"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเรียกผู้เล่นชุดใหญ่ที่ได้พักทั้งหมดจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับมาลงสนามอีกครั้ง เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ก็เรียกผู้เล่นตัวหลักที่พักมาจากเกม ยูโรป้า ลีก ลงสนามครบครัน ใน "ศึกแดงเดือด" ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันนี้

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553
แมนฯ ยูไนเต็ด (3) - ลิเวอร์พูล (16)

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

 
     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเรียกกำลังหลักกลับคืนสังเวียนแข้งแน่ ทั้ง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, นานี่, เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และ พอล สโคลส์ โดย เฟอร์กี้ เปิดเผยก่อนเกมแล้วว่า วิดิช จะเป็นกัปตันทีมเกมนี้
 
     ข่าวร้ายจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่เปิดบ้านเสมอ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 0-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาคืออาการบาดเจ็บของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกขวาเอกวาดอร์ ที่ข้อเท้าหักจากจังหวะปะทะกับ เคิร์ค บอร์ดฟุ้ต กองหลังไลท์บลูส์ คาดว่าต้องพักอย่างน้อยถึงเดือนกุมภาพันธ์
 
     สำหรับเกมสำคัญวันอาทิตย์นี้ เฟอร์กี้ จะปรับทัพ 8 ตำแหน่งกลับคืน โดยทิ้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์, เวย์น รูนี่ย์ และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ตัวจริงจากเกมกับ เรนเจอร์ส ลงเป็น 11 คนแรกต่อไป
 
     ตัวหลักอีกคนที่ยังพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บอยู่คือ ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางตัวรับ บาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย
 
     ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ คู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
 
     ทางฝั่ง รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ ลิเวอร์พูล เพิ่งผ่านเกมยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่เปิดบ้านถล่ม สเตอัว บูคาเรสต์ ทีมจากโรมาเนีย 4-1 เมื่อวันพฤหัสบดี โดยเกมนั้นพักตัวหลัก เฟร์นานโด ตอร์เรส, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มาร์ติน สเคอร์เทล, คริสเตียน โพลเซ่น, มิลาน โยวาโนวิช ออกจากทีม ขณะที่ เกล็น จอห์นสัน กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ก็มีชื่อเป็นตัวสำรอง แต่ไม่ต้องลงสนาม
 
     นอกจากการกลับคืนสนามของ 6 ตัวหลักแล้ว แดนกลางยังจะได้ โจ โคล กองกลางจอมพลิ้ว พ้นโทษแบนในลีก 3 นัดกลับมาด้วย หลังผ่านเกมกับ สเตอัว โดยประเดิมประตูแรกได้ตั้งแต่นาทีแรกในเกมนั้น ก็เท่ากับว่า ฮ็อดจ์สัน จะปรับ 8 ตำแหน่งจากเกมยุโรป โดยคงไว้สามคนคือ โฆเซ่ เรน่า, โจ โคล และ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์
 
     ตัวหลักสองคนที่ยังบาดเจ็บอยู่คือ เดิร์ค เค้าท์ กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ บาดเจ็บหัวไหล่ มาจากสัปดาห์ทีมชาติ ยังต้องพักฟื้นอีกหลายสัปดาห์ ขณะที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ แบ็กซ้ายบราซิล เจ็บเอ็นร้อยหวาย
 
     ระบบการเล่น 4-2-3-1 โฆเซ่ เรน่า ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ แดนกลางมี คริสเตียน โพลเซ่น กับ ลูคัส เลว่า เป็นตัวรับ แนวรุกใช้ โจ โคล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มิลาน โยวาโนวิช หน้าเป้า เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
     รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ - เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
 
     ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ - คริสเตียน โพลเซ่น, ลูคัส เลว่า - โจ โคล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มิลาน โยวาโนวิช - เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
     ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

ป๋าสถิติแจ่ม! คุมผีเกมแดงเดือด

 
     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการคุมทีมเจอกับ ลิเวอร์พูล เกมแดงเดือด เพราะตั้งแต่คุมทีมปีศาจแดง เมื่อปี 1986 เฟอร์กี้ ปราบ หงส์แดง ได้ 21 นัด เสมอ 11 นัด และแพ้ 16 นัด
 
