จากสถานการณ์ล่าสุดของฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2023/24 หลังผ่านพ้นไป 12 นัดก่อนเข้าสู่ช่วงเบรกเกมทีมชาติหนล่าสุด แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่านำหน้าเป็นจ่าฝูงของตารางโดยทุกสโมสรลิ้มรสความพ่ายแพ้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กว่าที่จะเข้าสู่ช่วงฟีฟ่าเดย์อีกหนซึ่งเป็นหนสุดท้ายของซีซั่นนี้ ทุกสโมสรจะได้พะบู๊กันอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้าซึ่งจะไม่มีข้ออ้างอีกแล้วว่าโปรแกรมทีมชาติเป็นอุปสรรคจนทำให้ทีมได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นในแง่ผลงานของสโมสรที่ขาดช่วง หรือว่านักเตะได้รับบาดเจ็บจากการรับใช้แผ่นดินเกิด

และที่สำคัญ ในสุดสัปดาห์นี้ซึ่งศึก พรีเมียร์ลีก จะกลับมาฟาดแข้งกันอีกยก แมนฯ ซิตี้ ต้องเปิดรังบู๊กับ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงที่มีแต้มตามหลังแค่แต้มเดียวเท่านั้นจนทำให้น่าลุ้นระทึกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งหัวตารางหรือเปล่า

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เอ็กซ์เพรส สื่ออิงลิชได้จัดทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ณ ถึงขณะนี้ออกมาซึ่งพวกเขายกให้ สเปอร์ส เป็นทีมที่มีผลงานดีที่สุดด้วยการใช้ชื่อนักเตะ ไก่เดือยทอง เอาไว้ในโผมากถึงสี่รายด้วยกัน

- ผู้รักษาประตู : กูเยลโม่ วิคาริโอ

ก่อนจะย้ายมาเฝ้าเสาให้กับ สเปอร์ส เชื่อแน่ว่าสาวกลูกหนังอังกฤษไม่น่าจะมีใครรู้จักอดีตมือกาวทีม เอ็มโปลี รายนี้มาก่อน

จนในที่สุด พวกเขาได้เห็นถึงคุณภาพของผู้รักษาประตูทีมชาติ อิตาลี วัย 27 ปีแล้วจากผลงานที่เขาแสดงให้เห็นกับทีม ไก่เดือยทอง

เพียงแค่ 12 เกมแรกในลีกเมืองผู้ดี มันมากพอที่จะบ่งบอกได้ว่า วิคาริโอ สามารถปรับตัวกับฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ตลอดจนการใช้ชีวิตในลอนดอนได้อย่างไม่มีปัญหาหลังได้รับภาระสำคัญสืบแทน อูโก้ โยริส

- กองหลัง : คีแรน ทริปเปียร์ , วิลเลี่ยม ซาลิบา , มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน , เดสตินี่ อูโดกี้

นับจากซีซั่นก่อนมาถึงซีซั่นนี้ ทริปเปียร์ ยังโชว์ฟอร์มให้กับ นิวคาสเซิ่ล ได้ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลายในฐานะหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค โดยซีซั่นนี้ขุนพลทีมชาติ อังกฤษ จัดแอสซิสต์ให้กับ สาลิกาดง ไปแล้วหกลูก

ด้าน ซาลิบา พิสูจน์ให้ อาร์เซน่อล เห็นว่าทีมไม่อาจปราศจากเขาในแผงหลังได้ ขณะที่ ฟาน เดอ เฟน กับ อูโดกี้ ก็เป็นสองกองหลังที่มีผลงานน่าจับตาใน พรีเมียร์ลีก

ถึงกระนั้นให้น่าเห็นใจ สเปอร์ส ไม่น้อยที่ปราการหลังทีมชาติ ฮอลแลนด์ เจ้าของค่าตัว 43 ล้านปอนด์ที่ย้ายมาจาก โวล์ฟสบวร์ก เมื่อช่วงซัมเมอร์ล้มเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังไปซะแล้วในเกมบุกไปแพ้ เชลซี ขณะที่ อูโดกี้ ฟูลแบ็คทีมชาติ อิตาลี มีใบแดงแรกในลีกอิงลิชติดตัวแล้วจากเกมเดียวกัน

อันที่จริง มีกองหลังหลายรายที่สมควรอยู่ในทีมชุดนี้ทั้ง โยอาคิม อันเดอร์เซ่น กับ มาร์ค เกฮี สองดาวเตะทีม คริสตัล พาเลซ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม ลิเวอร์พูล ที่กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกหนในซีซั่นนี้

- กองกลาง : โรดรี้ , เดแคลน ไรซ์ , เจมส์ แมดดิสัน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โรดรี้ มีอิทธิพลสูงลิบในทีม แมนฯ ซิตี้ ดังจะเห็นว่า เรือใบสีฟ้า แทบเป็นอีกทีมในยามไม่มีพ่อค้าแข้งทีมชาติ สเปน เพราะหลังจากเขาโดนไล่ออกในเกมเปิดรังสยบ ฟอเรสต์ 2-0 แชมป์เมืองผู้ดีก็แพ้เกมลีกสองนัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 ในเกมออกไปพ่าย วูล์ฟส์ 2-1 และแพ้ อาร์เซน่อล 1-0 ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

นอกจาก โรดรี้ จะเป็นขุนพลคนสำคัญของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แล้ว เจมส์ แมดดิสัน ก็สถาปนาตัวเองเป็นหัวใจสำคัญของ สเปอร์ส เช่นกันหลังย้ายมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ โดยมิดฟิลด์ทีมชาติ  อังกฤษ มีผลงานยิงได้สามประตูและห้าแอสซิสต์กับสโมสรในกรุงลอนดอนจากการลงเล่นเกมลีก 11 นัดของเขา

ดังจะเห็นว่าหลังล้มเจ็บในเกมพ่าย เชลซี คารัง  สเปอร์ส ที่ไร้ แมดดิสัน ก็แพ้เกมลีกเป็นนัดที่สองต่อเนื่องทันทีนัดบุกไปเสียท่าให้ วูล์ฟส์ 2-1

ด้าน ไรซ์ แสดงให้เห็นว่า อาร์เซน่อล ตัดสินใจไม่ผิดที่ยอมทุ่มเงิน 105 ล้านปอนด์คว้าเขามาจาก เวสต์แฮม สโมสรร่วมเมืองโดยสตาร์ทีมชาติ อังกฤษ เบียดมิดฟิลด์ชั้นยอดด้วยกันอย่าง โดมินิก โซโบซไล , แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ อีฟส์ บิสซูม่า มาอยู่ในโผนี้ได้สำเร็จ

- กองหน้า : โม ซาลาห์ , เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ , โอลลี่ วัตกิ้นส์

เป็นอีกซีซั่นที่ ฮาลันด์ นำหน้าในตารางดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก จากจำนวน 13 ประตูซึ่งชี้ให้เห็นว่าสตาร์ทีมชาติ นอรเวย์ พร้อมทำลายล้างคู่แข่งทุกรายของ แมนฯ ซิตี้ เช่นเดิม

ขณะเดียวกัน ซาลาห์ ก็ไม่ได้น้อยหน้าเมื่อหัวหอกทีมชาติ อียิปต์ เช็กบิลให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 10 ประตูจาก 12 เกมแรก แถมยังจัดแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมสี่เม็ดอีกด้วย

สำหรับ แอสตัน วิลล่า นับตั้งแต่ย้ายมาคุมทีมลูกหนังแห่งมิดแลนด์ อูไน เอเมรี่ ปลุกปั้น วัตกิ้นส์ ได้อย่างน่าดูชมโดยหัวหอก สิงห์ผงาด ซัดไปแล้วหกประตูกับอีกห้าแอสซิสต์จนทำให้เขาเบียด ซน ฮึง มิน กับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ มาอยู่ในแผงหัวหอกของทีมชุดนี้ได้อย่างสง่าผ่าเผย