หลังจากเอาตัวรอดมาได้ในเกม ยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแซงชนะ สโลวาเกีย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทีมชาติ อังกฤษ จะลงเล่นเกมรอบแปดทีมต่อกรกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันเสาร์นี้

หากจะมองโลกเป็นสีชมพู และ โอนเอียงมาทางทีม สิงโตคำราม ก็ต้องบอกว่าพวกเขายังโชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจเลยตลอดทั้งสี่นัดที่ผ่านมา แต่การรอดตายในช่วงทดเวลาของเกมรอบ 16 ทีมอาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้ทีม สิงโตคำราม ระเบิดฟอร์มเก่งที่แท้จริงออกมาสักทีก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี แม้จะเล่นได้ไม่ถูกใจแฟนบอล แต่ต้องยอมรับว่าแนวทางการคุมทีมอันเป็นปรัชญาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ทำให้ทีม สิงโตคำราม ไม่เพลี่ยงพล้ำให้กับทีมคู่แข่งแบบง่ายๆเช่นกันจากการเล่นที่เน้นความเหนียวแน่นโดยไม่ยอมเสียประตูแบบไม่จำเป็นซึ่งทำให้พวกเขายังอยู่ในเกมได้จนกระทั่งนาทีสุดท้าย

สำหรับเกมในรอบน็อกเอาต์ ไม่ว่าจะยังไง อังกฤษ ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องการยิงลูกโทษอยู่แล้วเนื่องจากมันสามารถเกิดขึ้นได้ในเกมรอบลึกๆของทัวร์นาเมนต์

เท่าที่ผ่านมา อังกฤษ ถูกวิจารณ์ว่าสภาพจิตใจของนักเตะเปราะบางเกินกว่าจะแบกรับความกดดันแบบนี้ได้โดยตลอด 14 ทัวร์นาเมนต์หลังทั้งใน ฟุตบอลโลก และ ฟุตบอลยูโร ทีมเมืองผู้ดีผ่านการดวลลูกโทษตัดสินมาแล้ว 8 ครั้ง

แต่อย่างที่ทุกคนรู้กันว่ามันเป็นปมของทีม สิงโตคำราม เนื่องจากพวกเขากำชัยได้แค่ 2 หนเท่านั้นจากการเอาชนะ สเปน ในเกมรอบแปดทีมศึก ยูโร 1996 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ ก่อนแพ้ เยอรมนี ในรอบตัดเชือกจากการดวลลูกโทษเช่นกันโดย เซาธ์เกต ซึ่งรับหน้าที่สังหารเป็นคนสุดท้ายก่อความผิดพลาด

และจากนั้นอีกเกมที่ ทรี ไลอ้อนส์ ได้เฮลั่นเป็นการเอาชนะ โคลอมเบีย ในรอบแปดทีม ฟุตบอลโลก ปี 2018 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าพวกเขาไม่ดีพอในการตัดสินผลลัพธ์ด้วยวิธีนี้

อย่างไรก็ดี ในเกม เนชั่นส์ ลีก รอบชิงอันดับสามปี 2019 อังกฤษ เคยสยบ สวิตเซอร์แลนด์ มาแล้วด้วยการดวลลูกโทษตัดสิน มันจึงอาจทำให้พวกเขามีความฮึกเหิมอยู่ในใจก่อนเผชิญหน้ากับคู่ปรับรายนี้เพื่อหาทีมชนะเข้าสู่รอบตัดเชือกของศึก ยูโร 2024

สำหรับเกม ยูโร 2020 อังกฤษ ไปไม่ถึงดวงดาวอีกตามเคยเมื่อพ่ายการดวลลูกโทษต่อ อิตาลี ในนัดชิงชนะเลิศซึ่งเกิดขึ้นในสนาม เวมบลีย์ ของพวกเขาเองด้วย

ในกรณีที่ อังกฤษ กับ สวิตเซอร์แลนด์ เอาชนะกันไม่ได้ เซาธ์เกต จะต้องตัดสินใจเลือกห้าเพชฌฆาตดาบแรกซึ่งเชื่อแน่ว่าเขามีรายชื่ออยู่ในใจแล้ว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในฐานะกัปตันทีม และดาวซัลโว แฮร์รี่ เคน จะต้องเป็นหนึ่งในลิสต์นี้ แถมน่าจะต้องสืบเท้าเดินออกมาเป็นคนแรกในฐานะผู้นำเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกทีม

แต่อีกสี่รายจะเป็นใคร เราจะไปดูสถิติกันว่าขุนพลทีม สิงโตคำราม รายไหนบ้างที่มีความเฉียบขาดในการยิงลูกโทษแม้บางรายอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ เซาธ์เกต ใช้งานในโผ 11 คนแรกก็ตาม

5. จู๊ด เบลลิ่งแฮม

ด้วยความเป็นนักเตะใจเด็ดและนิ่งเกินอายุ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดาวดังทีม เรอัล มาดริด พร้อมรับผิดชอบหน้าที่สำคัญนี้อย่างแน่นอน

หลังระเบิดฟอร์มตีลังกายิงประตู สโลวาเกีย ได้ในรอบแปดทีม เบลลิ่งแฮม แสดงความเชื่อมั่นในตัวเองออกมาทันทีด้วยการเอ่ยขึ้นว่า "ทีมไหนอีก" ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงตัวตนของเขาอย่างชัดเจน

เท่าที่ผ่านมา ยอดกองกลางดาวซัลโวยิงลูกโทษตุงตาข่ายมาทั้งหมดสี่ครั้งนับเฉพาะเกมในทีมชุดใหญ่ซึ่งรวมถึงการส่งบอลตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้ ด้วยในเกมรอบแปดทีมนัดสองของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่ง ราชันชุดขาว เอาชนะแชมป์เก่าได้จากการดวลลูกโทษตัดสินเมื่อเดือนเม.ย.ก่อนผงาดคว้าแชมป์ไปครอง

4. บูคาโย่ ซาก้า

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า ซาก้า ไม่เคยยิงลูกโทษในทีมชุดใหญ่มาก่อนเลย และรับหน้าที่ซัดลูกโทษเป็นคนสุดท้ายให้กับ อังกฤษ ในนัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 ซึ่งเขาทำหน้าที่พลาดตามหลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช่

ในวัย 19 ปีขณะนั้น แน่นอนว่ามันเป็นภารกิจที่หนักอึ้งสำหรับนักเตะดาวรุ่ง แต่ปรากฏว่าความเจ็บปวดทำให้สตาร์ทีม อาร์เซน่อล แข็งแกร่งมากขึ้น และเขายิงลูกโทษตุงตาข่าย 13 จาก 14 ครั้งนับจากนั้นไม่ว่าจะเป็นในระหว่างเกม หรือว่าช่วงการดวลลูกโทษ

3. โคล พาลเมอร์

หลังโบกมือลา แมนฯ ซิตี้ เพื่อคว้าโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ คีย์แมนคนใหม่ของ เชลซี แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็นในการสอยตาข่ายซึ่งชี้ให้เห็นว่าเขาตัดสินใจถูกที่หันหลังให้กับสถานะตัวสำรองอดทนของ เรือใบสีฟ้า มาสร้างชื่อกับ สิงห์บลูส์

นอกจากจะซัดประตูได้อย่างเด็ดขาดแล้ว พาลเมอร์ ยังยิงลูกโทษได้มากถึง 9 ลูกเมื่อซีซั่นก่อน แถมมีสถิติ 100% ด้วยขณะทำหน้าที่ให้กับทีม เรือใบสีฟ้า ชุดยู 18

สำหรับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่ พาลเมอร์ ซัดลูกโทษไม่พลาดเช่นกันในเกมอุ่นเกือกนัดชนะ บอสเนีย 3-0 โดยเขาพาทีมออกนำช่วงต้นครึ่งหลังเนื่องจาก เคน เพชฌฆาตเบอร์หนึ่งได้เล่นเป็นตัวสำรอง และลุกจากซุ้มมาซัดลูกปิดกล่องได้ก่อนหมดเวลานาทีเดียว

2. ไอแวน โทนีย์

แม้จะมีผลงานยิงลูกโทษที่ยอดเยี่ยม แต่เชื่อได้เลยว่าดาวเตะทีม เบรนท์ฟอร์ด จะไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง ยกเว้นก็แต่ว่าสถานการณ์ตกอยู่ในช่วงคับขันซึ่งเขามีโอกาสลุกจากม้านั่งข้างสนาม

ถึงขณะนี้ พ่อค้าแข้งวัย 28 ปีรับใช้ชาติไปแล้ว 4 นัด และยิงได้หนึ่งประตูซึ่งเป็นลูกโทษในเกมอุ่นแข้งเสมอกับ เบลเยี่ยม 2-2 ซึ่งเขาได้ลงสนามเป็น 11 คนแรก

สำหรับเกมระดับสโมสร สตาร์ทีม เดอะ บีส์ ตะบันลูกโทษตุงตาข่าย 37จาก 40 ครั้งซึ่งชัดเจนว่าทีมเมืองผู้ดีสามารถพึ่งพาเขาได้หากเกมลากยาวไปจนถึงขั้นฎีกา

1. แฮร์รี่ เคน

นี่คือหนึ่งในนักเตะที่เชื่อขนมกินได้มากที่สุดคนหนึ่งสำหรับการยิงลูกโทษภายใต้ผลงาน 79 ประตูจาก 90 ครั้ง

จึงแน่นอนว่าหาก อังกฤษ ได้ลูกโทษ สตาร์ทีม บาเยิร์น มิวนิค จะเป็นคนรับผิดชอบเฉกเช่นที่ โปรตุเกส มอบหน้าที่ดังกล่าวให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ยิ่งไปกว่านั้น เคน มีสถิติ 100% ด้วยหากเกมล่วงเข้าสู่การดวลลูกโทษชี้ขาดไม่ว่าจะเป็นเกมระดับสโมสรหรือว่าทีมชาติ