วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคมนี้ ถึงคิวศึก เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศกันแล้ว โดยจะเป็นเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ด้วย เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม เวมบลีย์

แน่นอน หลายคนยกให้ แมนซิตี้ เป็นต่อบานเบอะเมื่อพิจารณาถึงฟอร์มโดยรวม ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเกร็ดบางอย่างก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือโอกาสที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะสร้างประวัติศาสตร์ได้ด้วย

- เจอกันอีก

 ถึงแม้ที่ผ่านมา เอฟเอ คัพ จะมีทีมดังเจอกันในนัดชิงชนะเลิศหลายต่อหลายหน แต่เชื่อหรือไม่ว่านี่ถือเป็นครั้งแรกเลยที่ 2 ผู้จัดการทีมใน พรีเมียร์ลีก ได้โคจรมาเจอกันในนัดชิงดำของ เอฟเอ คัพ มากกว่า 1 หน ในกรณีที่ไม่นับรวมสมัยที่นัดชิงชนะเลิศมีการเล่นนัดรีเพลย์

- ซิตี้ ลุ้นชนะต่อเนื่อง

อย่างที่รู้กันดีว่าในเกม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023-24 แมนซิตี้ เป็นฝ่ายกำชัยในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ได้ทั้ง 2 ครั้ง ด้วยสกอร์ 3-0 และ 3-1 ทำให้ตอนนี้ทีมของ กวาร์ดิโอล่า มีโอกาสที่จะชนะ แมนยู ได้ถึง 3 นัดภายในซีซั่นเดียวเลย

ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่ แมนซิตี้ สามารถพิชิตคู่อริร่วมเมืองได้ถึง 3 หนภายในฤดูกาลเดียวกันนั้น ต้องนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 1969-70 เลยทีเดียว โดยตอนนั้น แมนซิตี้ ชนะในลีกได้ 4-0 กับ 2-1 รวมถึงเก็บชัยไป 2-1 ในเกม ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

นอกจากนี้ ถ้าหาก แมนซิตี้ เก็บชัยในวันเสาร์นี้ได้ มันก็จะทำให้พวกเขาคว้าชัยเหนือ แมนยู ได้ 4 นัดติดต่อกันจากการลงเล่นทุกรายการได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปี 2013-14 ด้วย

- แมนยู มีลุ้นใน เอฟเอ คัพ ?

แม้ว่าการเจอกัน 7 นัดหลังสุดของทุกรายการ แมนยู จะเก็บชัยชนะได้แค่หนเดียว แต่หากเจาะลึกไปที่การเจอกัน 7 หนหลังสุดในถ้วย เอฟเอ คัพ แล้วล่ะก็ มันก็จะพบว่า แมนยู เป็นฝ่ายเอาชนะได้ถึง 5 หนเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดีสำหรับทีมของกุนซือ เอริค เทน ฮาก ไปซะหมด เพราะ 2 ครั้งที่ แมนยู แพ้ให้ทีมเพื่อนบ้านในถ้วยนี้จาก 7 เกมหลังสุดนั้นเป็นเกมที่มีสังเวียนเป็น เวมบลีย์ ทั้งคู่ ประกอบด้วยรอบรองชนะเลิศของปี 2011 และรอบชิงชนะเลิศของปีก่อนนั่นเอง

- อาจช้ำกว่าชวดแชมป์

ตอนนี้ แมนยู แพ้ไปแล้ว 19 นัดจากการลงเล่นในทุกรายการ และหากพวกเขาต้องพบกับความปราชัยอีก มันก็จะทำให้ แมนยู แพ้อย่างน้อย 20 เกมต่อฤดูกาลจากการลงเล่นทุกรายการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1973-74 โดยที่จริงตอนนั้น แมนยู แพ้ไปถึง 22 นัดด้วยกัน

ไม่เพียงแค่นั้น เพราะปัจจุบันทีมของ เทน ฮาก โดนยิงไปแล้ว 84 ประตูจากทุกรายการด้วย และมันก็ทำให้พวกเขามีโอกาสเสียเกิน 84 ลูกต่อ 1 ซีซั่นเป็นหนแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1963-64 เช่นกัน โดยสมัยนั้นพวกเขาเสียไป 89 ประตู