มาชาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นที่ก้าวเข้ามารับงานคุมทีมชาติไทย ในช่วงเดือนธันวาคม 66 ที่ผ่านมาอย่างเต็มตัว ซึ่งถูกวางตัวให้คุมทัพในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติทวีปเอเชียรายการ เอเชียน คัพ 2023 ผลงานเกมแรกโค้ชชาวญี่ปุ่นรายนี้สร้างความประจักษ์ในยุทธวิธีการเล่นรวมไปถึงสร้างความประทับใจต่อแฟนบอลชาวไทยเป็นอย่างดีด้วยการเอาชนะคีร์กีซสถาน 2-0 ทำให้โอกาสเข้ารอบน็อคเอาท์เปิดกว้าง

เกมการแข่งขันในวันที่ 21 มกราคม 67 ที่ทีมชาติไทยจะลงสนามพบกับทีมชาติโอมานถือว่าเป็นเกมสำคัญหากใครเก็บได้อย่างน้อย 1 คะแนนจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลรายการนี้ทันทีที่สำคัญ  มาชาทาดะ อิชิอิ ที่รับงานทีมชาติครั้งแรกในชีวิตจะกลายเป็นกุนซือเอเชียคนแรกของทีมชาติไทยที่ไม่ใช่คนไทยที่พาทีมเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ และเป็นกุนซือคนที่ 3 ที่พาทีมเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ฟุตบอล เอเชียน คัพ

โดยก่อนหน้านี้ทีมชาติไทยลงทำการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพรอบสุดท้าย 7 ครั้งสามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้ 2 ครั้งซึ่งจำนวนทีมในรอบสุดท้ายที่ทำการแข่งขันแตกต่างจากกันไปตามรูปแบบของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย

1972 กุนเธอร์ กลอมบ์ (เยอรมัน) รอบสุดท้ายมี 6 ทีม
2019 ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย(ไทย) รอบสุดท้ายมี 24 ทีม

นอกจากนั้นหากทีมชาติไทยสามารถเก็บชัยชนะเหนือโอมานในเกมสำคัญนี้ได้ มาชาทาดะ อิชิอิ จะกลายเป็นกุนซือที่พาทีมชาติไทยเก็บชัยชนะได้มากที่สุดในเรื่องของจำนวนเกมสำหรับการแข่งขัน เอเซียน คัพ รอบสุดท้าย

1972 กุนเธอร์ กลอมบ์ (เยอรมัน) : ชนะ 1 เสมอ 1
1992  ปีเตอร์ สตูปเป้ (เยอรมัน) : เสมอ 2
2000 ปีเตอร์ วิธ (อังกฤษ) : เสมอ 2
2007 ดร.ชาญวิทยฺ ผลชีวิน : ชนะ 1 เสมอ 1
2019 ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย : ชนะ 1 เสมอ 1