ลิเวอร์พูล แสดงความเป็นผู้ใหญ่ และ แม็คอัลลิสเตอร์ ร่างทอง
Posted 02/04/2024 by siamsport
ช่วงที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นข่าวกับลิเวอร์พูลแรง ๆ มีบทวิเคราะห์หลายชิ้นพูดถึงกองกลางไบรท์ตันเอาไว้ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนที่ลิเวอร์พูลต้องการ
เพรสซิ่งดี เอาตัวรอดได้ แย่งบอลเก่ง ฉลาด มีบอลขึ้นหน้าเป็นอาวุธทั้งการพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ช่วยเกมรุกหรือทำประตูได้ รวมทั้งการปล่อยบอลที่มีประสิทธิภาพ
สถิติส่วนตัวโดดเด่นทั้งเกมรับและเกมรุก
เราได้เห็นมันทั้งหมดในเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นเกมที่ดีที่สุดหรืออย่างน้อยก็หนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของกองกลางทีมชาติอาร์เจนติน่าในชุดหงส์แดง
คว้าแมนออฟเดอะแมตช์ไปครองจากทุกสำนัก
ใครที่ได้ดูเกมตลอด 90 นาทีคงเห็นคล้าย ๆ กันนะครับว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่นได้ดีจริง ๆ เยือกเย็น ไม่ตื่นเต้น ควบคุมสถานการณ์ได้ และการปล่อยบอลที่ราวกับกำลังแสดงโชว์ดี ๆ ให้คนดูได้ทึ่ง
บอลขึ้นหน้าของเขาสร้างโอกาสให้ทีมตลอดเวลา ทั้งแม่นยำและอันตรายด้วยทิศทางของมันพุ่งเข้าหาประตู น้ำหนักเป๊ะราวกับเอามือประคองบอลไปบรรจงวางให้เพื่อน
หลังจากที่เริ่มปรับตัวเข้ากับรูปแบบการเล่นของทีมได้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็ปล่อยคุณภาพของตัวเองออกมาเรื่อย ๆ จนเมื่อมารู้ตัวอีกทีก็เป็นหนึ่งในกองกลางที่ผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในลีกไปแล้ว ฟอร์มของเขาตอนนี้หยุดไม่อยู่จริง ๆ
การให้บอลของแม็ค อัลลิสเตอร์ นำมาซึ่งประตูชัยของลิเวอร์พูลในครึ่งหลังจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และยังมีอีกหลายครั้งที่บอลจากเท้าของเขาสร้างโอกาสทำประตูให้ทีมในทันทีโดยเฉพาะการวางบอลข้ามแนวกองหลัง
แม็คก้ากำลังเล่นฟุตบอลอย่างมั่นใจ
ในความกดดันที่ถาโถม เกมบังคับที่ต้องสามคะแนนเท่านั้นไม่มีทางเลือกอื่นและต้องเจอกับคู่แข่งที่อันตราย แม็ค อัลลิสเตอร์รับมือกับอุปสรรคเหล่านั้นได้ดี สำนักข่าวหลายแห่งให้คะแนนความสามารถเขาไม่ต่ำกว่า 9 เต็ม 10
การขยับเข้าพื้นที่รับบอลจาก โดมินิก โซโบซไล ที่ฉีกไปเอาบอลทางริมเส้นฝั่งขวาทำให้ผู้เล่นไบรท์ตันรับมือไม่ทัน เช่นเดียวกับการผ่านบอลทะลุช่องให้ ซาลาห์ ที่ย่องมารับบอลตรงพื้นที่ว่างในเขตโทษก่อนสับไกยิงเน้น ๆ เข้าเสาไกล
มันคือการสร้างโอกาสที่สมบูรณ์แบบของลิเวอร์พูล โซโบ-แม็คก้า-จบที่ซาลาห์
