รอบบี้ ฟาวเลอร์ กางปีกป้อง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่กำลังโดนด่าว่าหิวเงินจนอยากไปทำงานที่ ซาอุดี อาระเบีย โดยบอกว่าแปลกใจที่หลายคนอ่อนไหวเวลานักเตะเลือกย้ายทีมเพราะเรื่องค่าเหนื่อย ขณะเดียวกันก็บอกว่า เจอร์ราร์ด แค่อยากพิสูจน์ตัวเองกับอาชีพการเป็นกุนซือเท่านั้น

รอบบี้ ฟาวเลอร์ ตำนานกองหน้าของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวปกป้อง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หลังทั้งคู่โดนตำหนิว่าเลือกไปทำงานในซาอุดีอาระเบียเพราะเรื่องเงินเป็นหลัก

ตลอดช่วงที่ผ่านมาทีมในศึก ซาอุดี โปรลีก ต่างก็ทุ่มเงินเป็นจำนวนมากเพื่อจะเอานักเตะและกุนซือจากทีมในทวีปยุโรปไปร่วมงานกันหลายราย โดยที่ เจอร์ราร์ด ไปรับงานกับ อัล-เอตติฟาค เรียบร้อยแล้ว และมีกระแสข่าวลือว่า เฮนเดอร์สัน ก็กำลังได้รับความสนใจจากทีมดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวทำให้ทั้ง เจอร์ราร์ด และ เฮนเดอร์สัน โดนบางคนตำหนิอย่างหนัก หลังจาก เจอร์ราร์ด เคยบอกว่าไม่ได้คิดที่จะไปรับงานกับที่นั่น ขณะที่ เฮนเดอร์สัน เคยแสดงท่าทีสนับสนุนกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ซึ่งที่ ซาอุดี อาระเบีย มีนโยบายเชิงกีดกันคนกลุ่มนั้น และมันก็ทำให้ทั้งคู่โดนตำหนิว่าหิวเงินจนเลือกไปทำงานกับที่นั่น

ฟาวเลอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นกุนซือของ อัล-คาดเซียห์ ทีมในศึก เฟิร์สท์ ดิวิชั่น หรือลีกระดับ 2 ของประเทศซาอุดี อาระเบีย กล่าวว่า  "ผมไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมเรื่องค่าเหนื่อยของนักเตะถึงเป็นประเด็นที่มันน่าอ่อนไหวกันนัก เวลาที่พวกมหาเศรษฐีพันล้านได้เงินกันมากมายก่ายกองน่ะผมไม่เคยเห็นใครออกมาตั้งคำถามกันเลย"

"เอาให้ชัดเจนกัน 1 เรื่องเลยนะ ผมจะไม่ตำหนิ จอร์แดน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด หรือใครก็ตามที่ไปหากินใน ซาอุดี อาระเบีย หรือใครก็ตามที่คิดจะทำแบบนั้น ที่ผมออกมาพูดแบบนี้มันไม่ใช่เพราะผมเองก็รับเงินก้อนโตเหมือนกันแน่นอน ไม่ใช่เลย อย่างที่ผมอธิบายไปก่อนหน้านี้ว่าผมรับงานกับทีมในลีกที่ต่ำว่า ซาอุดี โปรลีก ก็เพราะผมมีความทะเยอทะยานที่จะเป็นกุนซือ เป็นเพราะผมอยากจะพิสูจน์ตัวเอง"

"แน่นอนว่าผมรู้จัก จอร์แดน เป็นอย่างดี และเติบโตมาพร้อมๆ กับ สตีวี่ ด้วย ผมคิดว่า สตีวี่ ก็เหมือนกับผมนี่แหละ เขาอยากทำงานกุนซือ เขาอยากพิสูจน์ตัวเอง แต่มันก็ไม่มีข้อเสนอที่เหมาะสมยื่นเข้ามาหาเขาในตอนที่เขาออกจาก แอสตัน วิลล่า"

"อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาได้รับการสนับสนุนจากสโมสรใหญ่ จากลีกที่อยากพัฒนาตัวเองไปเป็นหนึ่งในลีกที่ดีขึ้นของโลกนี้ มันถือเป็นโอกาสทองสำหรับกุนซือที่มีความทะเยอทะยานที่จะไปสู่ระดับสูงๆ ให้ได้"