ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » เรอัล มาดริด โหดถล่ม เซลติก ซิวแชมป์กลุ่ม จับติ๋ว 16 ทีม ชปล. จันทร์หน้า

เรอัล มาดริด โหดถล่ม เซลติก ซิวแชมป์กลุ่ม จับติ๋ว 16 ทีม ชปล. จันทร์หน้า

Posted 03/11/2022 by siamsport

เรอัล มาดริด โชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่าหลังเรียงหน้าไล่ถล่ม เซลติก ขาดลอย 5-1 เกมนี้มีถึง 3 จุดโทษในครึ่งแรก ทว่าทัพ "ม้าลายเขียว-ขาว" ยิงไปติดเซฟของ กูร์กตัวส์ ส่งผลให้ "ราชันชุดขาว" มีเพิ่มเป็น 13 คะแนน หลังแข่งจบรอบแบ่งกลุ่ม 6 นัด คว้าแชมป์กลุ่ม เอฟ ส่วน เซลติก จมบ๊วยของกลุ่มมีแค่ 2 แต้ม โดยการจับสลากรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 7 พ.ย.นี้

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันพุธที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นเกมในกลุ่ม เอฟ ระหว่างแชมป์เก่า เรอัล มาดริด ที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมเล่น เปิด ซานติอาโก เบร์นาเบว รับมือ เซลติก ที่ตกรอบเป็นบ๊วยของกลุ่ม ซึ่งเกมนี้ "ราชันชุดขาว" ต้องเอาชนะไว้ก่อนเพื่อการันตีเป็นแชมป์กลุ่ม

คาร์โล อันเชล็อตติ จัดสามแนวรุกแดนหน้าทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ และ มาร์โก อเซนซิโอ แถมข่าวดีได้ คาริม เบนเซม่า หายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นสำรอง ส่วนทางฝั่งทีมเยือนของ อันเก ปอสเตโคกลู กุนซือเซลติก วางแกนหลักเป็นแข้งชาวญี่ปุ่นทั้ง เรโอะ ฮาตาเตะ, ไดเซน มาเอดะ และ เคียวโกะ ฟูรูฮาชิ

เปิดฉากมาได้แค่ 6 นาที เรอัล มาดริด มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง เฟเด้ วัลเวร์เด้ ยิงบอลไปโดนแขน โมริตซ์ เยนซ์ ก่อนที่ สเตฟานี แฟรบพาร์ต ผู้ตัดสินสาวชาวฝรั่งเศสจะเป่าให้จุดโทษเจ้าบ้านทันที และเป็น ลูก้า โมดริช กัปตันทีมสังหารเข้าไปไม่พลาดให้ "ราชันชุดขาว" ออกนำเร็ว 1-0

นาที 19 เรอัล มาดริด ชวดได้เม็ดที่สองนำห่างหลัง อาเซนซิโก้ ไหลเลียดไปเสาไกลให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ซัดไปติด โจ ฮาร์ท ก่อนตามไปเก็บแล้วให้ โรดรีโก้ ซัดด้วยขวาไปติดแขน แม็ทธิว โอไรลี่ย์ แม้ตอนแรกแข้งชุดขาวจะประท้วงว่าเป็นจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นไปก่อน จนได้รับสัญญาณจากวีเออาร์ ก่อนเปาสาวจะวิ่งไปดูจอข้างสนามอีกทีแล้วยืนยันให้ เรอัล มาดริด ได้ลูกจุดโทษก่อนที่ โรดรีโก้ จะรับหน้าที่ซัดเข้าไปให้เจ้าถิ่นนำห่าง 2-0

ลูกทีมของ อันเช่ ยังครองบอลได้เหนือกว่า และนาที 22 น่าจะได้เม็ดสามหลัง โรดรีโก้ ไหลนิ่มๆเข้ากลางให้ วินิซิอุส ได้ซัดโล่งๆไม่มีคนประกบแต่เจ้าตัวซัดเหินโด่งข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง

นาที 27 เซลติก เกือบได้ลุ้นตีไข่แตก บอลจาก แอรอน มอย ไหลให้ เคียวโกะ ฟูรูฮาชิ ซัดไปติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์

นาที 33 เซลติก มาได้ลูกจุดโทษคืนบ้างหลัง แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ไปเสียบใส่ ลิเอล อบาด้า ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษ ม้าลายเขียว-ขาว ทันทีทว่า โยซิป ยูราโนวิช ดันยิงจุดโทษพลาดซัดไปติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ทำให้สกอร์ยังเป็น เรอัล มาดริด นำอยู่ 2-0

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ออกนำ เซลติก 2-0

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 51 แฟนชุดขาวในสนามได้เฮกันลั่น เมื่อเจ้าบ้านออกนำไปไกลถึง 3-0 จากจังหวะที่ ดานี่ การ์บาฆาล ตามไปสไลด์บอลบนเส้นหักมาให้ มาร์โก อเซนซิโอ วิ่งมากระทุ้งด้วยซ้ายผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าไป

นาที 61 เฟเด้ วัลเวร์เด้ ได้บอลขึ้นมาทางขวาก่อนกระชากเข้าไปครอสบอลเข้ากรอบ 6 หลาให้ วินิซิอุส จูเนียร์ โฉบมาซัดบอลเข้าไม่เหลือ เรอัล มาดริด นำโด่ง 4-0

นาที 65 เซลติก ได้โอกาสซัดเน้นๆ จาก เดวิด เทิร์นบูลล์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา แต่ยิงไปตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ ทุบออกมาได้

เกมรุกของเจ้าถิ่นยังดาหน้าบุกมาต่อเนื่อง และนาที 71 เรอัล มาดริด มาพังประตูที่ห้า หลัง ลูกัส บาซเกซ จ่ายบอลมาให้ เฟเด้ วัลเวร์เด้ ซัดด้วยขวาซุกก้นตาข่ายเข้าไปให้ ชุดขาว นำโด่ง 5-0

นาที 83 โชต้า เรียกฟรีคิกให้ เซลติก ได้หน้ากรอบก่อนที่เจ้าตัวที่ลงมาเป็นสำรองจะวิ่งมาอัดด้วยขวาผ่านกำแพงพุ่งเสียบมุมบอลเข้าไปอย่างสวยงามให้ "ม้าลายเขียว-ขาว" ตีไข่แตกไล่มา 1-5

จบเกม เรอัล มาดริด ไล่ถล่มเอาชนะ เซลติก ขาดลอย 5-1 มีเพิ่มเป็น 13 คะแนน หลังแข่งจบรอบแบ่งกลุ่ม 6 นัด คว้าแชมป์กลุ่ม เอฟ ส่วน เซลติก จมบ๊วยของกลุ่มมีแค่ 2 แต้ม โดยการจับสลากรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 7 พ.ย.นี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดานี่ การ์บาฆาล (ลูกัส บาซเกซ น.64), เอแดร์ มิลิเตา (เฆซุส บาเยโฆ่ น.73) , ดาวิด อลาบา (นาโช่ เฟร์นานเดซ น.66), แฟร์กล็องด์ เมนดี้ - ลูก้า โมดริด (ดานี่ เซบายอส น.66), โทนี่ โครส, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ - วินิซิอุส จูเนียร์ (คาริม เบนเซม่า น.64), โรดรีโก้, มาร์โก อเซนซิโอ

