ตอนนี้เข้าสู่ช่วงโปรแกรมเตะยี่ยิบกันแล้ว และ เจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องเซฟสภาพร่างกายของลูกทีมให้ดีที่สุด หลังจากประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บระนาวตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้ ฉะนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นการโรเตชั่นขุมกำลังนิดหน่อยในเกมรับมือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์ วันพุธที่ 31 สิงหาคมนี้

“เดอะ เร้ดส์” เพิ่งจะคว้าชัยชนะแรกในเกมลีกของซีซั่นนี้ด้วยการเปิดบ้านไล่ต้อน บอร์นมัธ ยับเยิน 9-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยสามแต้มในแมตช์นี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทีมอีกครั้ง หลังฟอร์มสะดุดในสามเกมแรก

อย่างไรก็ตามการรับมือกับทีมของกุนซือเอ็ดดี้ ฮาว ถือว่าไม่ใช่งานง่าย เพราะทัพ “สาลิกาดง” ฟอร์มโหดเหลือเกินในช่วงที่ผ่านมา ทั้งแมตช์เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเกือบชนะด้วยเพราะนำไปก่อนสองประตู รวมทั้งเกมตายยากไล่ตีเสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และยังรักษาความซิงไม่แพ้ใครในซีซั่นนี้

สำหรับเกมนี้ คล็อปป์ รู้ว่าหากไม่ส่งผู้เล่นชุดที่แกร่งที่สุดลงสนามอาจโดนทีเด็ด นิวคาสเซิ่ล เล่นงานก็ได้ ฉะนั้นในช่วงแรกสาวก “เดอะ ค็อป” คงได้เห็นผู้เล่นชุดหลักลงสนาม ก่อนที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนแท็กติกในครึ่งหลัง หรือตามสถานการณ์ของทีมระหว่างเกม

ผู้รักษาประตู – อลีสซง เบ็คเกอร์
แน่นอนว่าตำแหน่งนี้ไม่มีทางที่ คล็อปป์ จะเปลี่ยนแปลงเพราะ อลีสซง เป็นนายทวารที่ไว้วางใจได้เสมอ และถ้าหากไม่มีอาการบาดเจ็บเล่นงาน นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องจับ โกลทีมชาติบราซิล ลงเฝ้าเสาเหมือนเดิม ที่สำคัญศักยภาพของ อลีสซง ไม่ใช่แค่เหนียวหนึบเท่านั้น แต่เขาถือเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดีเยี่ยม และสามารถเปิดเกมจากหลังประตูได้อย่างแม่นยำ ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งไม้ตายในการเล่นสวนกลับเพื่อจัดการแนวรับของ “เดอะ แม็กพายส์” หากขึ้นมาเติมเกมบุกมากเกินไป

กองหลัง : เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
สำหรับสถานการณ์แนวรับของ “หงส์แดง” ยังคงไม่มี โฌแอล มาติป และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ แม้ในรายของ มาติป จะลงซ้อมได้แล้วก็ตาม แต่เชื่อว่า คล็อปป์ อาจจะยังไม่กล้าใช้งานทันที ด้วยเหตุนี้เขาคงต้องใช้งาน โกเมซ คู่กับ ฟาน ไดค์ อีกแมตช์ ขณะที่ “หนุ่มเทรนต์” ยังได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งแบ็กขวา หลังเพิ่งระเบิดฟอร์มในเกมกับ บอร์นมัธ ส่วน โรเบิร์ตสัน ต้องบอกว่าผลงานยังไม่ค่อยโดดเด่นแต่ก็ไม่ได้เลวร้าย กระนั้นในตำแหน่งแบ็กซ้าย นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช อาจมีการปรับโดยส่ง คอสตาส ซิมิคาส หากต้องการการเปิดบอลที่รุนแรงและเฉียบคม ล่าสุดทำ 2 แอสซิสต์ในเกมย่ำยี “เดอะ เชอร์รี่ส์”

กองกลาง : ฟาบินโญ่, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
แผงมิดฟิลด์เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ “เดอะ เร้ดส์” โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ดังนั้น คล็อปป์ จำเป็นอย่างยิ่งต้องใช้ผู้เล่นที่ไว้วางใจได้มากที่สุดลงสนาม การมี ฟาบินโญ่ คอยทำหน้าที่คุมจังหวะเกมแดนกลาง และช่วยตัดเกมรุกที่รวดเร็วของ นิวคาสเซิ่ล จะทำให้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสตอบโต้คู่แข่งได้ทันที ในส่วนของ “กัปตันเฮนโด้” คงต้องขยับไปยืนทางฝั่งขวาเหมือนเกมกับ บอร์นมัธ เพื่อหลีกทางให้ เอลเลียตต์ ได้ลงไปโลดแล่นทางฝั่งซ้าย ซึ่งตอนนี้ “เจ้าจุก” กำลังเล่นด้วยความมั่นใจ หลังโชว์ฟอร์มเทพในเกมล่าสุด แต่จากการที่ ดาวเตะวัย 19 ปี ถูกถอดออกในช่วงพักครึ่ง เนื่องจากหวั่นใจว่าจะมีปัญหาความฟิตหรือไม่ แถมเจ้าตัวก็ไม่ได้ซ้อมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา งานนี้ไม่แน่ว่าแฟนบอล “หงส์แดง” อาจจะได้เห็น ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ลงตัวจริงก็ได้

กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ดิอาซ, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ตอนนี้ด้วยข้อจำกัดในเกมรุกเนื่องจาก ดาร์วิน นูนเญซ ยังติดโทษแบนซึ่งเป็นเกมสุดท้าย ดังนั้น 3 ประสานยังคงต้องใช้งาน ซาลาห์, ดิอาซ และ ฟีร์มีโน่ เหมือนเดิม กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้พวกเขาคงมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นหลังโชว์ฟอร์มเทพ โดยเฉพาะ “บ็อบบี้” ที่ทั้งยิงทั้งแอสซิสต์ในเกมที่ผ่านมา ที่สำคัญด้วยศักยภาพของทั้งสามคน น่าจะพอที่จะเล่นงานแนวรับของ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งต้องยอมรับว่าค่อนข้างเปราะบาง และงานนี้ “บังโม” คงเต็มไปด้วยความฮึกเหิม เพราะเกมกับ บอร์นมัธ เจ้าตัวไม่มีทั้งชื่อผู้ทำประตู และแอสซิสต์ จาก 9 ประตูในเกมนั้น งานนี้เขาคงหวังที่จะตะบันตาข่ายผู้มาเยือนให้ได้แน่นอน

ทอมเม้ง