     ผลงานในช่วงหลังค่อนข้างสูสี ฤดูกาล 2006-07 แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะเกมเหย้า 2-0 และชนะเกมเยือนอีก 1-0, ฤดูกาล 2007-08 แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะเกมเยือนก่อน 1-0 ตามด้วยชนะเกมเหย้าอีก 3-0, ฤดูกาล 2008-09 เป็นที ลิเวอร์พูล บ้าง เอาชนะเกมเหย้า 2-1 และบุกชนะเกมเยือนอีก 4-1
 
     ฤดูกาล 2009-10 หรือฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ 2-0 ได้ประตูจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ ดาวิด เอ็นก็อก ส่วนอีกนัดที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หงส์แดง ได้ก่อนจาก ตอร์เรส แต่ ปีศาจแดง ก็ได้สองประตูพลิกชนะจาก เวย์น รูนี่ย์ กับ พาร์ค ชี-ซอง

ริโอเตือนผีต้องระวังตอร์เรส

 
     ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเกมแดงเดือด วันอาทิตย์นี้ สิ่งที่เพื่อนร่วมทีมปีศาจแดง ต้องระวังมากที่สุดก็คือการกลับมาระเบิดฟอร์มสุดยอดของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปน
 
     เฟอร์ดินานด์ วัย 31 ปี กล่าวว่า "เขาเป็นสุดยอดนักเตะ เขาได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้ว เมื่อ 2 เดือนก่อน ทุกคนต่างพูดกันว่านี่แหละที่เรียกว่านักเตะระดับโลก เขาเป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะของโลก ผมเห็นเสียงวิจารณ์ที่ด่าทอเขาในคืนก่อนๆ เขาได้รับบาดเจ็บมาเป็นระยะเวลานาน นี่เป็นแค่หนทางในการกลับมาของเขา คุณไม่อาจที่จะไปคาดหวังว่าเขาจะทำผลงานได้ดีเลย ผมจะหลอกตัวเองไม่ได้เลยหากได้ลงเล่น ผมต้องมาเจอกับนักเตะระดับโลก คุณต้องคาดไว้เลยว่าเขาจะโชว์ผลงานระดับโลกให้เห็น"
 
     ขณะที่ ไรอัน กิ๊กส์ ปีกจอมเก๋า "เร้ด เดวิลส์" ก็เห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ เฟอร์ดินานด์ ที่จะประมาท ตอร์เรส ไม่ได้เลย แม้ในช่วงหลังจะโดนวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำก็ตาม
 
     "ตอร์เรส เป็นตัวอันตรายเสมอ ผมได้ดูเกมที่เขาเล่นกับ เบอร์มิงแฮม แม้เขาจะไม่สามารถยิงได้ แต่เขาก็ยังคงมีความน่ากลัว เขาเป็นนักเตะระดับโลก เมื่อใดที่เขามีโอกาสเขามักจะทำมันได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องระวังเขาให้มากสุดๆ" กิ๊กส์ ทิ้งท้าย

รอยตื่นเต้นสัมผัสแดงเดือดหนแรก

 
     รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับสุดตื่นเต้นกับการสัมผัสเกมแดงเดือดหนแรก หลังเคยผ่านเกมใหญ่ๆ และดาร์บี้แมตช์ในอิตาลีมาแล้ว แต่เกมระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล มีความหมายไปทั่วโลก
 
     "มันเป็นเกมใหญ่ และผมกำลังตั้งตารอ ผมเคยผ่านเกมดาร์บี้แมตช์สำคัญๆ มาแล้ว และรู้ดีว่ามันมีความหมายต่อแฟนบอลมากแค่ไหน"
 
     "เกมนี้อาจเปรียบได้กับ อินเตอร์ เจอ ยูเวนตุส หรือ มิลานดาร์บี้แมตช์ แต่เกมดาร์บี้อิตาเลียเป็นเกมที่หาทีมที่ยิ่งใหญ่ตัวจริง ไม่ใช่แค่สองเมือง แต่มันหมายความถึงทั้งประเทศ"
 
     "เกมนี้ไม่ได้วัดกันแค่คู่แข่งย่านตะวันตกเฉียงเหนือ แต่มันเป็นเกมที่พูดถึงกันทั่วโลก เพราะทั้งสองทีมต่างมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่นอกอังกฤษด้วย"
 
     "เราจะเตรียมพร้อมเกมนี้ให้ดีที่สุด และพยายามจัดนักเตะ 11 คนแรกที่ดีที่สุดลงสนาม เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อผลการแข่งขัน"

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ   
19.30 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล
21.00 น. วีแกน แอธเลติก - แมนฯ ซิตี้  
22.00 น. เชลซี - แบล็คพูล