สเปน พบ อังกฤษ - นัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2024

1.โทษฐานที่เป็นกองเชียร์สิงโตคำราม มาตั้งแต่ปี 1982 ผมย่อมอยากเห็นทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์รายการนี้ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นพวกเขาประสบความสำเร็จเลยสักครั้งจนชินชากับความล้มเหลว

อังกฤษ อุตส่าห์กระเสือกกระสนจนมาถึงนัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่ก็ต้องมาเจอคู่แข่งที่ฟอร์มร้อนแรง และสยดสยองมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์อย่าง สเปน

2.รูปแบบการเล่นของทั้ง 2 ทีมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง !!!

"กระทิงดุ" เป็นทีมที่เน้นเกมรุกบนความสวยงามและดุดัน แถมอุดมด้วยทีมเวิร์ค ดูสนุกสนาน เพลิดเพลินดีนักแล

เรียกว่าเล่นบอลอย่างสร้างสรรค์

ตรงกันข้ามกับพลพรรค "ทรี ไลออนส์"

อังกฤษ จากการทำงานของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นทีมที่เน้นผลการแข่งขัน เล่นฟุตบอลบนความรัดกุม และระมัดระวังอย่างจนหนักจนดูน่าเบื่อเหมือนนอนจ้องพัดลมบนเพดานห้อง

ด้วยวิธีการเล่นเพื่อไม่แพ้มากกว่าเล่นเพื่อชนะ พวกเขาจึงเป็นทีมที่แพ้ยากพอๆ กับตายยากตายเย็นยิ่งกว่า 'เจสัน' แห่งทะเลสาป คริสตัล เลค แถมการศึกครั้งนี้ยังมี 'พลังงานบางอย่าง' มาคอยช่วยเหลือให้ได้รับผลการแข่งขันที่ต้องการอีกต่างหาก

3.ถามว่าใครจะเป็นแชมป์ ยูโร 2024

หากมองด้วยเหตุผลของฟุตบอลแบบเพียวๆ ตามสายตาสั้นๆ ยาวๆ ของผม

สเปน 60%

อังกฤษ ?????? 40%

4. อังกฤษ เหมือนต้องคำสาป นับตั้งแต่คว้าแชมป์โลก เมื่อ 1966 โดยมักจะมีอาเพศอะไรสักอย่างที่ขัดขวางพวกเขาให้ไปไม่ถึงดวงดาว

ตัวอย่างเช่น

หัตถ์พระเจ้าของ ดิเอโก้ มาราโดน่า ในฟุตบอลโลก 1986

การถูกไล่ออกแบบไม่สมควรของ เดวิด เบ็คแฮม ในฟุตบอลโลก 1998

ลูกยิงจากครึ่งสนามของ โรนัลดินโญ่ ในฟุตบอลโลก 2002

การถูกไล่ออกของ เวย์น รูนี่ย์ ที่ได้รับการสนับสนุนโดยเพื่อนร่วมทีมปีศาจแดงอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในฟุตบอลโลก 2006

ลูกยิงที่ข้ามเส้นประตูไปแล้ว ทว่าไม่ได้ประตูของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในฟุตบอลโลก 2010

แฮร์รี่ เคน สังหารจุดโทษพลาดในฟุตบอลโลก 2018

และการพ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษทั้งใน เวิลด์ คัพ 1990, ยูโร 1996, เวิลด์ คัพ 1998, ยูโร 2004, เวิลด์ คัพ 2006, ยูโร 2012 และยูโร 2020 ที่อุตส่าห์ตะลุยไปจนถึงนัดชิงฯ แล้วแท้ๆ

5.ถ้ามันเป็นเรื่องของ "เวรกรรม"

อังกฤษ ก็น่าจะชดใช้หมดแล้วล่ะ และมันน่าจะถึงทีของพวกเขาบ้าง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นแชมป์แบบไม่ค่อยมีความสร้างสรรค์สักเท่าไหร่ก็ตาม

กรีซ เคยได้แชมป์ ยูโร 2004 ด้วยรูปแบบการเล่นที่ไม่สร้างสรรค์

โปรตุเกส ก็เคยได้แชมป์ ยูโร 2016 ทั้งที่ไม่เคยชนะคู่แข่งในเวลา 90 นาที

นานๆ ฟุตบอลถึงจะอนุญาตให้มีเรื่องแบบนี้สักที

หวังอย่างยิ่งว่ามันจะบังเกิดขึ้นอีกสักครั้งในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหนนี้

เพียงแต่ต้องไม่ลืมว่าบ่อยครั้งที่ฟุตบอลแม่งก็ชอบทำร้ายจิตใจท่านผู้ชมแบบโหดเหี้ยม และไร้ความปรานี