ผีวางหน้า3บุกสโต๊ค,หงส์วางตอร์หอกเด็ดกุหลาบ
Posted 24/10/2010 by siamsport
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรียกผู้เล่นตัวหลักกลับมาลงสนามครบครันในเกมที่จะบุกไปเยือน สโต๊ค ซิตี้ เช่นเดียวกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เน้นเต็มที่หวังเก็บ 3 คะแนนให้ได้ในเกมที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แบล็คเบิร์น ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2553
สโต๊ค ซิตี้ - แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม
โทนี่ พูลิส กุนซือ ช่างปั้นหม้อ ทำทีมเก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำถึง 10 คะแนนจาก 4 นัด ก่อนจะมาเสียท่าพ่าย โบลตัน 1-2 ในนัดล่าสุด ซึ่งโดนส่องประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บด้วย
สภาพทีม พูลิส ต้องจับตาสภาพความฟิตของ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ดาวยิงจาเมก้า อย่างเต็มที่ หลังจากหัวไหล่เคลื่อนในเกมกับ โบลตัน ทั้งที่ลงเล่นเป็นตัวสำรองได้ไม่กี่นาที จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน โดย ฟูลเลอร์ เพิ่งหายเจ็บข้อศอกกลับมาได้ไม่นาน
แดนหน้ายังไม่มี มามาดี้ ซิดิเบ้ กองหน้าจอมโขก ที่เจ็บยาวคนเดียว ที่เหลือไม่มีใครให้ต้องเป็นห่วง แต่ก็อาจปรับตำแหน่งนายประตูให้ อัสเมียร์ เบโกวิช ลงเฝ้าเสาบ้าง หลัง โธมัส โซเรนเซ่น ก่อความผิดพลาดที่ รีบ็อค สเตเดี้ยม
ระบบการเล่น 4-4-2 โธมัส โซเรนเซ่น ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, อับดูลาย ฟาย, แดนนี่ คอลลินส์ แดนกลางมี เจอร์เมน เพนแนนท์, รอรี่ ดีแล็ป, ดีน ไวท์เฮด, แม็ทธิว เอเธอริงตัน คู่หน้า โจนาธาน วอลเตอร์ส ยืนคู่ เคนวิน โจนส์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ปีศาจแดง มองหาชัยชนะนัดแรกในการออกไปเป็นทีมเยือนเกมลีก หลังจากก่อนหน้านี้ 4 นัดเสมอรวด เริ่มจาก ฟูแล่ม 2-2, เอฟเวอร์ตัน 3-3, โบลตัน 2-2 และ ซันเดอร์แลนด์ 0-0
สภาพทีมไม่มี เวย์น รูนี่ย์ ที่บาดเจ็บข้อเท้าต้องพัก 3 สัปดาห์ แต่ก็บทสรุปที่ดี เพราะนักเตะยอมเอ่ยปากขอโทษ และต่อสัญญาฉบับใหม่ 5 ปีออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังสร้างปัญหาเรื่องขอย้ายทีมมาตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา
ไรอัน กิ๊กส์ (เอ็นหลังหัวเข่า), จอนนี่ อีแวนส์ (สะโพก), อันโตนิโอ วาเลนเซีย (ข้อเท้า/พักยาว) เป็นอีกสามคนที่ไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ แต่ เฟอร์กี้ ก็จะเรียกนักเตะหลายคนที่ได้พักในเกมกับ บูร์ซาสปอร์ เมื่อวันพุธกลับมาเป็นตัวจริง ทั้ง ฟาน เดอร์ ซาร์, เบอร์บาตอฟ, เฟอร์ดินานด์ และ สโคลส์
ระบบการเล่น 4-3-3 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค แนวรุกใช้ นานี่, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น - โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, อับดูลาย ฟาย, แดนนี่ คอลลินส์ - เจอร์เมน เพนแนนท์, รอรี่ ดีแล็ป, ดีน ไวท์เฮด, แม็ทธิว เอเธอริงตัน - โจนาธาน วอลเตอร์ส, เคนวิน โจนส์
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค - นานี่, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์
ผีผูกขาดชนะรวด 4 นัดยิงครบโหล
สโต๊ค ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งโคจรมาพบกันในพรีเมียร์ลีกเพียงแค่สองฤดูกาลเท่านั้น หลังจากทีมช่างปั้นหม้อเลื่อนชั้นขึ้นมาในปี 2008 ซึ่ง ปีศาจแดง ผูกขาดชนะ แถม 4 นัด ยิงกระจุย 12 ลูก และยังไม่เสียประตูด้วย
ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกที่ทั้งคู่พบกันคือฤดูกาล 2008-09 ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยการเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่ม สโต๊ค 5-0 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงสอง, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงคนละหนึ่ง จากนั้น ปีศาจแดง ต้องเจองานหนักที่ บริทานเนีย กว่าจะชนะ 1-0 จากประตูท้ายเกมของ คาร์ลอส เตเวซ
ฤดูกาลที่แล้ว ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะที่ บริทานเนีย ง่ายดาย 2-0 เบอร์บาตอฟ กับ จอห์น โอเช ช่วยกันยิงประตูในครึ่งหลัง ก่อนจะกลับไปถล่มอีก 4-0 ที่โรงละครแห่งความฝัน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไรอัน กิ๊กส์, พาร์ค ชี-ซอง ช่วยกันยิง อีกลูก แดนนี่ ฮิกกินบอตแธม ยิงประตูตัวเอง
ลิเวอร์พูล - แบล็คเบิร์น
สนาม : แอนฟิลด์
รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ หงส์แดง อยู่ในช่วงเวลาที่กดดันสุดๆ ต้องชนะ แบล็คเบิร์น ให้ได้สถานเดียว เพราะเวลานี้ทีมจมอยู่รองบ๊วย เพิ่งชนะ เวสต์บรอมวิช ทีมเดียวเท่านั้น ที่เหลือเสมอ 3 และแพ้ถึง 4 แม้ว่าผลงานในยูโรปาลีกจะออกมาดี เพิ่งบุกไปเสมอ นาโปลี 0-0 เมื่อวันพฤหัสบดี แต่ก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไรต่อทีมเลย
ฮ็อดจ์สัน จะเรียกตัวหลักหลายคนที่ได้พักในเกมยุโรปกลับคืนสนาม ไม่ว่าจะเป็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ราอูล เมเรเลส และ ลูคัส เลว่า แถมแนวรับจะได้ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาด้วย
แต่ก็ต้องเช็กอาการบาดเจ็บของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักอย่างใกล้ชิด หลังบาดเจ็บเล็กน้อยจนถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งเกมกับ นาโปลี เพราะไม่ต้องการเสี่ยง ขณะเดียวกัน ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่พลาดเกมเยือนนาโปลี เพราะป่วย ก็จะกลับคืนทีม
แดนหน้าค่อนข้างสมบูรณ์ ยกเว้นคนเดียวคือ เดิร์ค เค้าท์ ตัวหลักที่ยังต้องพักอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะบาดเจ็บข้อเท้ามาจากสัปดาห์ทีมชาติ
ระบบการเล่น 4-2-3-1 โฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา แนวรับใช้ เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ กองกลางมี ราอูล เมเรเลส กับ ลูคัส เลว่า เป็นตัวตัดเกม แนวรุกวาง มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล หน้าเป้าใช้ เฟร์นานโด ตอร์เรส
แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือ กุหลาบเพลิง ต้องเล่น 10 คนตลอดครึ่งหลังของเกมเมื่อวันจันทร์ แต่ก็สามารถเสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ มาได้ 0-0 ทั้งที่มีโอกาสเอาชนะในเกมด้วย
คริสโตเฟอร์ แซมบ้า ที่โดนใบแดงตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก จะติดโทษแบนเกมนี้ แต่ก็มีลุ้นได้ ไรอัน เนลเซ่น กลับมาแทนตำแหน่ง หากหายเจ็บต้นขาทันเวลา หากไม่พร้อม ฟิล โจนส์ จะถอยกลับไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟตามเดิม
คีธ แอนดรูว์ส (โคนขาหนีบ), เจสัน โรเบิร์ตส์ (ข้อเท้า) และ วินซ์ เกรลล่า (เอ็นหลังหัวเข่า) บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงสนามทั้งหมด แต่ เดวิด ดันน์ น่าจะกลับมายึดตัวจริงได้อีกครั้ง หลังฟิตสมบูรณ์เต็มที่แล้ว
ระบบการเล่น 4-4-2 พอล โรบินสัน ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ มิเชล ซัลกาโด้, ฟิล โจนส์, กาแอล ชิเวต์, มาร์ติน โอลส์สัน แดนกลางมี เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, เดวิด ดันน์, มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น แดนหน้าวาง เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ เด็กเก่าหงส์แดง ยืนคู่ มาเม่ บิรัม ดิยุฟ
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ - ราอูล เมเรเลส, ลูคัส เลว่า - มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล - เฟร์นานโด ตอร์เรส
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน - มิเชล ซัลกาโด้, ฟิล โจนส์, กาแอล ชิเวต์, มาร์ติน โอลส์สัน - เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, เดวิด ดันน์, มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น - เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, มาเม่ บิรัม ดิยุฟ
ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์
หงส์เป่าปากโล่ง! สถิติยังข่มกุหลาบ
แฟนบอล ลิเวอร์พูล พอใจจะชื้นขึ้นมาได้มาก ก่อนเกมเปิดบ้านพบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส วันอาทิตย์นี้ เพราะสถิติที่ผ่านมาฟ้องชัดเจนว่า หงส์แดง มีผลงานเหนือกว่า เจอกันมา 23 นัดหลังในพรีเมียร์ลีก แพ้ กุหลาบไฟ เกมเดียวเท่านั้นที่ อีวู้ด พาร์ค เมื่อปี 2006
ตลอดช่วงเวลา 23 นัดที่พบกันมาในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 1997 หงส์แดง เป็นฝ่ายเอาชนะไม่ว่าจะเล่นเกมเหย้าหรือเยือนทั้งหมด 11 นัด เสมอกัน 11 นัด ปล่อยให้ กุหลาบไฟ เก็บชัยชนะเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเกมในช่วงบ็อกซิ่งเดย์ปี 2006 ที่ อีวู้ด พาร์ค
ยิ่งไปกว่านั้น แบล็คเบิร์น ยังไม่เคยบุกชนะที่ แอนฟิลด์ ในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ที่เคยมาชนะที่สนามแห่งนี้ 1-0 ในปี 1993 จากประตูชัยประตูเดียวของ ไมค์ นีเวลล์ ยกเว้นเกมเอฟเอ คัพ ที่ กุหลาบไฟ บุกชนะ 1-0 ในเกมรอบ 4 ปี 2000 โดย นาธาน เบล๊ค เป็นผู้ทำประตูชัย
โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19.30 น. สโต๊ค - แมนฯ ยูไนเต็ด
21.00 น. ลิเวอร์พูล - แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
22.00 น. แมนฯ ซิตี้ - อาร์เซน่อล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ผีเท3พันล้านป๋าชอปปีใหม่สไนเดอร์-เซโก้เป้าหลัก
เดลี่ สตาร์ สื่อดังของอังกฤษ เปิดเผยว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีงบประมาณให้เสริมทัพถึง 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,880 ล้านบาท) หลังจากต่อสัญญากับ เวย์น รูนี่ย์ เรียบร้อย โดยมี เวสลี่ย์ สไนเดอร์ จอมทัพ อินเตอร์ มิลาน และ เอดิน เซโก้ กองหน้า โวล์ฟสบวร์ก เป็นเป้าหมายใหญ่ปูดหงส์ทุ่มพันล้านล่าไรท์จิ๋ว-พาฟลิว-โจนส์
เว็บไซต์ คอท ออฟ ไซด์ ดอทคอม เผยเมื่อ 23 ต.ค. 53 เผย รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เตรียมขออนุมัติงบประมาณ 22 ล้านปอนด์ (1,100 ล้านบาท) จากบอร์ดบริหารชุดใหม่ เพื่อใช้เสริมทัพในเดือนมกราคมนี้ โดยมีเป้าหมายอยู่ที โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ของสเปอร์ส, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ของ แมนฯ ซิตี้ และ ฟิล โจนส์ ของ แบล็คเบิร์น โรเวอร์สเอ็นอีเอสวีตั้ง2ผู้บริหารนั่งเก้าอี้บอร์ดหงส์
นิวอิงแลนด์ สปอร์ตส์ เวนเจอร์ส ประกาศแต่งตั้ง เดวิด กินส์เบิร์ก กับ ไมเคิ่ล กอร์ดอน 2 ผู้บริหารระดับสูงเข้ารับตำแหน่งบอร์ด "หงส์แดง" โดยทั้งสองคนจะเดินทางมาชมแมตช์ พบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส สุดสัปดาห์นี้คอลีนเสริมสวยสักคิ้วโก่งฉลองรูนค่าเหนื่อยพุ่ง
สงสัยทำสวยหวังมีเสียวฉลองสัญญาใหม่ พร้อมแฮปปี้เบิร์ธเดย์ผัวรักแหงๆ คอลีน รูนี่ย์ โดนแชะ แอบไปสักคิ้วโก่งเพิ่มดีกรีความเซ็กซี่ หลัง เวย์น รูนี่ย์ หวานใจคนเดิม กลับลำอยู่โยง "ปีศาจแดง" แถมฟันค่าเหนื่อยกระฉูดแตกวีกละ 12 ล้านบาท
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์