“ชาคริต” สารภาพเลิก “เพชร” แล้วจริง เพราะมัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้ รับฝ่ายหญิงเป็นคนขอยุติความสัมพันธ์ ปัดสาเหตุทะเลาะกันทุกวัน พร้อมยันไม่มีมือที่สาม เฉือนคำหมอดูปิดโอกาสรีเทิร์น “จักจั่น”

 

       เป็นหนุ่มเนื้อหอมแต่ไม่มีดวงเรื่องความรักเลยจริงๆ สำหรับพระเอกไม้เลื้อย “ชาคริต แย้มนาม” ที่ล่าสุดออกมายอมรับว่า ได้เลิกรากับแฟนสาวไฮโซ “เพชร บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล” ที่คบหากันมาร่วมปีกว่าแล้วจริงๆ ตามที่อดีตหวานใจได้ออกมาเผยก่อนหน้านี้ โดยพระเอกหนุ่มได้เปิดใจในงานปิดกล้องละครเรื่อง “ไฟอมตะ” ด้วยสีหน้าที่ยังดูเศร้านิดๆ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้เห็นได้อยู่บ้างว่า สาเหตุเพราะตนไม่มีเวลาให้ เลยทำให้อดีตแฟนสาวรับไม่ได้ต้องออกปากขอเลิกไปเอง
 
   
       “ก็จบแล้วครับ เพราะทำงานเยอะเกินด้วย เวลามันก็ค่อนข้างทำให้ห่างกันครับ หลายๆ อย่าง แล้วไลฟ์สไตล์ของเราคือวันๆ นึงเราทำงานหลายประเภท แล้วต้องติดต่อกับคนเยอะ เราต้องเจอคนไม่รู้กี่ร้อยกี่พันคนต่ออาทิตย์ พอถึงเวลาเราก็อยากมีเวลาเป็นส่วนตัว อยากอยู่เงียบๆ ของเราด้วย มันก็คงจะออกเป็นที่น่าเบื่อหน่อยสำหรับคนที่จะมาคบกับเรา”

     

       “มันก็คงมีอาการแปลกๆ กันมา แต่ว่าพอคุยกันถามเขา เราก็คุยกับเขาตรงๆ เขาก็บอกว่าความรู้สึกมันก็เปลี่ยนไป ด้วยความห่างด้วยอะไรหลายๆ อย่างมันก็ทำให้เขาไม่สบายใจ เราเองก็ไม่สบายใจแหละ เพราะเราก็รู้สึกว่าทำหน้าที่ของเราไม่ดีพอ เพราะเราเองก็สนุกอยู่กับงานซะมาก ส่วนใหญ่มันก็เป็นเพราะงานเพราะอะไรด้วย ก็เสียใจแหละ แต่ชีวิตมันก็ต้องเดินต่อไป ก็โอเคด้วยดีไม่มีปัญหา”

 

     
       “ทะเลาะกันมันก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ทุกวันหรอก ทำงานขนาดนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปทะเลาะกันทุกวัน แต่ว่าเวลาคุยก็คงเป็นเรื่องของเวลา เรื่องเรียกร้องความสนใจ ต่างคนต่างอยากจะทำให้มันดีที่สุดแต่ก็ทำไม่ได้ จะให้เขามานั่งแฮงค์เอ้าท์ รอที่กองก็เบื่อตาย ก็เสียใจนะ เพราะทุกครั้งเราก็พยายามทำเต็มที่ที่สุด ก็เข้าใจครับ เพราะเราก็เผื่อไว้แล้วล่ะ เรารู้สถานภาพของเราเวลาทำงานมากๆ มันมักจะจบแบบนี้เสมอ(หัวเราะ) เรื่องมือที่สามไม่มีครับ น้องเขาก็ไม่มี”

     

       ส่วนความรักครั้งใหม่ขอปล่อยไปตามธรรมชาติ ซึ่งสาวคนใหม่คงต้องทำใจเรื่องเวลาทำงานของตน ที่ยังคงทำงานตามปกติ“พร้อมสำหรับคนใหม่เหรอ(หัวเราะ) ยังครับ ก็ไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาติดีกว่า เพราะนี่ก็เพิ่งจะโสดมาประมาณเดือนนึง ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนที่แล้ว คนที่เข้ามาคุยไม่มีครับ ส่วนใหญ่ก็เพื่อนหมด เพราะช่วงที่ผ่านๆ มาช่วงที่มันว่างๆ มา 3 ปีมันก็มีคนมาคุยบ้าง แต่ว่าคุยเสร็จปุ๊บมันก็จบลงเอยเป็นเพื่อนกันมากกว่า มันคงไม่ได้มีคลิกหรืออะไร ช่วงนี้ก็คงยังไม่หรอกครับ เป็นเรื่องของระยะเวลามากกว่า เราเองก็มาโฟกัสกับงาน ก็โอเค เข้มแข็ง”

 

