ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2553
ลิเวอร์พูล - เชลซี
สนาม : แอนฟิลด์

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมเรียกผู้เล่นชุดใหญ่กลับมาลงสนามครบครันในเกม "บิ๊กแมตช์" ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมจ่าฝูง "สิงห์บลู" เชลซี ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้

 
     รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ หงส์แดง เพิ่งนำทีมเอาชนะ นาโปลี 3-1 ในศึกยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 เมื่อวันพฤหัสบดี โดยได้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นตัวสำรองลงสนามในครึ่งหลัง ยิงแฮตทริกช่วยให้ทีมพลิกชนะ
 
     สภาพทีม ฮ็อดจ์สัน จะเรียก เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่ง ที่ให้พักในเกมยุโรป กลับมาเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับ เจอร์ราร์ด และ มักซี่ โรดริเกซ ในแดนกลาง
 
     อย่างไรก็ตาม ดาวิด เอ็นก็อก กองหน้าตัวสำรอง บาดเจ็บจากเกมกับ นาโปลี ทำให้ต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเกมนี้ ขณะเดียวกัน เดิร์ค เค้าท์ ที่บาดเจ็บข้อเท้า ก็สภาพร่างกายดีขึ้นมาก มีลุ้นคืนสนามเช่นกัน
 
     แนวรับกลับมาสมบูรณ์ เมื่อ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาตัวเก่ง ฟิตกลับมาเป็นตัวจริงในเกมยุโรปแล้ว และ มาร์ติน สเคอร์เทล ที่ได้พักเป็นสำรองเกมยุโรป ก็จะกลับมาเป็นตัวจริงคู่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อีกครั้ง
 
     อย่างไรก็ตาม โจ โคล กองกลางตัวรุก อดเจอทีมเก่าเพราะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า จากเกมที่บุกชนะ โบลตัน 1-0 ต้องพักประมาณ 2 สัปดาห์ ขณะที่ ไรอัน บาเบล ที่เจ็บซี่โครงฟิตกลับคืนทีม
 
     ในราย ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ปราการหลังทีมชาติเดนมาร์ก ที่บาดเจ็บน่อง ยังต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และยังคงต้องได้รับการดูแลจากนักกายภาพบำบัดของทีมต่อไป
 
     ระบบการเล่น 4-2-3-1 โฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา แนวรับใช้ เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ แดนกลางมี ราอูล เมเรเลส เป็นตัวรับคู่ ลูคัส เลว่า ส่วนแนวรุกใช้ มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มิลาน โยวาโนวิช โดยมี เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นกองหน้าตัวเป้า
 
     ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม นำทีมไล่ถล่ม สปาร์ตัก มอสโก ทีมจากรัสเซีย 4-1 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้เก็บชัยชนะรวด 4 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์แบบไร้ปัญหา
 
     สภาพทีม ไมเคิ่ล เอสเซียง (นิ้วเท้า) กับ ฟลอร็องต์ มาลูด้า (ข้อเท้า) ต้องทดสอบความฟิตว่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้หรือไม่ ซึ่ง เอสเซียง มีโอกาสคืนสนาม แต่ มาลูด้า ยังไม่แน่ หลังพลาดเกมยุโรปมาทั้งคู่ เช่นเดียวกับ โชเซ่ โบซิงวา แบ็กขวาโปรตุกีส ที่ป่วย
 
     ในราย แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางคนสำคัญ ที่เดิมทีถูกคาดหมายว่าจะพร้อมสำหรับเกมบิ๊กแมตช์ที่ แอนฟิลด์ แต่ปรากฏว่า แลมพ์ส จะเริ่มต้นซ้อมทีมสัปดาห์หน้า นั่นก็หมายความว่าไม่พร้อมสำหรับเกมวันอาทิตย์นี้แน่นอน
 
     อย่างไรก็ตาม จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีม ที่ได้พักเป็นตัวสำรอง และไม่ต้องลงสนามในเกมยุโรปเมื่อวันพุธ จะกลับมาเป็นตัวหลักในแผงหลังร่วมกับ อเล็กซ์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และ แอชลี่ย์ โคล ตามเดิม
 
     ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางมี ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, ยูริ เซียร์คอฟ สามประสานแดนหน้าใช้ นิโกล่าส์ อเนลก้า , ฟลอร็องต์ มาลูด้า หรือ ซาโลมง กาลู และ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
 
     รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ - ราอูล เมเรเลส, ลูคัส เลว่า - มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มิลาน โยวาโนวิช - เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
     เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, ยูริ เซียร์คอฟ - นิโกล่าส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า(ซาโลมง กาลู), ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
 
     ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

สิงห์บุกชนะที่แอนฟิลด์ 2 นัดหลัง

 
     ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ต้องโคจรมาพบกันมากถึง 26 นัดจาก 6 ฤดูกาลหลังสุด เพราะมักจะมีโปรแกรมบอลถ้วยกับบอลยุโรปเข้ามาเพิ่มอยู่เป็นประจำ โดย 26 นัดที่พบกัน สิงโตน้ำเงินคราม เอาชนะได้ถึง 12 นัด ส่วน หงส์แดง เอาชนะไป 7
 
     การพบกันของทั้งสองทีมในทุกรายการ 8 นัดหลังสุด ทั้งคู่ช่วยกันยิงแหลก 26 ประตู โดยไม่มีเกมไหนเสมอกันแบบไม่มีประตูเกิดขึ้นเลย ขณะที่ผลงานใน แอนฟิลด์ สองนัดหลังสุด สิงโตน้ำเงินคราม เป็นฝ่ายบุกชนะได้ทั้งสองครั้ง เป็นเกมยุโรปฤดูกาล 2008-09 ที่ เชลซี บุกชนะ 3-1 และเกมลีกฤดูกาล 2009-10 เชลซี บุกชนะ 2-0
 
     ผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เชลซี เริ่มต้นด้วยชัยชนะ 2-0 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดย นิโกล่าส์ อเนลก้า กับ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ช่วยกันยิงประตูในครึ่งหลัง ส่วนอีกนัดที่ สิงห์บลูส์ บุกชนะ 2-0 ที่ แอนฟิลด์ ได้ประตูจาก ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด

รอยรับไม่อยากให้พึ่งเจิดคนเดียว

 
     รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับว่าไม่อยากให้ทีมต้องพึ่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด เพียงคนเดียว หลังจากมิดฟิลด์กัปตันทีมรายนี้เพิ่งสวมบทซูเปอร์ซับสังหารแฮตทริคพา หงส์แดง พลิกกลับมาชนะ นาโปลี 3-1 ในศึกยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
 
     "ผมต้องการให้นักเตะทุกคนยกระดับการเล่นขึ้นมา และไม่ต้องการให้ผลงานของเราขึ้นอยู่กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด หรือ เฟร์นานโด ตอร์เรส เท่านั้น ผมต้องการให้ผลงานของเราขึ้นอยู่กับผู้เล่นทุกคนที่ได้รับเสื้อของ ลิเวอร์พูล และมีสัญญากับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้"
 
     "ผมมีความสุขกับฟอร์มการเล่นในช่วง 1-2 เกมหลังสุด เพราะผมสามารถเห็นรูปแบบของทีมมากขึ้น รวมทั้งความทุ่มเท และพลังที่พวกเขาใส่ลงสู่เกม ทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น หลังจากเรามีการออกสตาร์ทที่ย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ มันต้องใช้เวลาอีกสักพักที่จะนำตัวเองออกจากปลักโคลน แต่อย่างน้อยที่สุดเราพยายามเต็มที่เพื่อจะหลุดพ้นออกมา"

เจทีมั่นใจสิงห์บลูส์มาเพื่อชัยชนะ

 
     จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีม เชลซี ยืนยันทีมของเขาจะมาเยือน แอนฟิลด์ เพื่อชัยชนะเท่านั้น เพราะมั่นใจในศักยภาพของทีมเวลานี้ และไม่เคยหวั่นใจไม่ว่าคู่แข่งของทีมจะเป็นใครก็ตาม
 
     "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเริ่มกลับมาทำผลงานดีขึ้นแล้ว แอนฟิลด์ เป็นสนามที่ยากในการมาเยือนเสมอ แต่เราก็เชื่อมั่นว่าเรากำลังทำผลงานได้ดีในเวลานี้ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่เราไปเยือน และไม่ว่าคู่แข่งของเราจะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม เราเชื่อมั่นถึงชัยชนะ และเราต้องจัดการเกมของพวกเขา"
 
     "เราทำผลงานได้ดีที่นั่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มันเป็นชัยชนะที่สำคัญมาก ในเกมที่มีความสำคัญและเต็มไปด้วยความกดดัน เราต้องการรักษาความได้เปรียบในเรื่องนั้น ขณะที่พวกเขายังอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ดีนัก เราต้องการเก็บสามคะแนนในเกมนี้" เทอร์รี่ กล่าว 

โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
20.30 น. อาร์เซน่อล - นิวคาสเซิ่ล
22.00 น. เวสต์บรอมวิช - แมนฯ ซิตี้
23.00 น. ลิเวอร์พูล - เชลซี