โรดรี้ทำประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกมขณะที่แชมป์เปี้ยนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถูกบังคับให้ต้องเสมอกัน 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกที่พบกับเชลซี

ราฮีม สเตอร์ลิง ทำให้สโมสรเก่าของเขาต้องตะลึงเมื่อเขายิงให้ทีมเยือนขึ้นนำก่อนครึ่งแรกในการเผชิญหน้าอันดุเดือดที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อเย็นวันเสาร์

แต่ซิตี้จำเป็นต้องตอบสนองต่อชัยชนะของคู่แข่งอย่างลิเวอร์พูลและอาร์เซนอลในช่วงเช้าของวัน ต่อสู้กลับและสร้างโอกาสต่อเนื่องก่อนที่โรดรีจะพบตาข่ายในที่สุดหลังจาก 83 นาที

ความพยายามอันทรงพลังของเขาได้รับการต้อนรับด้วยความโล่งใจอย่างมากรอบๆ สนาม รวมถึงเพื่อนร่วมทีมอย่างเออร์ลิง ฮาแลนด์ หลังจากพลาดอย่างเห็นได้ชัด

ยังมีเวลาดราม่าต่อไปด้วยการเช็คจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของแฮนด์บอลกับ ลีวาย โคลวิลล์ แต่ไม่ได้อะไรกลับมา

แม้ว่าซิตี้จะช่วยได้ แต่ผลการแข่งขันก็จบลงด้วยชัยชนะ 11 เกมในทุกรายการ และทำให้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าอยู่อันดับสามของตาราง โดยมีแต้มห่างจากจ่าฝูงอยู่สี่แต้ม

แม้จะมีฝนตกหนัก แต่ซิตี้ก็ออกสตาร์ตได้อย่างสดใสโดยจูเลี่ยน อัลวาเรซขู่สองครั้ง แต่เชลซีก็ดูอันตรายเช่นกัน และคอเนอร์ กัลลาเกอร์เปิดเกมรับก่อนจะจ่ายบอลผิดตำแหน่ง

ฮาแลนด์มุ่งหน้าตีโอกาสแรกของคืนก่อนที่สเตอร์ลิงจะปล่อยให้ซิตี้หลุดจากเบ็ดเมื่อเขายิงใส่เอเดอร์สันอย่างเชื่องหลังจากเอาชนะมานูเอลอาคันจิ

Erling Haaland พลาดโอกาสหลายครั้ง Erling Haaland พลาดโอกาสหลายครั้ง
เชลซีเข้าใกล้อีกครั้งเมื่อกัลลาเกอร์เลือกอดีตนักเตะซิตี้อีกคนอย่างโคล พาลเมอร์ในกล่อง แต่นาธาน อาเก้ปฏิเสธเขาด้วยการท้าทายที่ดี

ผู้มาเยือนเสียโอกาสที่ดีกว่าเมื่อ Malo Gusto วิ่งไปบนลูกบอลของ Palmer และส่ง Nicolas Jackson ทะลุเข้าประตู แต่การสัมผัสที่ไม่ดีทำให้ Ederson อ้างจากเท้าของเขา

ดูเหมือนว่าเชลซีอาจจะต้องชดใช้ให้กับการพลาดเหล่านั้นเมื่อเจเรมี โดคูสร้างโอกาส แต่เขายิงตรงไปที่ยอร์ดเย เปโตรวิช

ในที่สุดชาวลอนดอนก็นับโอกาสสามนาทีก่อนพักครึ่งขณะที่พาลเมอร์ปล่อยแจ็คสันด้วยบอลธรรมดาและเขาก็หยิบสเตอร์ลิงออกมาหน้าประตู

อดีตกองหน้าซิตี้ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากเมื่อไคล์ วอล์คเกอร์เข้ามาประชิด แต่เขายิงฟูลแบ็กด้วยเท้าผิดด้วยการตัดแบ็ค จากนั้นจึงโค้งผ่านเอแดร์สันอย่างมั่นใจ

Advantage Man City ?#UCL pic.twitter.com/VDxLKzYUZ7

— UEFA Champions League (@ChampionsLeague) February 13, 2024

การเฉลิมฉลองของเขาเงียบไป แต่เขาทำมากพอที่จะทำให้ซิตี้มีชีวิตขึ้นมา และฮาแลนด์น่าจะทำประตูได้ในขณะที่เชลซีพยายามดิ้นรนเพื่อเคลียร์ลูกเตะมุมแต่โหม่งบอลไป

เจ้าบ้านเริ่มต้นช่วงที่สองอย่างแข็งแกร่งเมื่อเควิน เดอ บรอยน์ยิงฟรีคิกอย่างหวุดหวิด และฮาแลนด์ก็โหม่งบอลกว้างตามหลังโต้กลับอย่างรวดเร็ว

วอล์คเกอร์ยังต้องการจุดโทษหลังจากยุ่งกับสเตอร์ลิง แต่ผู้ตัดสินแอนดรูว์ แมดลีย์ทำฟาวล์ในทิศทางตรงกันข้าม

เชลซีดูเหมือนจะขึ้นนำเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนเมื่อกุสโต้จ่ายบอลให้สเตอร์ลิงเพื่อพบกับลูกยิงอันทรงพลังในครั้งแรก แต่เอเดอร์สันเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเท้าของเขาในระยะเผาขน

Raheem Sterling ของเชลซี เฉลิมฉลองการทำประตูเปิด Raheem Sterling ของเชลซี เฉลิมฉลองการทำประตูเปิด
ซิตี้เพิ่มความกดดันโดยโฟเดนและฮาลันด์ทั้งคู่ถูกบล็อกการยิงก่อนที่โรดรีจะระเบิด

ฮาแลนด์เซฟบอลได้ดีจากเปโตรวิช จากนั้นเสียโอกาสอันรุ่งโรจน์เมื่อเขาโหม่งบอลจากระยะ 6 หลาจากลูกครอสของเดอ บรอยน์

ในที่สุดการต่อต้านของเชลซีก็พังทลายลงจากเวลาเจ็ดนาทีเมื่อวอล์คเกอร์ยิงกระดอนเข้าหาเส้นทางของโรดรี้และผู้ชนะในนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกก็ส่งเสียงฟ้าร้องด้วยอีควอไลเซอร์ด้วยความช่วยเหลือของการโก่งตัว

ช่วงปิดการแข่งขันเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่เชลซีก็ยังสู้ต่อได้ แม้จะมีช่วงเวลาที่น่ากังวลเมื่อ VAR ตรวจสอบแฮนด์บอลกับโคลวิลล์