"สิงห์บลูส์" ยุคของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ผลงานสุดร้อนแรงหลังบุกเฉือน "ซัลซ์บวร์ก" 2-1 จากประตูชัยสุดงามของ ฮาแวร์ตซ์ พาทีมบวกสถิติไม่แพ้ใคร 9 นัดติดรวมทุกรายการเก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนนยึด จ่าฝูง กลุ่ม อี การันตี ผ่านเข้ารอบ ศึกชปล. เรียบร้อย

สนาม : เร้ดบูลล์ อารีน่า

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี คืนวันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2565 ซัลซ์บวร์ก ทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม ต้อนรับ "สิงห์บลูส์" จ่าฝูง ที่มีแต้มมากกว่า 1 คะแนน

- น้ำหนักขึ้นโดนแน่! อเกวโร่ เผย เป๊ป โคตรเฮี้ยบดร็อปตนเพราะอ้วน
- เรื่องจริงหรือแค่บังเอิญ?แฟน ลิเวอร์พูล แจงสาเหตุทีมรักผลงานดำดิ่ง
- อยากแก้ตัว! ชาบี เชื่อ เลวานดอฟสกี้ สุดกระหายยิง บาเยิร์น
ซัลซ์บวร์ก ยังไม่แพ้ใครยูซีแอลปีนี้ เกมล่าสุดบุกไปเสมอ ดินาโม ซาเกร็บ มา 1-1 รั้งอยู่อันดับ 2 ของตาราง ส่วนในลีกเปิดบ้านเสมอ สตวร์ม กราซ 0-0

ทางด้าน เชลซี ไม่แพ้ใครมา 8 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ โดยในถ้วยยูซีแอลพวกเขารั้งจ่าฝูงของกลุ่ม เกมล่าสุดบุกไปชนะ เอซี มิลาน มา 2-1 ด้านในลีกเปิดบ้านเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 1-1

เปิดฉากครึ่งแรก 10 นาที "สิงห์บลูส์" หวิดงานเข้าจากจังหวะออกบอลสั้นของ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า โดนโขกดักย้อนเข้าเขตโทษถึง โนอาห์ โอคาฟอร์ โชคดีเพื่อนมาช่วยดักทิ้งเอาไว้ได้ทัน

นาทีที่ 15 ซัลซ์บวร์ก บุกต่อเนื่องจากจังหวะประสานงานสุดสวย โนอาห์ โอคาฟอร์ แปะตั้งให้ ลูก้า ซูซิช สอดมาเก็บพาแหวกเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายเสียดายยิงไม่ดีปลิ้นหลังเท้าเหินข้ามคาน

แต่แล้วนาทีที่ 23 เชลซี ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะครอสทางขวาบอลมาตกชุลมุนในเขตโทษแนวรับ ซัลซ์บวร์ก ทิ่มสกัดไม่ดีย้อนมาบนเส้น 18 หลาเข้าทาง มาเตโอ โควาชิซ ซัดด้วยซ้ายตูมเดียวเสียบเสาสองงามหยด

4 นาทีต่อมาจากลูกเตะมุมทางขวา คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ปั่นบอลโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง ขวิดเปลี่ยนทางแฉลบ มักซิมิเลียน เวอเบอร์ ติดปลายมือ ฟิลิปป์ เคิห์น ควักออกมาจากบนเส้น

นาทีที่ 32 ทีมเยือน พลาดโอกาสทองจากบอลแก้ เพรซซิ่ง สุดสวย ไค ฮาแวร์ตซ์ ขยับมารับบอลทางซ้ายลากแหวกขึ้นมาถวายพานข้ามไปให้ โอบาเมยอง สอดมาล่อเป้าหน้ากรอบ 6 หลาติดเซฟ ฟิลิปป์ เคิห์น

15 นาทีก่อนหมดเวลาเกมเปิดแลกกันสนุก ซัลซ์บวร์ก ลุยก่อนจากจังหวะยิงไกลของ โนอาห์ โอคาฟอร์ ซัดไปตรงตัว เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ก่อนเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ โขกเต็มหัวหน้ากรอบ 6 หลาติดเซฟ ฟิลิปป์ เคิห์น เหลือเชื่อ

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+1 "สิงห์บลูส์" พลาดบวกสกอร์เหลือเชื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายดีดตั้งให้ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง สอดมาปั่นด้วยขวายัดเสาแรกติดปลายมือ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง ล้มตัวควักทิ้งหวุดหวิด

หมดครึ่งเวลาแรก ซัลซ์บวร์ก 0 เชลซี 1

เริ่มครึ่งหลังเพียง 3 นาที ซัลซ์บวร์ก หวิดได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะของ มาเตโอ โควาชิซ โชคไม่ดีโดนบอลกระดอนพื้นไต่หลังขามาโดนแขนในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ต้องรอเช็ค วีเออาร์ สุดท้ายไม่เป่าให้จุดโทษ

ต่อมานาทีที่ 49 เจ้าถิ่น ตามตีเสมอ ๅ-1 จนได้จากจังหวะสวนกลับทางซ้าย มักซิมิเลียน เวอเบอร์ พาหนีขึ้นมาปาดโค้งเข้าเขตโทษข้ามไปเสาสองถึง จูเนียร์ อดามู ตั้งเท้าชาร์จกระดอนพื้นสวนตัว เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ตุงตาข่าย

นาทีที่ 52 ทีมเยือน ตอบโต้บ้าง ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง ใช้ความเร็วสอดตัดหน้า อามาร์ เดดิช ได้ซัดอีกรอบก็ยังติด ฟิลิปป์ เคิห์น ออกมาปิดมุมบล็อคเอาไว้ได้ทัน

จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางซ้ายบอลโค้งมาเสาแรกเข้าหัว มาเตโอ โควาชิซ ขวิดเปลี่ยนทางพุ่งหาเสาสองติด จูเนียร์ อดามู ถอยมาช่วยเกมรับหวดทิ้งออกมาจากบนเส้น

นาทีที่ 64 "สิงห์บลูส์" ขยับออกนำอีกครั้ง 2-1 คริสเตียน พูลิซิช เก็บบอลทางขวาหมุนหนีแนวรับ ซัลซ์บวร์ก ก่อนป้ายตั้งให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ช่องปั่นด้วยซ้ายเลือกเสาไกลโค้งเช็คใต้คานแบบที่ ฟิลิปป์ เคิห์น ได้แค่มอง

ช่วงเวลาที่เหลือ ซัลซ์บวร์ก เร่งเครื่องเต็มสูบได้จบเพิ่มจาก โนอาห์ โอคาฟอร์ และตัวสำรองเนื้อหอมอย่าง เบนจามิน เซสโก้ แต่ซัดไม่ผ่าน เกปา อาร์รีซาบาลาก้า เหนียวหนึบช่วยเซฟเอาไว้ได้หมด

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ซัลซ์บวร์ก 1 เชลซี 2

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

ซัลซ์บวร์ก (4-3-1-2) : ฟิลิปป์ เคิห์น - อามาร์ เดดิช, แบร์นาร์โด้, สตราอินย่า ปาฟโลวิช, มักซิมิเลียน เวอเบอร์ - มาริอุส เคียร์การ์ด, ลูก้าส์ กูร์นา-ดูอาธ, นิโกลัส ซีวัลด์ - ลูก้า ซูซิช - จูเนียร์ อดามู, โนอาห์ โอคาฟอร์

เชลซี (3-4-1-2) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์ก กูกูเรย่า - คริสเตียน พูลิซิช (เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า น.75), มาเตโอ โควาชิซ (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.68) - จอร์จินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิง (เมสัน เมาท์ น.88) - คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (ฮาคิม ซิเย็ค น.88) - ไค ฮาแวร์ตซ์, ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง (อาร์มันโด้ โบรย่า น.75)

ผู้ตัดสิน : ซานโดร ชาเรอร์ (สวิตเซอร์แลนด์)