นับเป็นคู่ใหญ่ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายนนี้ เมื่อ แมนซิตี้ พบ สเปอร์ส ที่สังเวียนแข้ง เอติฮัด สเตเดี้ยม

แมนซิตี้ พบ สเปอร์ส ถือเป็นการเจอกันครั้งที่ 2 ในช่วงระยะเวลา 1 เดือน หลังจาก สเปอร์ส เพิ่งเปิดบ้านชนะ แมนซิตี้ 2-1 ในศึก คาราบาว คัพ รอบ 4 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเรามีเกร็ดที่น่าสนใจสำหรับเกมวันเสาร์นี้มานำเสนอกัน

- ทีมจอมแสบ

แม้ว่าการเจอกันในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด แมนซิตี้ จะบุกไปชนะ สเปอร์ส 2-0 ได้ถึง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ในเกมลีก 10 นัดหลังสุดที่เจอกัน แมนซิตี้ ได้รับชัยไปเพียงแค่ 3 หน โดยที่ สเปอร์ส คว้าชัยในช่วงนั้นได้ถึง 5 เกม

นอกจากนี้ แมนซิตี้ ไม่เคยชนะ สเปอร์ส ในเกมลีกได้ 2 นัดติดต่อกันมาหลายปีแล้ว โดยหนล่าสุดที่ทำแบบนั้นได้ต้องย้อนไปถึงเดือนเมษายน ปี 2019

ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่ที่ แมนซิตี้ เข้าสู่ยุคที่มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีม ไม่มีคู่แข่งรายไหนอีกแล้วที่จะยัดเยียดความปราชัยในเกมลีกให้พวกเขาได้มากกว่า สเปอร์ส ที่จำนวนรวม 6 หน แถม สเปอร์ส ยังเป็นทีมที่เจาะตาข่าย แมนซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า ในเกมลีกได้มากที่สุดด้วย จากจำนวนรวม 22 ประตู

- ไม่กลัวเจ้าถิ่น

ในเกมลีก 3 นัดหลังสุดที่ต้องไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม เชื่อหรือไม่ว่า สเปอร์ส สามารถทำประตูใส่ แมนซิตี้ อย่างน้อยเกมละ 2 ลูก ได้ครบทุกนัด ประกอบด้วยฤดูกาล 2021-22 ที่บุกไปชนะ 3-2, ซีซั่น 2022-23 ที่แพ้ 2-4 และฤดูกาลก่อนที่ได้ 1 แต้มกลับบ้านจากผลเสมอ 3-3

ถ้าหากเกมในวันเสาร์นี้ลูกทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ทำได้อย่างน้อย 2 ลูกอีกครั้ง จะทำให้ สเปอร์ส กลายเป็นทีมแรกที่บุกไปยิงใส่ แมนซิตี้ ถึงบ้านของอีกฝ่ายในเกม พรีเมียร์ลีก ได้อย่างต่ำ 2 ประตู เป็นจำนวนถึง 4 นัดติดต่อกันเลยทีเดียว

- สะดุดอีกไหม ?

อย่างที่รู้กันดีว่าก่อนหน้านี้ แมนซิตี้ แพ้มา 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ซึ่งหากปราชัยในเกมสุดสัปดาห์นี้อีกครั้ง มันก็จะทำให้ แมนซิตี้ แพ้อย่างต่ำ 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปี 2006 โดยหนนั้นพวกเขาเคยแพ้ 6 นัดรวด โดยการปราชัยครั้งที่ 5 ในช่วงดังกล่าวก็เป็นการแพ้ให้ สเปอร์ส เหมือนกัน

- อาจเปิดเกมบุกใส่กันสนุก

ก่อนถึงโปรแกรมนัดที่ 12 ของฤดูกาล สเปอร์ส คือทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาลนี้ จากการกดไปแล้ว 23 ประตู ส่วนที่ 2 ก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือ แมนซิตี้ ที่ครองอันดับร่วมกับ เบรนท์ฟอร์ด หลังทำไปแล้ว 22 ลูก

ขณะเดียวกัน แมนซิตี้ ก็คือทีมจาก พรีเมียร์ลีก ที่มีผลงานด้าน จำนวนประตูที่น่าจะทำได้ (expected goals) สูงที่สุดประจำซีซั่นนี้ด้วย ที่ตัวเลข 22.3 และ สเปอร์ส ก็ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่จำนวน 21.7 โดยจนถึงตอนนี้ทั้ง 2 ทีมมีจังหวะยิงในลีกรวมกันถึง 401 ครั้ง