เจอไบรท์ตันเกมนี้ไม่ใช่งานง่าย ด้วยแรงกดดันก่อนเกมมหาศาล การที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล มีโปรแกรมตัดแต้มกันเองทำให้ลิเวอร์พูลที่ลงสนามก่อนควรเก็บสามคะแนนให้ได้เพื่อฉวยกำไรแน่ ๆ ไว้ในมือ
แต่ไบรท์ตันเป็นทีมชั้นดี ดีทั้งผู้เล่น ดีทั้งผู้จัดการทีมที่เป็นหนึ่งในตัวเต็งเข้ามารับงานต่อจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ อีกทั้งสถิติการพบกันในช่วงหลังลิเวอร์พูลยังเป็นรองเดอะซีกัลล์ส เมื่อเอาชนะไม่ได้มา 4 เกมติดต่อกันแล้ว แถมเล่นในแอนฟิลด์ 3 ครั้งหลังสุดก็ยังเข่นอาคันตุกะจากแดนใต้ไม่ลง
ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นโปรแกรมเตะหลังเกมทีมชาติ การหายจากเกมลีกมาเกือบ 2 สัปดาห์ทำให้ต้องปรับจูนเครื่องกันใหม่อยู่เหมือนกัน แม้อีกฝ่ายจะต้องเจอกับเงื่อนไขเดียวกันก็จริงแต่ด้วยโจทย์ที่ต้องชนะเท่านั้นเงื่อนไขนี้จึงกระทบลิเวอร์พูลมากกว่า
เรามองเห็นความเกร็งในทีมลิเวอร์พูลอยู่เหมือนกันนะครับ หลาย ๆ จังหวะผ่านบอลกันขาด ๆ เกิน ๆ การประสานงานในแดนหน้ายิ่งหายไปเลย
ซาลาห์ กับ ดาร์วิน นูนเญซ แทบไม่ได้ส่งบอลให้กัน มีโอกาสทองก็ยังคร่อมจังหวะกันตอนที่ซาลาห์หลุดเข้าเขตโทษทางขวา กำลังจะไหลให้ดาร์วินพุ่งเข้ายิงในกรอบ 6 หลากลางประตูอยู่แล้วแต่หัวหอกอุรุกวัยกลับเลือกชะลอ ถอนตัวเองมารับบอล โอกาสจึงหลุดลอยไป ส่วน หลุยส์ ดิอาซ ก็ฉายเดี่ยวมากเป็นพิเศษ
ซาลาห์ดูโรยไปจากที่เคยในครึ่งแรก จังหวะที่เคยชัวร์กลับไม่ชัวร์ การเล่นที่เคยแน่นอนก็กลายเป็นไม่แน่นอน มีความรีบร้อนในจังหวะสุดท้ายที่ทำให้บอลไม่สมบูรณ์อย่างที่เคยเป็นตัวเขา
กระนั้นประตูตีเสมอ 1-1 ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากเขาที่โถมเข้าโหม่งบอลสวนกลับเข้าไปในเขตโทษก่อนที่ ดิอาซ จะพุ่งชาร์จตุงตาข่าย และเมื่อได้ตั้งหลักกันใหม่ในช่วงพักครึ่ง ซาลาห์ก็กลับมาเล่นในครึ่งหลังด้วยจังหวะที่ดีขึ้น
การเป็นคนทำประตูชัย 2-1 ยืนยันกับเราอีกครั้งว่าในท้ายที่สุดแล้ว ซาลาห์ก็ยังเป็นคนที่ทีมสามารถมอบความไว้วางใจได้มากที่สุดอยู่ดี
เกมนี้ไบรท์ตันเองก็วางแผนการเล่นมาพร้อม อดทนและมีวินัยในเกมรับ ไม่เปิดหน้าแลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉวยโอกาสทำประตูขึ้นนำได้ก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 2
ทีมของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงแลก แต่อาศัยการช่วยกันเล่นอย่างแน่นหนาในแดนตัวเอง พุ่งเข้าถึงตัวทันทีที่บอลข้ามเส้นครึ่งสนามเข้ามา และเมื่อแย่งบอลได้หรือเก็บตกบอลจังหวะสองได้ก็เล็งโจมตีพื้นที่ว่างที่ลิเวอร์พูลเปิดให้
