คาลิดู คูลิบาลี่ สวมบทฮีโร่ ยิงประตูแรกในนามทีมชาติแถมเป็นประตูสุดสำคัญพาทีม "สิงโตแห่งเตรังก้า" เชือดเก็บชัยสุดมันส์ พร้อมสามแต้มล้ำค่า พา เซเนกัล แซงจบอันดับสองของกลุ่มเอ พร้อมตามหลัง เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 16 ทีม ส่ง เอกวาดอร์ กลับบ้านไปอย่างเจ็บช้ำ ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย กลุ่ม เอ นัด 3 เมื่อวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2565

สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม, อัล รายยาน   

ฟุตบอลโลก2022 รอบสุดท้าย กลุ่ม เอ นัด 3 คู่ระหว่าง เอกวาดอร์ ที่เกมล่าสุดเสมอ เนเธอร์แลนด์ 1-1 ในนัด 2 ทำให้ไม่แพ้มา 5 เกมแล้ว  พบ เซเนกัล ถล่ม กาตาร์ เจ้าภาพ 3-1 ในนัด 2 เป็นการคว้าชัยนัดแรกในรอบ 3 เกม

โดย เอกวาดอร์ ของ กุสตาโว อัลฟาโร่  แกนหลักรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น กอนซาโล่ ปลาต้า, เอ็นเนร์ วาเลนเซีย และ ไมเคิ่ล เอสตราด้า พร้อมลงสนาม 

ส่วน เซเนกัล ของ อลิยู ซิสเซ่ เทรนเนอร์ทีมชาติ ขาดแค่เชกู กูยาเต้  ที่เจ็บ โดยแกนหลักหน้าเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นคาลิดู คูลิบาลี่ กัปตันทีม, เอดูอาร์ เมนดี้, ยุสซุฟ ซาบาลี่  และ อิสไมล่า ซาร์ พร้อมลงสนาม

เริ่มเกมมา 3 นาที เซเนกัล มาเสียวก่อน เมื่อ ปาเป้ กูเอ ได้กดยิงจ่อๆ หน้าประตู แต่เจ้าตัวกลับยิงออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 29 เซเนกัล ที่พยายามโหมบุกใส่ยังเดินหน้าบุกมากกว่า แล้วก็มีเสียวอีกครั้ง เมื่อ อิลิมัน เอ็นเดียเย่ พยายามเข้าชาร์จบอลหน้าประตูแต่โดนบอลไม่เต็มใบเท่าไหร่ ทำให้ เอร์นาน กาลินเดซ รับเข้าซองไม่ยาก

แต่แล้วนาทีที่ 41 แฟนๆ เซเนกัล ได้เฮกันลั่น เมื่อ ปิเอโร่ อินกาปี ไปชน อิสไมล่า ซาร์ ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน กเลม็องต์ ตูร์กแป็ง จากฝรั่งเศส ชี้เป็นลูกจุดโทษทันที

และเป็น อิสไมล่า ซาร์ สังหารเองไม่พลาด ก่อนช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก เอกวาดอร์ ตามหลัง เซเนกัล อยู่ 0-1

เริ่มครึ่งหลังนาทีที่ 49 เอกวาดอร์ พยายามเปิดเกมบุกเพื่อหวังทวงประตูคืนทันที แล้วก็ได้ทักทายก่อนจาก โชเซ่ อโดนี่ ซิฟรวนเตส ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา แต่บอลเบาและตรงตัว เอดูอาร์ เมนดี้ รับไว้ไม่ยาก

แต่แล้วนาทีที่ 68 แฟนๆ เอกวาดอร์ ได้เฮกันลั่น เมื่อได้ลูกเตะมุม กอนซาโล่ ปลาต้า เปิดบอลมาที่เสาแรก เฟลิกซ์ ตอร์เรส โหม่งเช็ดมาให้ มอยเซส ไกเซโด้ ที่ยืนอยู่เสาสองโล่งๆ แปไม่เหลือ พาทีมตามเสมอ 1-1

อย่างไรก็ตามเพียงแค่นาทีที่ 70 เซเนกัล ก็มานำอีกครั้งอีก เมื่อได้ฟรีคิก อิดริสซ่า กาน่า เกย์ เปิดเข้ามาที่หน้าประตู เอ็นเนร์ วาเลนเซีย ที่ลงมาช่วยเกมรับสกัดบอลไม่ดี กลายเป็นตั้งบอลให้ คาลิดู คูลิบาลี่ วิ่งมาวอลเลย์ตูมเดียวหาย พาทีม สิงโตแห่งเตรังก้า นำ 2-1 พร้อมกลับมามีลุ้นเข้ารอบอักครั้ง

ก่อนช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา เซเนกัล จึงเฉือนเอาชนะ เอกวาดอร์ ไปอย่างสุดมันส์ พร้อมสามแต้มสุดสำคัญ พาทีมแซงจบอันดับสองของกลุ่ม ตามหลัง เนเธอร์แลนด์ เข้ารอบ 16 ทีม พร้อมส่ง เอกวาดอร์ กลับบ้านไปอย่างเจ็บช้ำ    

นักเตะตัวจริงของทั้งสองทีม

เอกวาดอร์ (3-4-2-1) : เอร์นาน กาลินเดซ - คาร์ลอส กรูโซ่ (โชเซ่ อโดนี่ ซิฟรวนเตส น.46), เฟลิกซ์ ตอร์เรส, ปิเอโร่ อินกาปี - อังเคโล่ เปรเซียโด้ (แจ็คสัน โปโรโซ่ น.85), อลัน ฟรังโก (เฌเรมี่ ซาร์เมียนโต้ น.46), มอยเซส ไกเซโด้, เปร์วิส เอสตูปิญาน - กอนซาโล่ ปลาต้า, เอ็นเนร์ วาเลนเซีย - ไมเคิ่ล เอสตราด้า (จอร์เกฟฟ์ เรอัสโซ่ น.64)

เซเนกัล (4-4-2) : เอดูอาร์ เมนดี้ - ยุสซุฟ ซาบาลี่, คาลิดู คูลิบาลี่, อับดู ดิยัลโล่, อิสมาอิล จาค็อบส์ - อิสไมล่า ซาร์,อิลิมัน เอ็นเดียเย่ (บัมบา เดียง น.75), อิดริสซ่า กาน่า เกย์,ปาเต ซิส (นัมปาลิส เมนดี้ น.75)- บูลาย เดีย (ปาเป้ อาบู ซิสเซ่ น.90+5), ปาเป้ กูเอ

ผู้ตัดสิน : กเลม็องต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส)