อันเดรียส คริสเตนเซ่น แนวรับ เดนมาร์ก เผชิญค่ำคืนฝันร้าย โดนวีเออาร์ริบประตู จากนั้นเจ้าตัวทำแฮนด์บอลเสียจุดโทษ ไค ฮาแวร์ตซ์ สังหารตามด้วย มูเซียล่า ซัดปิดกล่อง เจ้าภาพ เยอรมนี เฮสบาย 2-0 ลอยลำสู่รอบก่อนรองชนะเลิศดวลทีมชนะคู่ สเปน-จอร์เจีย วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคมต่อไป

สนาม : เบเฟาเบ สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์

ศึกยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าภาพ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี เจ้าของโทรฟี่นี้ 3 สมัย ยึดแชมป์กลุ่ม เอ แม้นัดท้ายแบ่งกลุ่มแทบแย่เหมือนกัน ปะทะ "โคนม" เดนมาร์ก เข้าที่สอง กลุ่ม ซี หมายทะลุรอบ 8 ทีม แถมพวกเขาเคยล้ม อินทรีเหล็ก ครั้นศึกยูโร ปี 1992

เกมเริ่มแค่สามนาที โทนี่ โครส วางเตะมุมด้านซ้าย นิโก้ ชล็อตเทอร์เบ็ค เทคตัวโขกบอลเข้าประตู ทว่า ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เชิ้ตดำชาวผู้ดีชี้มีการฟาวล์ช็อตสกรีนคู่แข่งของ โยชัว คิมมิช เมินมอบสกอร์แก่เจ้าภาพ

จากนั้นนาที 6 โยชัว คิมมิช ส่องไกลนอกกรอบบอลพุ่ง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เหินตัวปัดเต็มแรงบอลออกหลัง อินทรีเหล็ก บุกหนัก

นาทีถัดมา ลูกเตะมุมต่อเนื่อง นิโก้ ชล็อตเทอร์เบ็ค โหม่งบอลดิ่งเกือบเสียบตาข่ายนายด่านโคนมลอยตัวเซฟปลายมืออีกครั้ง

ต่อมานาที 10 อันโตนิโอ รือดิเกอร์ วางบอลแดนหลังข้ามมาหา ไค ฮาแวร์ตซ์ วอลเลย์ตามน้ำในเขตโทษฝั่งซ้าย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ล้มตัวป้องกันอีกแล้ว

เกมหยุดลงชั่วคราวช่วงนาที 36 เกิดภัยธรรมชาติฟ้าผ่าเนื่องจากสภาพอากาศฝนตกตลอดเวลา ทำให้ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ตัดสินใจเบรกแมตช์ให้ผู้เล่นทั้งสองทีมออกจากสนามกลับเข้าห้องแต่งตัว

กลับมาเล่นเพียงนาทีเดียว ดาวิด เราม์ ครอสบอลฝั่งซ้าย ไค ฮาแวร์ตซ์ กระโดดโหม่งบอลเจอ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล โชว์เหนียวปัดทิ้ง

เข้าช่วงนาที 45 โธมัส เดลานี่ย์ แตะบอลเรียดมาที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ หลุดชิพบอลไม่ผ่าน มานูเอล นอยเออร์ ที่ล้มตัวงสไลด์ดักทันเวลา

หมดครึ่งแรก เสมอกัน 0-0

โคนม อดฉลองนาที 50 โธมัส เดลานี่ย์ หันหลังซัดเหมือนโดน ไค ฮาแวร์ตซ์ เหนี่ยวล้ม บอลปลิ้นเข้าทาง อันเดรียส คริสเตนเซ่น ยิงซ้ำประมาณ 8 หลาบอลซุกตาข่าย กรรมการเช็ควีเออาร์แจงล้ำหน้าจังหวะก่อนทำสกอร์

แต่แล้วสองนาที ดาวิด เราม์ เปิดบอลลอยกระทบมือ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ในเขตโทษ เชิ้ตดำ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์  ดูวีเออาร์กับตาแจกจุดโทษให้เจ้าภาพ ไค ฮาแวร์ตซ์ สังหารพา อินทรีเหล็ก เฮลั่น 1-0

ผ่านมานาที 66 ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ จ่ายบอลไปที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ แตะบอลแล้วซัดตรงตัวนายทวารเจ้าภาพปักหลักย่อตัวรับไว้ได้

ต่อมาสองนาที นิโก้ ชล็อตเทอร์เบ็ค โยนบอลยาว จามาล มูเซียล่า สปีดเดี่ยวโขยกเก็บบอลเอนตัวแปหนีตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล บวกเพิ่มเป็น 2-0

ทดเจ็บ 90+2 ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ ลงสำรองส่งบอลกองก้นตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า จบเกม เยอรมนี ชนะ  เดนมาร์ก 2-0 ลอยลำสู่รอบก่อนรองชนะเลิศรอดวลทีมชนะคู่ สเปน-จอร์เจีย วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคมต่อไป 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เยอรมนี (4-2-3-1): มานูเอล นอยเออร์,โยชัว คิมมิช,อันโตนิโอ รือดิเกอร์,นิโก้ ชล็อตเทอร์เบ็ค,ดาวิด เราม์ (เบนยามิน เฮนริคช์ส น.80),โรเบิร์ต อันดริช (เอ็มเร่ ชาน น.65),โทนี่ โครส,เลรอย ซาเน่,อิลคาย กุนโดอัน (นิคลาส ฟืลล์ครุก น.65),จามาล มูเซียล่า (ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ น.80),ไค ฮาแวร์ตซ์

เดนมาร์ก (3-4-3): แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล,โยอาคิม อันเดอร์เซ่น,ยานนิค เวสเตอร์การ์ด,อันเดรียส คริสเตนเซ่น (ยาค็อบ บรูน ลาร์เซ่น น.81),อเล็กซานเดอร์ บาห์ (วิคตอร์ คริสเตียนเซ่น น.81),โธมัส เดลานี่ย์ (คริสเตียน นอร์การ์ด น.70),ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์,โยอาคิม เมห์เล่,อันเดรียส สคอฟ โอลเซ่น (ยุสซุฟ โพลเซ่น น.70),คริสเตียน เอริคเซ่น,ราสมุส ฮอยลุนด์ (โยนาส วินด์)