ตำแหน่งแบ๊กขวาของ คอเนอร์ แบร๊ดลี่ย์ คือจุดยุทธศาสตร์ที่ไบรท์ตันเล็งไว้ เพราะวิธีการเล่นของแบร๊ดลี่ย์ทำให้มันต้องเป็นอย่างนั้น
แบ๊กขวาดาวรุ่งชาวไอร์แลนด์เหนือเติมเกมบุกแบบสุดทาง เค้นศักยภาพเกมรุกออกมาอย่างเต็มที่และก็ทำได้ดีมากด้วย แย่งบอลเก่ง ดุดัน ขยัน ขยับตัวตลอดเวลา เติมสวย ๆ ให้เพื่อนมองเห็นหลายครั้ง
มันต้องแลกมาด้วยพื้นที่ด้านหลังที่เขาทิ้งเอาไว้ ถามว่าเสี่ยงไหมมันเสี่ยงแน่นอนแต่ลิเวอร์พูลต้องพบกับสถานการณ์แพ้หรือเสมอไม่ได้และตอนนั้นทีมตกเป็นฝ่ายตามหลังไปแล้ว ผู้เล่นไบรท์ตันถอยลงไปตั้งรับในแดน แบร๊ดลี่ย์จึงต้องเติมขึ้นไปเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมให้เพื่อนในเกมบุก
จาเรลล์ ควอนซาห์ กับ วาตารุ เอนโด มีภารกิจเพิ่มขึ้นที่ต้องอ่านเกมให้ขาดในพื้นที่แบ๊กขวาที่แบร๊ดลี่ย์ทิ้งเอาไว้ในการเติมเกมบุกด้วย ทั้งคู่ต้องเข้าไปชะลอเกมหรือขัดขวางการบุกตรงนั้นยามผู้มาเยือนได้โอกาสสวนกลับ
มันก็แลกกันหวาดเสียวทีเดียว เพราะไบรท์ตันจ้องเล่นงานพื้นที่นั้นเขม็งและทำได้น่ากลัวในหลาย ๆ จังหวะ
เกมที่แอนฟิลด์เมื่อคืนวันอาทิตย์อาจไม่ใช่เกมที่ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มประทับใจที่สุด แต่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ ควบคุมผลการแข่งขันได้ เกมนี้สามคะแนนมาก่อนความสวยงามหรือสกอร์ถล่มทลาย
ช่วงท้ายเกมโดยเฉพาะนาทีท้าย ๆ ตอนทดเวลา นักเตะหงส์แดงไม่เล่นเสี่ยงกันแล้ว แม้จะมีโอกาสแทงบอลขึ้นหน้าแต่ถ้าไม่ใช่จังหวะที่หวังผลได้ระดับ 80-90 เปอร์เซนต์พวกเขาเลือกเก็บบอลไว้กับตัวด้วยการส่งผ่านให้กันไปมามากกว่า
ประตูที่สามเพื่อฝังให้เกมขาดก็อยากได้อยู่หรอก แต่การไม่เสียประตูตีเสมอสำคัญกว่า ทุกคนจึงต้องเล่นด้วยสติ ด้วยสมาธิ ด้วยความอดทน คิดถึงผลลัพธ์ใหญ่คือชัยชนะไว้ก่อน
นักเตะก็ลุ้น กองเชียร์ก็ลุ้นไปด้วยแบบตัวโก่ง เชื่อว่าเดอะค็อปเกือบทุกคนนั่งกัดเล็บนิ้วหงิกเกร็งด้วยความเครียดในช่วง 10 นาทีสุดท้ายกันทั้งนั้น
สามแต้มนี้ใหญ่.. มหาศาล
ลิเวอร์พูลแซงขึ้นนำจ่าฝูงด้วยคะแนนที่มากกว่าอาร์เซน่อล 2 คะแนนและมากกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 คะแนน หลังจากบิ๊กแมตช์ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม จบลงด้วยการแบ่งแต้มจริง ๆ
เข้าสู่ทางตรง 9 เกมสุดท้ายแบบต้องเน้นกันสุด ๆ ในแต่ละนัดที่ลงสนาม
จนถึงวันจันทร์หน้า ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องผ่านเกมอีก 2 นัด มีอีก 6 คะแนนให้เก็บ
