"จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ งัดฟอร์มหรูบุกไปยำ สโต๊ค ซิตี้ ขาดลอย 5-0 แพทสัน ดาก้า ควงสำรอง เจมี่ วาร์ดี้ คนละสองตุง พา "เดอะ ฟ็อกซ์" รั้งจ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพต่อไป แข่ง 30 นัด มีเพิ่ม 72 คะแนน ทิ้งอันดับ 2 "นักบุญ" 11 แต้ม แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด โอกาสเลื่อนชั้นกลับพรีเมียร์ลีกสดใส

ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันนัดที่ 30 เจ้าบ้าน สโต๊ค ซิตี้ เปิด เบท 365 สเตเดี้ยม รับมือจ่าฝูง เลสเตอร์ ซิตี้

เปิดฉากครึ่งแรกมาได้ 27 นาที "จิ้งจอกสยาม" ทะยานขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะขึ้นทางซ้าย เคียร์แนน ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ ตักบอลไปเสาไกลให้ อับดูล ฟาตาวู โขกชงเข้ากลางถึง แพทสัน ดาก้า เข้าชาร์จเผาขนด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ

จากนั้นอีกสามนาทีถัดมา ผ่านไปครึ่งชั่วโมงพอดี เลสเตอร์ ซิตี้ หนีห่างออกไปเป็น 2-0 อย่างรวดเร็วจาก ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ จ่ายเข้ากลางให้ เคซี่ย์ แม็คคาเทียร์ พลิกซัดนอกกรอบไปแฉลบ เบน วิลม็อต เซ็นเตอร์แบ็กของสโต๊คเปลี่ยนทางเข้าไป ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาที 64 เลสเตอร์ มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง จอร์แดน ธอมป์สัน แนวรับเจ้าถิ่นไปฟาวล์ใส่ เวาต์ ฟาส ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันทีก่อนที่ แพทสัน ดาก้า จะรับหน้าที่สังหารยิงเข้าไปไม่พลาดให้ "เดอะ ฟ็อกซ์" นำโด่ง 3-0 และเป็นประตูที่สองของหัวหอกทีมชาติแซมเบียก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกแล้วส่ง เจมี่ วาร์ดี้ ลงมาเล่นแทนจากนั้นอีกสามนาทีถัดมา ผ่านไปครึ่งชั่วโมงพอดี เลสเตอร์ ซิตี้ หนีห่างออกไปเป็น 2-0 อย่างรวดเร็วจาก ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ จ่ายเข้ากลางให้ เคซี่ย์ แม็คคาเทียร์ พลิกซัดนอกกรอบไปแฉลบ เบน วิลม็อต เซ็นเตอร์แบ็กของสโต๊คเปลี่ยนทางเข้าไป ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์นี้

และเพียงแค่ 3 นาที ดาวยิงวัย 37 ปี ก็แผลงฤทธิ์จนได้เมื่อสับไกยิงให้ เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมานำ สโต๊ค ซิตี้ ถึง 4-0

ช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 90+7 เลสเตอร์ มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง เคียร์แนน ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ โดน ไมเคิ่ล โรส เข้าฟาวล์ก่อนจะเป็น เจมี่ วาร์ดี้ สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ เลสเตอร์ นำโด่ง 5-0 และเป็นประตูที่สองของ วาร์ดี้ ในเกมนี้

จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกชนะ สโต๊ค ซิตี้ ขาดลอย 5-0 รั้งจ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพต่อไป โดยแข่ง 30 นัด มีเพิ่ม 72 คะแนน ทิ้งอันดับ 2 "นักบุญ" 11 แต้ม แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด โอกาสเลื่อนชั้นกลับพรีเมียร์ลีกสดใส

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สโต๊ค (4-3-3) : แจ็ค บอนแฮม - คี-ยาน่า ฮูเฟอร์, เบน วิลม็อต, ไมเคิ่ล โรส, จอร์แดน ธอมป์สัน - ลุค คันเดิล, เบน เพียร์สัน, วูเตอร์ เบอร์เกอร์ - เมห์ดี้ เลริส, ไทรีส แคมป์เบลล์, ลินเดน กูช

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : มัดส์ เฮอร์มานเซ่น - ริคาร์โด้ เปเรร่า, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, เวาต์ ฟาส, คัลลัม ดอยล์ - แฮร์รี่ วิงส์, เคียร์แนน ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ - อับดูล ฟาตาวู, เคซี่ย์ แม็คคาเทียร์, สเตฟี่ มาวิดิดี้ - แพทสัน ดาก้า