     
       “เรื่องทำงานมันก็ทำเต็มที่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันก็อาจจะไม่ต้องมีห่วงอะไร ซึ่งมันก็แย่ เราก็ต้องมองให้มันเป็นทางบวกให้ได้ เรื่องของการเริ่มต้นใหม่ วันพรุ่งนี้เราก็ต้องตื่น เพราะยังมีงานไม่ว่าจะรายการทีวี หนัง ร้านอีก เราก็มาโฟกัสตรงนี้ดีกว่า วันข้างหน้าถ้ามันจะมีอะไรต้องเกิด มันก็คงเป็นธรรมชาติแล้วก็ว่ากันใหม่ เพราะว่าไม่มีเวลาจริงๆ(หัวเราะ) มันก็เหมือนกับเห็นแก่ตัวนะ เพราะชีวิตเราไม่มีอะไรเลย เวลาเรามีแฟนก็มีทีละคน แต่มันจะเป็นเรื่องของเวลาที่เราให้กับงานมากกว่า แต่ว่าที่เราทำหนักทุกวันนี้ มันก็เพื่อเราจะได้สบายในวันหน้า”

     

       “จะรับงานน้อยลงไหม จริงๆ ก็รับทีละเรื่องแล้วนะ แต่ว่าบางทีบางอย่างมันก็น่าเล่นซะจนอดไม่ได้ บางทีมันก็ดีเลย์จาก 5 เดือนมาเป็น 10 เดือน ดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจ หรือว่าเทคนิคอะไรต่างๆ ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้ ไม่รู้เหมือนกัน เป็นอย่างนี้แล้วความรักครั้งใหม่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไง ต้องรอให้มันเกิดก่อนล่ะครับ คือถ้าถามว่าให้เลือกละครกับแฟนเนี่ย จริงๆ แฟนทุกคนก็ดีหมดแหละ แต่เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของเวลาของเราดีกว่า เราก็ต้องเข้าใจ เพราะคนอื่นเขาก็ไม่ผิดที่จะไม่เข้าใจเรา ที่จะมาต้องการเวลาอะไรมาก เพราะไม่มีใครเขามาทำงานเวลานรกแบบเราที่ทำงานกัน อย่างบางทีตอนนี้ทำไมเราถึงยังไม่ได้กลับเข้าบ้านกัน”

 

     
        เผยกับครอบครัวฝ่ายหญิงไม่มีปัญหาอะไร เป็นการตัดสินใจของคนสองคน บอกโอกาสรีเทิร์นคงยาก “ผู้ใหญ่ทางเขาก็เข้าใจครับ เขาไม่ได้เข้ามายุ่งเลยนะ เป็นการตัดสินใจของเด็กๆ เอง ก็ยังได้คุยกับเขาครับ ก็เป็นอันว่าไม่ต้องพูดอะไรกันเยอะกว่านี้แล้ว ให้มันแค่นี้ดีกว่า ก็ถ้าจะมีใครเข้ามาก็คงต้องทำความเข้าใจกันตรงนี้ เพราะเราไม่ได้มีเจตนาร้าย เพราะเราทำก็เพื่อตัวเรา เพื่ออนาคตของเรา เพราะถ้าเรามีครอบครัวเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็ต้องดูแลเขาได้ อยู่ดีๆ จะมานั่งขอเงินแม่ตลอดเวลาก็ไม่ไหวนะ ผู้ชายด้วย”

     

       “โอกาสกลับมาเหมือนเดิมยังไม่ได้คิดเลย คงไม่น่าหรอกมั้ง เพราะเวลามันก็คงไม่เปลี่ยน เราก็ยังคงเป็นอย่างนี้อยู่ แต่ช่วงนี้ก็ได้พักเดือนนึง เดี๋ยวพอสิงหาคมก็เอาอีกแล้ว 3 เรื่องอีกแล้ว ละคร หนังไทยเรื่องนึง หนังฝรั่งเรื่องนึง คือสำหรับผมมองว่ามีความรักได้นะ แต่ด้วยเวลาของคนที่เขาต้องการเวลาจากผม คือมันก็ต้องมีช่วงว่างบ้างแหละ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย แต่บางคนเขาอาจจะต้องการอีกนิดหรืออะไร แต่มันก็ไม่ได้ ก็ขอโทษด้วย”

     

       “แต่เรื่องสร้างครอบครัวนี่นึกถึงมาตั้งแต่เด็กแล้ว คิดเรื่องอยากมีครอบครัวไว้ตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็จริงจังกับทุกคนที่เราคบ อยากทำให้มันดีที่สุด แต่สุดท้ายมันก็ยังดีกว่าที่มันจะสายเกินแก้ เพราะเราเป็นผู้ชายเราก็ยังมีโอกาส แต่ผู้หญิงเวลาผิดไปคนอื่นอาจจะมองว่า มันเสียโอกาสตรงนั้นแล้ว ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา แต่ถามว่าเหงาไหม มันก็ต้องมีแหละคนเรา แต่เอาเถอะรออะไรที่มันใช่ดีกว่า ก็ถือว่าที่ผ่านมาปีกว่าๆ ก็มีความรู้สึกดีๆ ความทรงจำดีๆ ทั้งนั้น”
     

 

       ออกโรงค้านคำหมอดูที่ออกมาทำนายว่า จะได้กลับไปรีเทิร์นรักกับอดีตหวานใจ “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” อีกครั้ง “หมอดูบอกว่าจะกลับไปรีเทิร์นกับจั๊กจั่นเหรอ ไม่มีครับ ไม่ได้ซีเรียสเลย เป็นคนไม่ได้หมกมุ่นเรื่องอะไรพวกนี้จริงๆ เพราะเวลาเรามีแฟน เราก็อยู่กับแฟนเราคนเดียวมาตลอด แต่กับจั่นไม่ได้เจอนานแล้วครับ การติดต่อก็หายๆ ไป ไม่ได้คิดอะไรเลย”