ทุกแต้ม ทุกเกม ทุกนาที ล้วนมีความหมาย การพลาดหกล้มบนถนนของม้า 3 ตัวส่งผลเสียหายรุนแรงเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับการแย่งแชมป์กันแค่ 2 ทีม
เพราะถ้าคุณพลาด คุณต้องลุ้นให้อีก 2 ทีมพลาดพร้อม ๆ กันด้วย ไม่ใช่แค่ทีมเดียว
นั่นล่ะครับคือความยากและความเครียดของการแย่งแชมป์กัน 3 ทีม เราจึงแทบไม่เคยเห็นฤดูกาลที่ลุ้นแชมป์กัน 3 ทีมไปจนถึงนัดสุดท้ายมาก่อนเลยเพราะจะมีอย่างน้อยหนึ่งทีมแหกโค้งหลุดวงโคจรไปก่อนเสมอ
เท่าที่ผมนึกออกตลอดการติดตามฟุตบอลมา เห็นจะมีเพียงบุนเดสลีกาเยอรมันฤดูกาล 1991/92 เท่านั้นเองครับที่มี 3 ทีมแย่งแชมป์กันไปจนถึงนัดปิดฤดูกาล ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ซึ่งสุดท้ายทีมม้าขาวเป็นฝ่ายได้ชูโล่แชมป์ยิ่งใหญ่
พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยังมีโอกาสเป็นอย่างนั้น แม้ประวัติเก่า ๆ ที่ผ่านมาจะบอกว่าไม่ใช่ก็ตาม
แต่สำหรับแฟนบอลของทั้ง 3 ทีมแล้ว จะเหลือม้าตัวเดียว 2 ตัว 3 ตัว หรือจะกี่สิบตัวก็ช่างเถิด ขอให้จบเกมที่ 38 แล้วทีมของตัวเองเป็นอันดับหนึ่งก็พอ..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พาดพิงเลสเตอร์ซะงั้น! พิธีกรกีฬาอังกฤษจวก ชาบี อลอนโซ่ เมินคุม ลิเวอร์พูล-บาเยิร์น
ริชาร์ด คีย์ส ถึงขั้นจวก ชาบี อลอนโซ่ ว่าเป็นพวกปอดแหกที่เลือกอยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น ต่อไป พร้อมฟันธงว่า อลอนโซ่ จะไม่มีทางมีผลงานที่ดีแบบนี้กับทัพ "ห้างขายยา" ได้อีกแน่นอนเซ็กซี่ฟุตบอล! รอย คีน โคตรประทับใจฟอร์ม แม็ค อัลลิสเตอร์
รอย คีน อดีตสตาร์ทีมชาติไอร์แลนด์ อดใจไม่ไหวของอวยชัยให้พร อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์แชมป์โลก ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ยกเป็นนักเตะที่โคตรฉลาด ไหวพริบดีเยี่ยมทีมไหนแชมป์? รอย คีน ฟันธงหลัง แมนซิตี้ เจ๊า อาร์เซน่อล
รอย คีน อดีตกองกลางทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดปากชี้ถึงทีมเต็งแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้หลังจบเกมบิ๊กแมตช์ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค. ซึ่ง แมนฯ ซิตี้ เสมอกับ อาร์เซน่อล แบบไร้สกอร์ได้ตามปรารถนา! แม็ค อัลลิสเตอร์ เผยสิ่งที่ ซาลาห์ ขอระหว่างสัปดาห์
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ปลื้มอกปลื้มใจหลังมีส่วนสำคัญในการช่วยต้นสังกัดพลิกสถานการณ์คว้าชัยชนะเหนือ ไบรท์ตัน เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมเผยสิ่งที่ โม ซาลาห์ ขอจากตนในระหว่างสัปดาห์
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์