"อินทรีเหล็ก" หวิดตกรอบแรกซ้ำรอยสมัยที่แล้วหลังต้องไล่ตีเสมอ "กระทิงดุ" ช่วงท้ายเกม 1-1 ยังไร้ชัยแถมจมบ๊วยส่งให้ กลุ่ม อี โอกาสเปิดกว้างต้องไปหาผู้ผ่านเข้ารอบเกมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง คืนวันอาทิตย์ที่ 27 ที่ผ่านมา

สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม

หลุยส์ เอ็นรีเก้ นายใหญ่ทัพ "กระทิงดุ" พาลูกทีมถล่มเอาชนะ คอสตาริกา ขาดลอยถึง 7-0 ในเกมฟุตบอลโลก กลุ่ม อี นัดแรกเมื่อกลางสัปดาห์

ทางด้าน ฮันซี่ ฟลิค นำทัพ "อินทรีเหล็ก" พ่ายแพ้ต่อ ญี่ปุ่น ไปแบบสุดช็อก 1-2 ทั้งๆที่เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน ในศึกฟุตบอลโลก รอบแบ่งกลุ่มเกมเปิดสนามเมื่อวันพุธ

เปิดฉากครึ่งแรก 7 นาที สเปน ทักทายก่อน มาร์โก อเซนซิโอ พาบอลแหวกเข้าในก่อนป้ายออกซ้ายให้ ดานี่ โอลโม่ ได้ช่องปั่นด้วยขวาหน้ากรอบ 18 หลาติดปลายมือ มานูเอล นอยเออร์ ปัดชนคานออกหลัง

นาทีที่ 22 "กระทิงดุ" โหมต่อเนื่องคราวนี้เป็น จอร์ดี้ อัลบา สอดมาเก็บบอลทางซ้ายโยกตัดเข้าในก้มหน้าตะบันยันเสาแรกแหวกบล็อค ธีโล เคห์เรอร์ หลุดออกไปนิดเดียว

30 นาทีผ่าน "อินทรีเหล็ก" ที่เกมนี้จำเป็นต้องเก็บ 3 แต้มรูปเกมเป็นรองครองบอลน้อยกว่ามีจังหวะจบสกอร์แค่ 2 ครั้งแถมยังซัดไม่ตรงกรอบ

นาทีที่ 38 อูไน ซิม่อน ออกบอลพลาดสุดท้ายเป็น แซร์จ นาบรี้ เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวาล็อคตัดเข้าในปั่นด้วยซ้ายกระดอนพื้นผ่านหน้าประตูหลุดออกหลัง

แต่แล้วนาทีที่ 40 กลายเป็น เยอรมนี พลาดโอกาสทองจากจังหวะฟรีคิกทางขวา อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ขยับมาโขกหน้ากรอบ 6 หลากระดอนพื้นตุงตาข่ายเสียดายโดนจับ ล้ำหน้า

หมดครึ่งเวลาแรก สเปน 0 เยอรมนี 0

นาทีที่ 56 "อินทรีเหล็ก" ออกหมัดก่อน อูไน ซิม่อน ออกบอลพลาดอีกแล้วโดน โยชัว คิมมิช ดักฉกมาเข้าทาง อิลคาย กุนโดกัน เบิ้ลย้อนให้ คิมมิช ซัดไปติดเซฟ อูไน ซิม่อน แก้ตัวหวุดหวิด

ต่อมานาทีที่ 62 สเปน ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะประสานงานทางซ้าย จอร์ดี้ อัลบา สอดขึ้นมาครอสบอลเข้าเขตโทษลอดขา ธีโล เคห์เรอร์ ไหลมาหน้ากรอบ 6 หลาเข้าทาง อัลบาโร่ โมราต้า โฉบมาดีดที่เสาแรกตุงตาข่าย

3 นาทีต่อมา "กระทิงดุ" ได้ใจหวิดบวกสกอร์เพิ่ม ดานี่ โอลโม่ เน้นเล่นงานทางฝั่งซ้ายพาจี้มาหน้ากรอบ 18 หลาป้ายเสาในหลุดมาเสาไกลถึง มาร์โก อเซนซิโอ ซัดด้วยซ้ายข้างถนัดข้ามคานน่าผิดหวัง

นาทีที่ 73 เยอรมนี พลาดตีเสมอเหลือเชื่อ ลีรอย ซาเน่ ตัวสำรองพาบอลแหวกตัดเข้าในก่อนแทงถวายพานให้ จามาล มูเซียล่า หลุดกับดักล้ำหน้าเขาเขตโทษฝั่งขวาล่อเป้าไปติดเซฟ อูไน ซิม่อน

แต่แล้วนาทีที่ 83 "อินทรีเหล็ก" มาตามตีเสมอ 1-1 จนได้จากจังหวะประสานงานหน้ากรอบ 18 หลา จามาล มูเซียล่า สอดมาเชื่อมในเขตโทษฝั่งขวาไขว้แฉลบเด้งมาเข้าทาง นิคคลัส ฟัลครูค เก็บงานซัดเสยตาข่ายเสาสองงามหยด

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม สเปน 1 เยอรมนี 1

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

สเปน (4-1-2-3) : อูไน ซิม่อน - ดานี่ การ์บาฆาล, โรดรี, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, จอร์ดี้ อัลบา - เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ - เปดรี กอนซาเลซ, ปาโปล กาบี (นีโก้ วิลเลียมส์ น.66) - เฟร์ราน ตอร์เรส (อัลบาโร่ โมราต้า น.54), มาร์โก อเซนซิโอ (โกเก้ น.66), ดานี่ โอลโม่

เยอรมนี (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - ธีโล เคห์เรอร์ (ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ น.70), นิคลาส ซือเล่, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด เราม์ (นีโค ชล็อทเทอร์เบ็คน.85) - โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์ก้า - แซร์จ นาบรี้ (โยนาส ฮอฟมันน์ น.85), อิลคาย กุนโดกัน ลีรอย ซาเน่ น.70), จามาล มูเซียล่า - โธมัส มุลเลอร์ (นิคคลัส ฟัลครูค น.70)

ผู้ตัดสิน : แดนนี่ มักเคลลี่ (เนเธอร์แลนด์)