ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือเลือดกระทิง ของ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน เปิดเผยว่า ดีเอโก้ มิลิโต้ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ มีลุ้นเป็นตัวสำรองในเกมที่จะเจอกับ "กริโฟเน่" เจนัว ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา วันเสาร์ที่จะถึงนี้ หลังจากสามารถสลัดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อได้แล้ว

     ราฟาเอล เบนิเตซ โค้ช อินเตอร์ มิลาน สโมสรมหาอำนาจแห่งวงการลูกหนังเมืองมะกะโรนี ออกมาเปิดเผยว่า ดีเอโก้ มิลิโต้ ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินา หายขาดจากอาการบาดเจ็บแล้ว และถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็อาจมีชื่อเป็นตัวสำรอง ในเกมที่จะบุกไปเยือน เจนัว ที่สนามลุยจิ แฟร์ราริส ในวันเสาร์ที่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้
 
     มิลิโต้ เจ็บกล้ามเนื้อจากการช่วยทัพ "ฟ้า-ขาว" ในช่วงปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา และอดลงสนามให้ทัพ "เนรัซซูรี่" มาร่วมเดือนแล้ว แต่มีสิทธิรีเทิร์นในเกมเยือน เจนัว ที่เขาเคยล่าตาข่ายให้เป็นช่วงระยะเวลา 3 ปี ก่อนย้ายมาที่ อินเตอร์ มิลาน
 
     กุนซือเจ้าของฉายา "เอล บอส" กล่าวว่า "เราสามารถซ้อมหนักขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ เราได้ มิลิโต้, (เนลสัน) ริวาส และ มันชินี่ กลับมา วันนี้เป็นการฝึกซ้อมช่วงสุดท้ายแล้ว และเราจะรอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น สำหรับนักเตะที่เพิ่งกลับมาอย่างมิลิโต้ เราคงไม่คาดหวังว่าเขาจะเล่นครบ 90 นาที เราจะรอดูว่าจะสามารถให้เขากลับมาเล่นในเกมที่จะเจอกับ ท็อตแน่ม หรือไม่"
 
     "เมื่อวานนี้ ดีเอโก้ ต้องการจะซ้อมให้หนักมากกว่าเดิม แต่ผมบอกเขาไปว่าให้ระมัดระวังตัวหน่อย ถ้าหากเขาไม่มีปัญหาอะไรในเย็นวันนี้ เขาจะถูกเลือกให้มีชื่ออยู่ในทีมเป็นอย่างน้อย ผมไม่รู้ว่า ใครเป็นคนรวบรวมข้อมูลรายชื่อนักเตะที่มีชื่อชิงรางวัลบัลลง ดอร์ แต่สำหรับผม มิลิโต้ สมควรมีชื่อ มันน่าแปลกมาก เราทุกคนต่างมึนงงในเรื่องนี้" บิ๊กบอสจอมแท็กติก ร่ายยาว
 
     ขณะเดียว นายใหญ่แห่งถิ่น จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า เปิดเผยอีกว่า จะไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนการเล่นมาใช้ระบบศูนย์หน้าคู่ ถึงแม้ว่า หัวหอกวัย 31 ปี จะหายเจ็บกลับมาแล้วก็ตาม โดยให้เหตุผลว่า "สัปดาห์หน้า ถ้าหาก มิลิโต้ นั้นสามารถลงเล่นได้ พวกนักข่าวคงจะถามผมอีกครั้งถึงการใช้แผนการเล่นแบบเพชร โดยมีกองหน้าสองคน"
 
     "แบบนี้มี (ซามูเอล) เอโต้ คนเดียวคงดีกว่า ดีเอโก้ จะเป็นผู้เล่นที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา เราจะต้องให้เขากลับมาอย่างใจเย็นๆ พวกเราเล่นกันได้ดีในเกมที่เจอกับ ซามพ์โดเรีย (เสมอ 1-1) พวกเรายิงตรงกรอบถึง 20 ครั้ง ดังนั้นมันจึงยังไม่มีเหตุผลที่จะต้องปรับเปลี่ยนแผน"