวอร์พูล)

ในวันที่รับบทบาทแทน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แต่ โกเมซ ก็ทำผลงานได้แบบไม่เคอะเขิน อีกทั้งยังเป็นคนผ่านบอลให้ ดิโอโก้ โชต้า ซัดเบิกร่อง

จากแอสซิสต์ดังกล่าว ส่งให้นี่เป็นการถวายพานให้เพื่อนทำประตูครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2017

กองหลัง : โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น (คริสตัล พาเลซ)

เป็นแนวรับแท้ๆ แต่มีชื่อแอสซิสต์ทั้งสองลูก ทั้งการโขกให้ มาเตต้า ซัดเบิกร่อง รวมถึงแทงบอลทะลุช่องให้ อายิว เข้าไปทำสกอร์ที่สอง

กองหลัง : คริสเตียน โรเมโร่ (สเปอร์ส)

ช่วยชีวิตไม่ให้ สเปอร์ส เสียประตูหลายครั้ง ทั้งบล็อกลูกยิง โจ วิลล็อค หรือตามสกัดบอลสำคัญ ๆ หลายหน

แนวรับอาร์เจนไตน์ มีค่าเฉลี่ยการตัดบอลกับเข้าปะทะสำเร็จรวมกัน 4.5 ครั้งต่อเกม เหนือกว่าเพื่อนร่วมทีมคลับไก่ทุกราย

กองหลัง : แอร่อน เครสเวลล์ (เวสต์แฮม)

แบ็กซ้าย "เดอะ แฮมเมอร์ส" ซัดลูกฟรีคิกเป็นลูกที่ 4 ให้กับต้นสังกัด แซงหน้าสถิติเดิมที่เป็นของ ดิมิทรี ปาเยต

กองกลาง : เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

กัปตัน เซาธ์แฮมป์ตัน ถูกจัดให้เป็นจอมเตะลูกฟรีคิกเบอร์หนึ่งแห่งศึก พรีเมียร์ลีก ไปเรียบร้อย ในวันที่ "เดอะ เซนต์ส" ตกที่นั่งลำบากก็มาได้ประตูลูกนิ่งสุดสวยจากปลายสตั๊ดของเขา

ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก มีแค่ เดวิด เบ็คแฮม (18) ลูกเท่านั้นที่ทำประตูจากลูกฟรีคิกได้มากกว่า วอร์ด-เพราส์ (13) โดย 9 ประตูของฝ่ายหลังมาจากการเล่นเกมนอกบ้าน

กองกลาง : คริสเตียน เอริคเซ่น (เบรนท์ฟอร์ด)

เป็นช่วงเวลาที่ เอริคเซ่น กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งทั้งในนามสโมสรและทีมชาติ ประตูนัดเจอ เชลซี นับเป็นสกอร์แรกในศึก พรีเมียร์ลีก ของเขานับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2019 และเป็นการมีส่วนร่วมกับประตูใส่ เชลซี ลูกที่ 8 (3 ประตู 5 แอสซิสต์) ซึ่ง 3 ประตูเกิดขึ้นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์

กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้)

ยังคงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างบนแนวรุก "เรือใบสีฟ้า" ในช่วงทางตรงก่อนปิดฤดูกาล เดอ บรอยน์ ต้องรับภาระเพื่อให้ แมนฯ ซิตี้ บรรลุเป้าหมายคว้าแชมป์

ประตูที่ทำได้ใส่ เบิร์นลี่ย์ นับเป็นสกอร์ที่ 10 ของเขาในซีซั่นนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่สองเท่านั้นที่ดาวเตะเบลเจี้ยน สามารถทำประตูแตะเลขสองหลักได้ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นเดียว

กองหน้า : วิตาลี่ ยาเนลท์ (เบรนท์ฟอร์ด)

เชลซี กระอักเลือดเมื่อโดน ยาเนลท์ เล่นงานใส่ ซึ่งเจ้าตัวจัดการเบิ้ลสกอร์จนพา "เดอะ บีส์" บุกเก็บชัยชนะที่ เดอะ บริดจ์ แบบช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่น

กองหน้า : แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส)

แม้จะไม่มีชื่อเป็นคนทำประตู แต่บทบาทบนแนวรุกที่ เคน สร้างสรรค์คือสิ่งที่ทำให้ สเปอร์ส ได้ประตูเป็นกอบเป็นกำในช่วง 3 เกมที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นใหม่ เคน เป็นนักเตะที่ฟอร์มฮอตที่สุดคนหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก

กองหน้า : ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้)

การทำสองแอสซิสต์พิสูจน์ให้เห็นว่า สเตอร์ลิง มีพัฒนาการมากขึ้นกว่าเดิมภายใต้การคุมทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จากเดิมที่มักเล่นฉายเดี่ยวเพื่อทำประตูเอง แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนไปแล้ว