เทรนเนอร์ : คาร์โล อันเชล็อตติ

เซลติก (4-3-3) : โจ ฮาร์ท - โยซิป ยูราโนวิช, คาร์ล สตาร์เฟลต์, โมริตซ์ เยนซ์, เกร็ก เทย์เลอร์ - แอรอน มอย (เดวิด เทิร์นบูลล์ น.64), เรโอะ ฮาตาเตะ (โอลิเวอร์ อบิลด์การ์ด น.82) - ลิเอล อบาด้า (โชต้า น.64), แม็ทธิว โอไรลี่ย์, ไดเซน มาเอดะ (เซอัด ฮักซาบาโนวิช น.64) - เคียวโกะ ฟูรูฮาชิ (จอร์จอส เจียคูมาคิส น.63)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • เรอัล มาดริด จัด "โรดรีโก้-อาซาร์" ซัลโวเซลติก ลุ้นชนะเพื่อซิวแชมป์กลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก
    แชมป์เก่า เรอัล มาดริด แม้จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้แล้วแต่ยังต้อลุ้นแชมป์กลุ่ม เกมนี้รับมือ เซลติก ที่ร่วงตกรอบไปแล้ว เกมนี้ คาร์โล อันเชลอตติ อาจมีการโรเตชั่นสลับ เอแด็น อาซาร์ ลงตัวจริงบ้างโดยมี โรดรีโก้ ยืนหอกเป้าล่าตาข่าย ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัดสุดท้าย คืนวันพุธที่ 2 พฤศจิกายน เวลา 00.45 น.
  • เจ๊ารองบ๊วย! เรอัล มาดริด สะดุดแบ่งแต้ม คิโรน่า แต่ยังแซงบาร์ซ่านำฝูง
    เรอัล มาดริด ทำผลงานได้น่าผิดหวังหลังเล่นในบ้านได้แค่เสมอกับ คิโรน่า ทีมท้ายตาราง 1-1 ทั้งที่ วินิซิอุส จูเนียร์ ยิงให้ทีมนำก่อนแล้ว แต่ท้ายเกม อเซนซิโอ ทำเสียแฮนด์บอล ก่อนที่ คริสเตียน สตูอานี่ จะกดโทษให้ คิโรน่า บุกมาแบ่งแต้ม โดยเกมนี้ชุดขาวต้องเหลือ 10 คนช่วงทดเจ็บหลัง โทนี่ โครส โดนใบแดงไล่ออก ทำให้ลูกทีมของอันเช่มีเพิ่มเป็น 32 คะแนน แซง บาร์ซ่า หนึ่งคะแนนขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง
  • เจ๊ารองบ๊วย! เรอัล มาดริด สะดุดแบ่งแต้ม คิโรน่า แต่ยังแซงบาร์ซ่านำฝูง
    เรอัล มาดริด ทำผลงานได้น่าผิดหวังหลังเล่นในบ้านได้แค่เสมอกับ คิโรน่า ทีมท้ายตาราง 1-1 ทั้งที่ วินิซิอุส จูเนียร์ ยิงให้ทีมนำก่อนแล้ว แต่ท้ายเกม อเซนซิโอ ทำเสียแฮนด์บอล ก่อนที่ คริสเตียน สตูอานี่ จะกดโทษให้ คิโรน่า บุกมาแบ่งแต้ม โดยเกมนี้ชุดขาวต้องเหลือ 10 คนช่วงทดเจ็บหลัง โทนี่ โครส โดนใบแดงไล่ออก ทำให้ลูกทีมของอันเช่มีเพิ่มเป็น 32 คะแนน แซง บาร์ซ่า หนึ่งคะแนนขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง
  • มาดริดไร้เงา เบนเซม่า! "บัลเบร์เด้" อาสายิงแทนรับ จิโรน่า เน้นทุบทวงหัวฝูง
    "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด โดน บาร์เซโลน่า ขโมยจ่าฝูงไปชั่วคราวแล้ว แถมกองหน้า คาริม เบนเซม่า ยังเจ็บชวดช่วยทีม "เฟเด บัลเบร์เด้" แกนหลักจอมซัลโวพร้อมยิงแทน รอรับ จิโรน่า ทีมรองบ๊วย ในการแข่งขันฟุตบอลลาลีกา สเปน นัดที่ 12 คืนวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »