"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค โชว์ฟอร์มดุ เมื่อเปิดรังไล่ถล่ม เนิร์นแบร์ก 3-0 ขณะที่ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เล่นในบ้านตัวเองกลับพ่าย ไฟร์บวร์ก 0-1 ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553
ฮอฟเฟ่นไฮม์ 0 - 1 ไฟร์บวร์ก

สนาม : ไรน์-เน็คการ์ อารีน่า 

 
     ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ปรับทัพมาใช้ระบบ 4-2-2-2 ให้ บอริส วุคเซวิช กับ กิลฟี่ ซิเกิร์ดสัน คอยทำเกมรุก และใช้ เพเนียล เอ็มปาลา กับ เด็มบา บา สองดาวยิงผิวสีตัวเก่งจับคู่ล่าตาตาข่าย
 
     ฟาก "สุนัขจิ้งจอกร้ายแห่งป่าดำ" ไฟร์บวร์ก ของเทรนเนอร์ โรบิน ดุทท์ ปรับทัพจากเกมล่าสุดแค่จุดเดียว ถอด ดาเนียล วิลเลียมส์ เป็นสำรอง และส่ง เมนซูร์ มุดซ่า ลงมายืนเป็นแบ็กขวา ที่เหลือเป็นชุดเดิมทั้งหมด โดยมี ปาปิส เดมบา ซิสเซ่ ยืนเป็นหน้าเป้า
 
     เปิดฉากเริ่มเกมมา 10 นาที เกือบเป็นทีมเยือน สุนัขจิ้งจอกร้ายแห่งป่าดำ ทะยานขึ้นนำไปก่อน จากลูกฟรีคิกที่ ยูเลียน ชูสเตอร์ โยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ แยน โรเซนธาล สอดเข้ามาดีดบอลหลุดเสาสองออกไปไม่ถึงคืบ
 
     ถัดมา 11 นาทีเจ้าบ้านมาทิ้งโอกาสทองในการออกนำไปแบบเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ บอริส วุคเซวิช เปิดบอลมาให้ ซิเกิร์ดส์สัน จับบอลลงอย่างเนียนและซัดด้วยขวาทันที บอลพุ่งไปเช็ดคานออกหลังอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่โอลิเวอร์ เบามันน์ นายด่านทีมเยือนพุ่งไม่ถึงแล้ว
 
     จังหวะต่อมาไม่ถึงนาทีเกือบเป็นอาคันตุกะมาออกนำจากลูกโต้กลับเร็ว โดยเป็น อิซัค วอร์ซาห์ กองหลังกานาของเจ้าบ้านที่สกัดบอลพลาด เปิดโอกาสให้ เดมบา ซิสเซ่ ได้ลากบอลไปสับไกเรียดเฉี่ยวออกหลังไปเส้นย่าแดงผ่าแปด
 
     เกมของทั้งสองทีมผลัดกันบุกอย่างเข้มข้น นาที 31 ซิเกิร์ดส์สัน เปิดลูกฟรีคิกยาวมาให้ วุคเซวิช สลัดหนี โอลิเวอร์ บาร์ธ เข้าไปชาร์จบอลติดเซฟ เบามันน์ ที่ปฏิกิริยาไวสุดยอดยกแขนปัดบอลออกหลังไปได้ทัน
 
     ช่วงท้ายครึ่งแรกอาคันตุกะมาได้เสียวอีกครั้ง จากจังหวะที่ เดมบา ซิสเซ่ ได้หลุดเข้าไปอัดบอลมุมแคบเต็มข้อไปเข้าข้างตาข่าย จบ 45 นาทีแรกสกอร์บอร์ดของสองฝั่งยังไม่มีการขยับ เสมอกันอยู่ 0-0
 
     กลับลงมาสู้กันต่อในเกมครึ่งเวลาหลัง เทรนเนอร์ของทั้งสองฝั่งยังไม่มีการขยับตัวเปลี่ยนแปลงผู้เล่น และเขี่ยลูกเริ่มเกมมาได้นาทีเดียว เป็นเจ้าบ้านมาทักทายก่อนเลย เด็มบา บา ลากบอลหนี บาร์ธ ขึ้นมาทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนตบบอลเข้ากลางมาให้ ซิเกิร์ดส์สัน อัดบอลโด่งกำลังจะหมุดลง ทว่า เบามันน์ ยังไม่พลาดตามมาตะครุบรับบอลไว้ทัน
 
     เกมครึ่งหลังเป็นเจ้าบ้านที่แก้เกมมาได้ดี ครองบอลบุกใส่ทีมเยือนตลอด นาที 59 อันเดรียส์ เบ็ค แบ็กขวาทีมชาติเยอรมนีสาดบอลย่าวขึ้นมาให้ วุดเซวิช สปีดไปรับบอล และเปิดเข้ากลางมาถึง บา จับบอลลงไม่เชื่องเท้า ทำให้ชวดโอกาสลั่นไกไปอย่างน่าเสียดาย
 
     เข็มนาฬิกาเดินผ่านหนึ่งชั่วโมงมาหกนาที รังนิก ทำการปรับแท็กติกเปลี่ยนผู้เล่นสองคนรวด ถอด วุคเซวิช กับ เอ็มปาลา ออกมา และส่ง เวดัด อิบิเซวิช กับ เซยาด ซาลิโอวิช ลงไปบู๊แทน
 
     นาที 69 ทีเยือนมาได้เสียวจากลูกฟรีคิก ชูสเตอร์ โยนบอลเข้ามาใรกรอบเขตโทษถูก ดาเนียล ฮาส ชกบอลออกมาเข้าทาง ยาซิน อับเดสซาดกี้ ได้ตั้งป้อมสวนอัดบอลหลุดกรอบไปหวุดหวิด
 
     เจ็ดนาทีต่อมา บา เกือบสวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยให้ทางเจ้าถิ่น เมื่อเจ้าตัวฉีกไปรีบบอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเลี้ยงหนี มุดซ่า ตัดเข้าในมาสับไกระยะ 15 เมตร ทว่า เบามันน์ ยังเหนียวหนึบ เหินปัดบอลออกหลังไปได้อย่างสุดยอด  
 
     จนกระทั่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 91 สิ่งที่แฟนบอลเจ้าบ้านไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมาโดนทีมเยือนมายิงประตูชันในเกมนี้แบบหมดสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ จากจังหวะที่ สเตฟาน ไรซิงเกอร์ ไหลบอลต่อมาให้ เดมบา ซิสเซ่ วิ่งสอดมารับบอลเข้าไปซัดสวนตัว ฮาส เสยตาข่ายบนด้านขวาเข้าไปแบบเฉียบขาด เป็นลูกที่ 10 ในซีซั่นของเจ้าตัวด้วย ไฟร์บวร์ก บุกนำ 1-0
 
     และผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดยาวจบเกมนี้ทันที ส่งผลให้ ไฟร์บวร์ก บุกมาคว้าสามแต้มเต็มกลับบ้าน กระโดดขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตารางแล้ว 
 
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     ฮอฟเฟ่นไฮม์ : ดาเนียล ฮาส - อันเดรียส์ เบ็ค, อิซัค วอร์ซาห์, มาร์วิน คอมป์เปอร์, อันเดรียส์ อิแบร์ทสแบร์เกอร์ (เดนิส โทมัลล่า น.87) - หลุยซ์ กุสตาโว่, เซบาสเตียน รูดี้ - บอริส วุคเซวิช (เวดัด อิบิเซวิช น.66), กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน - เพเนียล เอ็มปาลา (เซยาด ซาลิโฮวิช น.66) - เด็มบา บา

     สำรองไม่ได้ใช้ : เยนส์ กราช์ล, มัทธีอัส ไยส์เล่อ, คริสเตียน ไอช์เนอร์, ปริ๊นซ์ ทาโก้ 
 
     ไฟร์บวร์ก : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เมนซูร์ มุดซ่า, โอลิเวอร์ บาร์ธ, โอเมอร์ ท็อปรัค, เฟลิกซ์ บาสเตียนส์ - ยูเลียน ชูสเตอร์ - แยน โรเซนธาล (สเตฟาน ไรซิงเกอร์ น.81), ยาซิน อับเดสซาดกี้, แอนทอน พุทซิล่า (ดาเนียล คาลิกูรี่ น.84), เซดริค มาเคียดี้ - ปาปิส เดมบา ซิสเซ่

     สำรองไม่ได้ใช้ : มานูเอล ซัลซ์, ดาเนียล วิลเลียมส์, อิวิก้า บาโนวิช, มักซิมิเลียน นิคู, กิโช ยาโนะ
 
     ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซเวเยอร์

บาเยิร์น มิวนิค 3 - 0 เนิร์นแบร์ก

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า 

 
     หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์ดัตช์ของ บาเยิร์น มิวนิค  ยึดผู้เล่น 11 คนแรกเป็นชุดเดิมทั้งหมด ทว่าที่ม้านั่งสำรองได้ ดีเอโก้ คอนเตนโต้, มาร์ค ฟาน บอมเมล และ ฟร้องค์ ริเบรี่ กลับคืนสู่ทีมแล้ว
 
     ด้านทีมเยือน เนิร์นแบร์ก ภายใต้การคุมทีมของ ดีเตอร์ เฮ็คกิ้ง ปรับทัพจากเกมล่าสุดแค่ตำแหน่งเดียว ดร็อป ไมค์ ฟร้านซ์ เป็นสำรอง และส่ง คริสเตียน ไอก์เลอร์ ลงมาทำเกมรุกร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน กับ เมห์เม็ต เอคิซี่ หน้าเป้าเป็น ยูเลียน ชีเบอร์
 
     เริ่มเกมมา 10 นาทีเป็นเจ้าบ้าน "เสือใต้" ที่มาเบิกสกอร์ขึ้นนำ 1-0 แต่หัววัน จากจุดเริ่มต้นที่ โทนี่ โครส แทง
บอลตัดหลัง เพอร์ นีลส์สัน มาให้ ดานิเยล ปรานยิช แบ็กซ้ายเติมเกมบุกขึ้นมาจ่ายต่อให้ มาริโอ โกเมซ กดบอลด้วยขวาเสียบตาข่าย เป็นประตูที่ 6 ของ โกเมซ ในซีซั่นนี้ด้วย
 
     เกมยังเป็นของทางเจ้าบ้านที่เหนือกว่าจมหู และเกือบมาบวกลูกที่สองได้ในนาที 24 จากลูกฟรีคิกที่ ปรานยิช เปิดบอลยาวจากกลางสนามขึ้นมาให้ มาร์ติน เดมิลิส สอดขึ้นมาชาร์จบอลโล่งๆคนเดียวหลุดออกหลังไปไม่ถึงคืบ
 
     เกมรุกของ เสือใต้ ยังเน้นขึ้นทาง ปรานยิช เป็นหลัก และเกือบมาเห็นผลอีกครั้ง จากจังหวะที่ ยูริ ยูดท์ พลาดท่าเสียบอลให้ ปรานยิช ได้หลุดไปเปิดบอลต่อให้ โกเมซ ทว่า นีลส์สัน ยังไวตามมาบล็อคสกัดบอลออกหลังได้ทันก่อน โกเมซ เข้าถึงหวุดหวิด
 
     นาที 37 อาคันตุกะมาได้โอกาสส่องประตูลุ้นประตูเป็นครั้งแรกของเกม จาการลองลากบอลเข้ามาซัดไกลระยะ 25 เมตรของ เยนส์ เฮเกแลร์ ทว่าบอลก็เหินโด่งข้ามคานออกไป
 
     สองนาทีถัดมา เสือใต้ มาพลาดโอกาสขยับสกอร์บอร์ดเพิ่ม จากการประสานงานของสองดาวเตะทีมชาติเยอรมนี โกเมซ เก็บบอลได้ ก่อนแปะคืนหลังมาให้ โครส แต่งบอลห่จังหวะส่องบริเวณกหัวกะโหลก บอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปได้ลุ้น และจบ 45 นาทีแรก เป็นเจ้าถิ่น บาเยิร์น มิวนิค ออกนำ 1-0
 
     ช่วงพักครึ่งเทรนเนอร์ของทั้งสองทีมปรับแท็กติกเปลี่ยนตัวผู้เล่นฝั่งละคน ฟาน กัล ถอด เดมิเชลิส ออกมา และส่ง เบรโน่ ปราการหลังบราซิเลียนลงไปเล่นแทน ด้าน เฮ็คกิ้ง ถอด เฮเกแลร์ ออกมา และส่ง ไมค์ ฟร้านซ์ ลงไปบู๊แทน
 
     กลับลงมาเล่นในเกมครึ่งหลังถึงนาที 53 เป็นทีมเยือนที่พลาดโอกาสตีเจ๊าอย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ ฟร้านซ์ ลากบอลหนี ดาเนียล ฟาน บุยเต็น ที่อืดเป็นเรือเกลือ และจ่ายเข้ากลางต่อให้ ชีเบอร์ ได้ซัดบอลระยะ 6 หลาเหินข้ามคานออกไปแบบไร้ราคา
 
     กระทั่งนาที 57 ผู้ตัดสิน ทอร์สเท่น คินโฮเฟอร์ ก็มาเป่าให้จุดโทษให้แก่เจ้าบ้าน จากจังหวะที่ ราฟาเอล เชเฟอร์ ไปทำฟาวล์ โกเมซ ในกรอบเขตโทษ และเป็น ฟิลิปป์ ลาห์ม แบ็กขวากัปตันทีม รับอาสาสังหารซัดบอลเข้าไปไม่มีพลาด บาเยิร์น มิวนิค หนีห่าง 2-0
 
     นาที 70 แฟนบอลในสนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ต่างลุกขึ้นยืนปรบมือให้กำลังใจแก่ ริเบรี่ ที่กลับมาลงสนามเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองเดือน โดย ริเบรี่ ถูกส่งลงมาแทนที่ โครส
 
     "เจ้าบาก" ลงมาสัมผัสสนามได้แค่นาทีเดียว เกือบทำให้ เสือใต้ ได้สกอร์ที่สาม จากจังหวะที่ ริเบรี่ โชว์การเลี้ยงบอลหลอกหลบหนี ยูดท์ มานิ่มๆ และจ่ายบอลต่อให้ โธมัส มุลเลอร์ ตัวสำรองยิงบอลไม่ผ่านมือ เชเฟอร์ ที่ล้มตัวตะครุบรับบอลอยู่หมัด
 
     กระทั่งนาที 75 เจ้าบ้านก็มาตอกตะปูฝังทีมเยือนลงสนิท และเป็น ริเบรี่ โยนลุกเตะมุมเข้ามาให้ โกเมซ เทกขึ้นโขกบอลเสียบตาข่าย บาเยิร์น ฉีกไกล 3-0
 
     เกมยังเป็นของ เสือใต้ ที่ไล่ขย้ำเหยื่อแบบเมามันส์ และก็มาได้ลูกจุดโทษอีกคำรบ จากจังหวะที่ ฮาเวียร์ ปิโนล่า ไปทำฟาวล์ มุลเลอร์ ในกรอบเขตโทษจนคว่ำ และเป็น โกเมซ ที่ลุ้นซัดแฮตทริคขออาสาสังหาร ทว่า โกเมซ กลับอัดบอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปแบบหมูตู้ ชวดทำแฮตทริคตามระเบียบ
 
     อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาวจบเกม บาเยิร์น มิวนิค ก็กำชัยเก็บสามแต้มสบายเท้าด้วยการไล่ถล่ม เนิร์นแบร์ก 3-0 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6 ของตารางด้วยการมี 19 คะแนน
 
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     บาเยิร์น มิวนิค : ฮันส์-ยอร์ก บุทท์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, ดาเนียล ฟาน บุยเต็น, มาร์ติน เดมิเชลิส (เบรโน่ น.46), ดานิเยล ปรานยิช - อนาโตลี ติมอสชุค, อันเดรียส์ อ๊อตเติ้ล - ฮามิต อัลตินท็อป (โธมัส มุลเลอร์ น.56), บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โทนี่ โครส (ฟร้องค์ ริเบรี่ น.70)- มาริโอ โกเมซ
     สำรองไม่ได้ใช้ : โธมัส คราฟท์, ดีเอโก้ คอนเตนโต้, ดาวิด อลาบา, มาร์ค ฟาน บอมเมล
 
      เนิร์นแบร์ก : ราฟาเอล เชเฟอร์ - ยูริ ยูดท์, อันเดรียส โวล์ฟ, เพอร์ นีลส์สัน, ฮาเวียร์ ปิโนล่า - ทิมมี่ ซิมงส์, เยนส์ เฮเกแลร์ (ไมค์ ฟร้านซ์ น.46) - อิลคาย กุนโดกัน, เมห์เม็ต เอคิซี่ (โรเบิร์ต มักซ์ น.74), คริสเตียน ไอก์เลอร์ (อัลมอง โคเฮน น.79) - ยูเลียน ชีเบอร์
     สำรองไม่ได้ใช้ : อเล็กซานเดอร์ สเตฟาน, โดมินิค มาโรห์, ปาสกาล บีเลอร์, มาเร็ค มินทาล
 
     ผู้ตัดสิน : ทอร์สเท่น คินโฮเฟอร์